3
{เมื่อปีก่อน...เสกสรรพาเพื่อนมาเที่ยวที่ไร่และสังสรรค์กันจนดึก ต่างฝ่ายต่างก็พากันแยกย้ายไปนอน คนที่เมาหนักเดินขึ้นบันไดอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเดินมาที่ห้องนอน แล้วหมุนลูกบิดเข้าไปด้านใน เดินตรงไปยังเตียงและกำลังจะล้มตัวลงนอน แต่ก็สะดุดตาเข้ากับชุดนอนสีฟ้าอ่อนที่ปักชื่อด้วยเส้นไหมสีน้ำเงินเป็นภาษาไทยว่า...แพรลานนา ทำเอาคนที่อยู่ในอาการมึนเมาตาสว่างโร่ขึ้นมาทันใด
“บ้าจริง นี่เราเข้ามาในห้องยายเด็กนั่นเหรอเนี่ย”
หลังจากที่ตั้งสติได้เสกสรรก็เตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่พลันก็ได้ยินน้ำเสียงอันไพเราะดังมาจากห้องน้ำ
‘I make believe That you are here It’s the only way I see clear What have I done You seem to move on easy’
ชายหนุ่มเดินตรงไปที่ประตูห้องน้ำอย่างไม่รู้สึกตัว มือหนาสั่นนิดๆ ขณะแง้มบานประตูออกอย่างแผ่วเบา ทำให้เห็นแผ่นหลังบางที่เปลือยเปล่า เอวที่เล็กคอดรับกับสะโพกงอนสวยได้รูป และขาที่เรียวงามคู่นั้น ทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะไปทันใด เขายืนชื่นชมเรือนร่างของเธออยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
จนกระทั่งเขากลับไปรัสเซีย ดูไบ อังกฤษ อิตาลี ภาพและเสียงของเธอก็ตามไปหลอกหลอนเขาทุกที่ และมันทำให้เขาไม่สามารถมีอะไรกับผู้หญิงคนไหนได้อีกเลย ไม่ว่าจะกี่คนต่อกี่คนที่ผ่านมา พวกเธอไม่มีผลต่อการปลดปล่อยความต้องการเลยสักครั้ง}
“ขอเหตุผลสักข้อได้ไหมคะ ว่าทำไมพี่ต้อมถึงทำแบบนี้ หรือถ้าแพรไปทำอะไรให้ไม่พอใจก็บอกมาเลยค่ะ แพรพร้อมจะขอโทษ ไม่ใช่เอาเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นแบบนี้ อีกอย่างพี่ต้อมก็อายุสามสิบกว่าแล้ว ทำไมไม่มองหาผู้หญิงสักคน ที่อายุไล่ๆ กัน แล้วแต่งงานกับเธอคะ” แพรลานนาเสนอทางออก
“พี่แค่อายุสามสิบสี่ยังไม่ได้แก่สักหน่อย น้องแพรอยู่ที่นี่ในฐานะหลานสาวของยายพี่มานาน ไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูกันมาเลยเหรอคะ” เสกสรรโมโหจนหน้าแดง กับคำพูดที่เหมือนตอกย้ำว่าตนอายุเยอะ
“แพรจะตอบแทนบุญคุณคุณเพียงแน่ค่ะ พี่ต้อมไม่ต้องห่วง! ”หญิงสาวตอบด้วยเสียงสั่นๆ
“งั้นก็แต่งงานกับพี่สิ ไหนๆ คุณยายก็อยากจะอุ้มหลานอยู่แล้ว ท่านอายุเยอะแล้วนะ ไม่อยากเห็นท่านมีความสุขเหรอน้องแพร ?”
เสกสรรหลอกล่อให้สาวเจ้ายอมคล้อยตาม เขารู้ว่าเธอรักคุณยายของเขาขนาดไหน เขาจะใช้เรื่องนี้ต่อรองกับเธอ
“วิธีตอบแทนบุญคุณมีตั้งหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับพี่ต้อม แพรก็ตอบแทนท่านได้เหมือนกันค่ะ พี่ต้อมบอกมาเลยว่าต้องการอะไรกันแน่” เธอตอบทันควัน
“ต้องการน้องแพรทำเมียไงคะ ง่ายๆ แค่นี้ยังต้องถามพี่อีกเหรอ อ้อ! แล้วถ้าน้องแพรไม่แต่ง...พี่จะปล่อยคลิปนี้ลงใน Youtube”
“ก็ถ้าพี่ต้อมไม่อาย...”
