แม่ค้าหน้าหวาน
ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่เป็นที่พึงใจของสาว ๆ เท่านั้น เหล่าเสืออากาศทั้งหลายก็ถูกอกถูกใจกันเป็นอย่างยิ่งที่ได้วิ่งไปมองสาวไป ช่างมีความสุขเหลือเกิน ไม่เว้นแม้หมวดเก่งกล้าผู้ได้รับหน้าที่เป็นผู้นำ จะมีก็แต่หมวดภูผาที่วิ่งหน้าตึงไม่มองหน้ามองหลังมองข้างอยู่คนเดียว เขายังคงเป็นเสืออากาศก้อนหินคนเดิมที่ไม่เคยวอกแวก อยู่ในกรอบเสมอ
ทั้งหมดวิ่งผ่านคลองไปจนถึงบริเวณที่เป็นตลาดเย็นภายในคลอง มีแม่ค้าพ่อค้าหลากหลายวัยพายเรือมาขายของ ทหารหนุ่มทั้งหลายมองลงไปตลาดน้ำ พลันนั้นก็มีเสียงกระซิบกระซาบมาเข้าหูผู้หมวดภู
“ เฮ้ย ! มึงดูแม่ค้าคนนั้นดิ น่ะ ที่ขายขนมไทยอะ น่ารักชิบเป๋งเลยว่ะ ”
“ ไหน ๆ คนไหน ”
“ นั่นไง ที่เกล้าผมขึ้นน่ะ แก้มใส ตาหวานเลย ”
“ เออ จริงด้วย ๆ ”
“ ตลาดเลิกกี่โมงวะ ฝึกเสร็จมากัน ”
“ โอเค ”
ผู้หมวดภูอดมองตามสิ่งที่น้อง ๆ พูดถึงไม่ได้ เขามองลงไปยังตลาดน้ำเล็ก ๆ ที่มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือเอาของมาขายหลากหลาย แล้วสายตาก็ไปกระทบกับร่าง ๆ หนึ่ง
หญิงสาวตัวเล็กบอบบางนั่งอยู่ในเรือ ใส่เสื้อม่อฮ่อมแขนยาวสีน้ำเงิน ผ้าถุงสีเดียวกัน ผมเกล้าขึ้นไปขมวดไว้กลางศีรษะ ใบหน้าปราศจากการแต่งแต้มสีสันใด ๆ ตากลมโต จมูกโด่งเล็ก ริมฝีปากอิ่มแย้มยิ้มนิด ๆ อยู่ตลอด ส่งให้ใบหน้านั้นยิ่งดูหวานขึ้นไปอีก เบื้องหน้าเธอมีกระจาดใส่ขนมที่เขามองไกล ๆ พอเห็นว่าเป็นขนมตาล ขนมใส่ไส้ และอีกสามสี่อย่างที่เขามองไม่ถนัด
เธอส่งขนมให้ลูกค้าพร้อมรอยยิ้มอันหวานใส เมื่อเห็นว่ามีทหารวิ่งฝึกอยู่ก็เลยเสมองขึ้นมาด้วยเหมือนคนอื่น ๆ ใบหน้านั้นยังเปื้อนยิ้มอยู่ ผู้หมวดภูผาเผลอมองลงไปสบตากับเธอโดยไม่รู้ตัว
***
เมื่อกลับมาจากวิ่งก็ได้เวลาอาบน้ำและรับประทานอาหาร หลังจากนั้นก็เป็นเวลาส่วนตัวที่เหล่าเสืออากาศจะได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ซึ่งหมวดภูใช้เวลานั้นกางแผนที่เพื่อศึกษาเส้นทางและที่ตั้งของจอมโจรเล่าตงผู้ผลิตและค้ายาเสพติดรายใหญ่
“ ภู ไปเดินเล่นกัน ” เก่งกล้าเอ่ยชวนเพื่อนเมื่ออาบน้ำปะแป้งเรียบร้อย
“ เดินเล่นที่ไหนวะ กูดูแผนที่อยู่เนี่ย ”
“ เออ มึงก็รีแล็กซ์บ้างสิวะ มีเวลาอีกหลายวัน วันนี้เดินทางก็เหนื่อยกันแล้ว ”
“ เราไม่ควรประมาทนะ พวกนี้มันมีคนหนุนหลังที่ใหญ่พอสมควร อาวุธหนักมันอาจจะมากกว่าเราก็ได้ ” เก่งกล้าถอนใจเฮือก เบื่อหน่ายในความมุ่งมั่นเหลือเกินของเพื่อน บางทีก็ตึงจนเกินไป ตึงมาก ๆ มันจะขาดเอาได้
“ มึงฟังกูนะ ไปเดินเล่นแป๊บเดียว ถือว่าไปสำรวจสถานที่ตั้งของเรารอบ ๆ ก็ได้ เผื่อพวกมันบุกมาไม่รู้ตัวจะได้รู้ทางหนีทีไล่ไง ” เขาพยายามหาเหตุผลมาหว่านล้อม ภูผานิ่งไปครู่หนึ่งก็พยักหน้า
“ เออ ก็ดีเหมือนกัน ไปก็ไป กูเก็บของก่อน ” พลางเก็บเอกสารทั้งหลายลงกล่อง ล็อคเรียบร้อย ก่อนจะเดินตามเพื่อนไป
“ สาวเหนือนี่แจ่ม ๆ ทั้งนั้นเลยว่ะ ขาว ๆ ตัวเล็ก ๆ โอ๊ย ! ใจพ่อแทบละลาย ” ท้ายเสียงครางออกมาอย่างรัญจวนใจของเก่งกล้า ที่สาวเท้าเดินไปยังตลาดน้ำคู่กับภูผา ความหล่อเหลาที่ทั้งคู่ไม่แพ้กัน เพียงภูผาผิวขาวกว่า สูงกว่า แต่เก่งกล้ามีความคมเข้มมากกว่า รูปร่างฉกาจฉกรรจ์แข็งแกร่งแน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามทั้งคู่
“ พี่ทหารเจ้า เหล้าปั่นสักหน่อยไหม รสหวานทานง่าย คนขายแซ่บนะเจ้า ” เสียงร้องเรียกจากร้านเหล้าปั่นเล็ก ๆ ริมคลองดังขึ้นจากปากหญิงสาวรุ่นนางหนึ่งผิวขาวจั๊วะ สวมเสื้อกล้ามรัดรูป กางเกงยีนขาสั้นจู๋ อยู่กับพรรคพวกของเธออีกสี่ห้าคน ที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเมื่อเห็นทหารหล่อสองนายเดินมาคู่กัน เก่งกล้าเมื่อเห็นเนื้อนมไข่ยืนล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้าก็เลี้ยวเข้าไปทันทีตามสไตล์เสืออากาศจอมกะล่อน แต่ภูผาดึงแขนเพื่อนไว้
“ ไอ้เก่ง เรามาทำงานนะ มาปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ สำนึกหน่อยสิวะ ”
“ โธ่ภู นี่มันเวลาพักนะเว้ย เหล้าปั่นมันไม่เมาหรอก ดีกรีต่ำกว่าพวกสปายอีก ใช่กะเจ๊า ” ท้ายเสียงหันไปถามผู้หญิงนางนั้นเสียงอ่อนเสียงหวานพร้อมส่งสายตาเยิ้มฉ่ำ หญิงสาวสะเทิ้นอายม้วนต้วนแล้วพยักหน้า