“พี่ไม่อาย อยู่ที่ว่าน้องแพรอยากเป็นที่รู้จักก่อนแต่งงานหรือเปล่าแค่นั้นค่ะ” เสกสรรเริ่มจะหงุดหงิดที่เธอทำให้เขาต้องยกตัวอย่างบ้าๆ มาขู่
แพรลานนานิ่งเงียบพยายามหาทางออกให้ตัวเอง
“ว่าให้มันง่ายๆ หน่อยสิน้องแพร พี่จะถามเราอีกแค่ครั้งเดียวว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง ”
“แพรไม่แต่งค่ะ” แพรลานนายืนยันคำเดิม
“ดี งั้นพี่จะเอาคลิปนี้ให้ยายดู แล้วค่อยอัปลง Youtube ” เสกสรรเอ่ยเสียงดังพร้อมกับโชว์มือถือของตนให้สาวเจ้าดู ‘ให้ตายสิ นี่เธอปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขายันวินาทีสุดท้ายเลยเหรอวะ’
ปัง! ร่างสูงเดินออกไปพร้อมกับกระแทกประตูห้องเสียงดังอย่างหัวเสีย แพรลานนามองตามด้วยหัวใจสั่นๆ จากสีหน้าที่ดูจริงจังเมื่อครู่ บ่งบอกว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างที่พูดจริงๆ
‘ทำไมไอ้บ้านี่ถึงได้เลวแบบนี้นะ ?’ แพรลานนาต่อว่าในใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะรีบวิ่งตามอีกฝ่ายออกไป
แกร๊ก
เพียงดาวหันไปมองคนที่ประตูห้อง ก็เห็นหลานชายตัวดีเดินเข้ามาด้วยสีหน้าตึงเครียด ผิดกับตอนที่ออกไปลิบลับ
“ว่าไงต้อม ตกลงกันได้หรือยัง ว่าจะเอายังไง ?” คุณหญิงเพียงดาวถาม พลางมองหาเด็กสาวในอุปการะว่าอีกฝ่ายหายไปไหน
“ต้อมว่า...คลิปนี้จะอธิบายทุกอย่างที่ยายอยากรู้ครับ” เสกสรรเอ่ยเสียงดังพร้อมกับชูมือถือขึ้นเตรียมจะส่งให้ผู้เป็นยาย
“อย่านะพี่ต้อม ” แพรลานนาเอ่ยขัดเสียงดังอย่างหวาดกลัว
“มีอะไรอย่างนั้นเหรอน้องแพร” เพียงดาวหันไปถามคนที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาอย่างสงสัย
“คือแพร...แพร” แพรลานนาอึกอัก ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร พลางชำเลืองมองคนที่ชูมือถือขึ้นอย่างโกรธเคือง
“เราสองคนตกลงจะแต่งงานกันน่ะครับ” เสกสรรเอ่ยด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีที่เห็นอาการดิ้นพล่านของสาวเจ้า ‘รู้งี้ใช้มุกนี้ขู่ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่น่าใช้ไม้อ่อนเลย เสียเวลาจริงๆ’
“ต้อมกับน้องแพรจะแต่งงานกันอย่างนั้นเหรอลูก โอ๊ย ยายดีใจจริงๆ ” เพียงดาวดีใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะเคยแอบหวังว่าจะให้ทั้งสองแต่งงานกัน
“จริงสิครับยาย ไม่เชื่อลองถามน้องแพรดูสิครับ ” เสกสรรเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะหันไปฉีกยิ้มหวานอย่างชอบใจให้คนที่กำลังน้ำตาเอ่อล้น
“อ้าว น้องแพรร้องไห้ทำไมลูก ” เพียงดาวหันมามองสาวเจ้าก็ตกใจที่เห็นว่าอีกฝ่ายมีน้ำตานองหน้า
เสกสรรรีบเก็บมือถือใส่ในกระเป๋ากางเกง แล้วดึงหญิงสาวเข้ามากอดปลอบพลางลูบหลังให้เธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน เพียงดาวมองแล้วถึงกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างดีใจที่เห็นหนุ่มสาวรักกัน
“น้องแพรเธอดีใจน่ะครับที่เรากำลังจะแต่งงานกัน จริงไหมคะคนดี”
“ฮือๆๆ” แพรลานนาร้องไห้เสียงดังอย่างไม่อาย กับสิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าหยิบยื่นให้
“โถๆ แม่คุณ” เพียงดาวปลอบอย่างเอ็นดู
“คุณเพียง ” แพรลานนาที่เหมือนน้ำท่วมปากยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม กับสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เสกสรรยิ้มจนปากแทบฉีกถึงใบหู เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ ‘พระเจ้า อะไรจะง่ายขนาดนี้วะ’
ก๊อกๆ
“เข้ามา” เพียงดาวอนุญาตหลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
“คุณเพียงเจ้า คุณหญิงนวลจันทร์กับหลานชายเปิ้ลมาแล้วเจ้า”
ดาวเรืองเปิดประตูเข้ามาในห้อง เห็นเสกสรรยืนกอดแพรลานนาอยู่ก็ตกใจ รีบก้มลงมองที่พื้นห้องอย่างอายๆ
‘หึ มากันแล้วสินะ เดี๋ยวได้สนุกแน่ ’ เสกสรรยกยิ้มเหยียดๆ พลางรับรู้ถึงการหยุดสะอื้นของคนในอ้อมกอด
“อาหารพร้อมหรือยัง” เพียงดาวเช็กความพร้อม
“พร้อมแล้วเจ้า” ดาวเรืองตอบเสียงสั่นๆ
“งั้นเชิญแขกไปที่ห้องอาหารเลยแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะตามลงไป”
“เจ้า ” เด็กสาวรับคำก่อนจะรีบออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
“ต้อมเดี๋ยวลงไปทานอาหารกับแขกของยายข้างล่าง ส่วนน้องแพรล้างหน้าล้างตาก่อนค่อยลงไปพร้อมพี่เขานะลูก” เพียงดาวเอ่ยจบก็รีบเดินตามสาวใช้ลงไปที่ห้องรับแขกชั้นล่าง
“ปล่อย ” แพรลานนารีบผลักร่างสูงออกทันทีที่เพียงดาวออกไป
“ทำไม จะรีบไปหาไอ้หน้าจืดนั่นเหรอ ” เสกสรรเอ่ยอย่างไม่พอใจ
“ใช่ ทีนี้ก็ปล่อยซะทีสิ ” แพรลานนาตอบพร้อมกับสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม
“นี่ขนาดมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว ยังไม่หายร่านอีกเหรอฮะแพร ” คนที่โมโหจนเบรกตัวเองไม่อยู่เผลอสบถถ้อยคำหยาบคายออกมาอย่างลืมตัว
เพียะ
“เลว” แพรลานนาตวัดฝ่ามือลงที่ใบหน้าของคนหน้าด้าน จากนั้นก็อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังมึนๆ วิ่งออกจากห้องไป
“หึ เลวงั้นเหรอ” คนถูกตบสบถอย่างหงุดหงิด พลางยกมือขึ้นลูบแก้มด้านซ้ายที่เริ่มเจ็บและชาเบาๆ
‘ฉันจะทำให้เธอรักและตามหึงหวงฉัน เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ คอยดู ’
ที่ห้องทานอาหาร...กับข้าวถูกทยอยนำออกมาวางอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการพูดคุยที่เป็นกันเอง โดยเพียงดาวนั่งอยู่หัวโต๊ะ ทางฝั่งขวามีคุณหญิงนวลจันทร์ พันนากรณ์ นั่งอยู่กับหลานชายคนโต ‘น่านนาวา’ ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย
แพรลานนาวิ่งตรงไปยังห้องนอน เพื่อสำรวจตัวเองให้ดูเรียบร้อย เพราะแขกที่มาทานข้าววันนี้ คือคนที่ช่วยเธอเอาไว้คืนก่อนตอนเธอกลับจากไปทานอาหารค่ำกับเพื่อนๆ ที่โรงแรมเอื้องลานนา
{22:10 น. ระหว่างทางกลับเข้าไร่ อยู่ๆ รถที่ขับมาก็เกิดเสีย แพรลานนารีบควานหามือถือในกระเป๋า แต่กดเปิดเครื่องไม่ได้ เธอพยายามอยู่นาน จนกระทั่งมีรถเก๋งคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดใกล้ๆ จากนั้นผู้ชายใส่สูทก็ลงมาจากรถพร้อมกับหญิงวัยหกสิบ ตอนนั้นเธอทั้งดีใจอย่างบอกไม่ถูก
ขณะที่นวลจันทร์กับหลานชาย น่านนาวา พันนากรณ์ ขับรถกลับจากการไปทานข้าวกับนายหน้าที่ดิน ก็เห็นรถเก๋งคันหนึ่งติดไฟกะพริบจอดอยู่ข้างทาง พอขับผ่านไปจึงรู้ว่าคนขับเป็นหญิงสาว ตนกับหลานชายจึงถอยรถกลับไปถามไถ่
และทันทีที่ได้ยินหญิงสาวแนะนำตัว เธอถึงกับตกใจกับนามสกุลของอีกฝ่าย จึงถามอย่างตื่นเต้นว่ารู้จักเพียงดาว ภรรยาของคุณหลวงอภิชาต สิรันยากรณ์ หรือเปล่า ? หญิงสาวก็ตอบว่าตนเป็นเด็กในอุปการะของเพียงดาว เธอแทบจะกรีดร้องอย่างลืมตัว ก่อนจะบอกกับหญิงสาวว่าเธอเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับอีกฝ่าย
แพรลานนายิ้มกว้างอย่างดีใจ รู้สึกว่าเธอโชคดีที่ได้เจอกับเพื่อนเก่าของ คุณเพียงดาว และรู้สึกขอบคุณที่อีกฝ่ายขับรถพาเธอมาส่งถึงไร่ และบอกว่าพรุ่งนี้ช่วงสายๆ จะแวะเข้ามาที่ไร่
เธอยกมือไหว้ทั้งสองอย่างขอบคุณ ก่อนจะได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายของคนที่นั่งฟังการสนทนาเงียบๆ มาตลอดทาง เมื่ออีกฝ่ายลงจากรถมาส่งถึงหน้าเรือนใหญ่ รอยยิ้มของเขามันทำให้เธอรู้สึกประหม่าและหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
พอรุ่งเช้า...เธอก็รีบไปรายงานคุณเพียงดาวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ท่านตกใจที่รู้ว่ารถเธอเสียกลางทาง และดีใจที่รู้ว่าเพื่อนเก่ามาช่วยเอาไว้
จากนั้น...ช่วงสายๆ คุณนวลจันทร์ก็แวะมาที่ไร่กับคนขับรถ ในขณะที่หลานชายติดธุระเรื่องงานมาด้วยไม่ได้
หญิงวัยหกสิบทั้งสอง นั่งพูดคุยกันถึงช่วงเวลาที่ขาดหายจนเกือบค่อนวัน ด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ก่อนจะนัดทานข้าวด้วยกันอีกครั้งในวันต่อมา }
แพรลานนาตรวจเช็กความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมที่กระจก ก่อนจะเดินลงไปยังห้องอาหารด้วยความรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ ที่จะได้เจอน่านนาวาอีกครั้ง แต่แล้วอาการดีใจของเธอก็หายวับไปกับตา เมื่อเห็นร่างสูงของคนที่เกลียดเข้าไส้ดักรออยู่หน้าประตูห้องอาหาร เธอหน้าตึงขึ้นมานิดๆ ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินผ่านไป และทำเหมือนมองไม่เห็นอีกฝ่าย
เสกสรรคว้าหมับเข้าที่แขนของสาวเจ้า ก่อนจะผลักประตูเข้าไปข้างในห้องอาหาร แล้วฉีกยิ้มให้กับทุกคนอย่างอารมณ์ดี ทำเอาคนที่กำลังโกรธปรับ สีหน้าแทบไม่ทัน
‘ให้ตายสิ เธอเกลียดผู้ชายอย่าง แดเนียล เสกสรร ร็อฟเวลล์ ที่สุดเลย’ แพรลานนาอยากจะกรีดร้องดังๆ แต่ก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ภายใต้รอยยิ้มบางๆ
“สวัสดีครับ ขอโทษที่ทำให้รอนาน พอดีมัวแต่ติดกระดุมให้น้องแพรอยู่น่ะครับ” เสกสรรเอ่ยต่อเมื่อเห็นทุกคนหันมามองที่เขาและเธอ
แพรลานนารู้สึกหน้าชา เหมือนกับอยู่ๆ ก็โดนไม้หน้าสามตีลงกลางแสกหน้าอย่างจัง
“ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นครับ” เสกสรรหัวเราะขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าช็อกของแต่ละคน ก่อนดึงเก้าออกให้สาวเจ้านั่งลงข้างๆ ตน
“แหม อารมณ์ขันซะจริงนะพ่อคุณ นี่คงเป็นแดเนียลสินะ ตัวจริงหล่อกว่าในหนังสือพิมพ์เยอะเลย ” นวลจันทร์ชมหนุ่มเจ้าเสน่ห์ยิ้มๆ เธอรู้จักชายหนุ่มผ่านทางสื่อต่างๆ ในนามของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง แดเนียล ร็อฟเวลล์ ที่ติดอันดับหนุ่มหล่อ Top 10 ของโลก
“สวัสดีครับคุณนวลจันทร์ ผมแดเนียล เสกสรร ร็อฟเวลล์ครับ เรียกสั้นๆ ว่าต้อมก็ได้ครับ” เสกสรรเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้แบบไทยๆ
“สวัสดีจ้ะพ่อต้อม” นวลจันทร์ถึงกับยิ้มไม่หุบ รีบยกมือขึ้นรับไหว้ ชายหนุ่มแทบไม่ทัน
“ต้อม นี่พ่อนาวา หลานชายคนโตของคุณนวล” เพียงดาวรีบแนะนำ เพราะเห็นหลานชายตัวดีเริ่มจะออกอาการแปลกๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแดเนียล” น่านนาวายิ้มบางๆ ให้
“สวัสดีครับคุณนาวา” เสกสรรส่งยิ้มกลับ
“สวัสดีค่ะคุณนวล สวัสดีค่ะพี่นาวา” แพรลานนายกมือไหว้ทั้งสองด้วยท่าทีอ่อนหวาน
“สวัสดีค่ะน้องแพร” น่านนาวารับไหว้พร้อมกับจ้องมองใบหน้าหวาน
เสกสรรหน้าตึงขึ้นมานิดๆ ที่ได้ยินคำว่า ‘พี่นาวา’ แถมเธอยังบังอาจส่งยิ้มหวานไปให้อีกฝ่ายต่อหน้าต่อตา ‘หึ ไม่เกรงใจผัวเลยนะแพร’ คนที่กำลังเดือดเผลอบีบแขนบางอย่างลืมตัว
แพรลานนานิ่วหน้านิดๆ ก่อนจะหันไปมองคนเถื่อนพร้อมกับกระตุกแขนออกอย่างขุ่นเคือง
“นวลเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของยาย แล้วก็ไปเรียนต่อ
ที่ต่างประเทศ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีก บังเอิญว่าคืนก่อนรถของน้องแพรเสียกลางทาง เป็นจังหวะเดียวกับที่นวลและพ่อนาวาขับรถผ่านมา เลยช่วยขับรถพาน้องแพรมาส่งที่ไร่น่ะ” เพียงดาวเอ่ยก่อนจะเริ่มตักอาหารให้กับเพื่อนรักในวันวานด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
“ว้าว เป็นเรื่องดีจริงๆ เลยนะครับ ” เสกสรรเอ่ยด้วยสีหน้ายินดี
‘พระเจ้า เธอจะทนไม่ไหวแล้วนะ’ แพรลานนากัดฟันยิ้มให้นวลจันทร์กับน่านนาวาที่กำลังมองมา ขณะที่มือหนาของคนหน้าด้านกำลังลูบไล้ต้นขาของเธอไปมาราวกับพวกบ้ากาม
“น้องแพรครับ วันนี้ช่วยพาพี่ไปทัวร์ในไร่หน่อยนะครับ” น่านนาวาเอ่ยพร้อมกับตักกับข้าวให้หญิงสาวอย่างเอาใจ
“ค่ะพี่นาวา” แพรลานนายิ้มบางๆ ขณะปัดมือหนาออกจากต้นขาอย่างทนไม่ไหว
“แล้วนี่พ่อต้อมมีคนที่คบหาดูใจอยู่หรือยังจ๊ะ” นวลจันทร์ถามต่อ
“มีแล้วครับ” เสกสรรว่าพลางขยิบตาส่งให้คนข้างๆ
“ว้าย ดีใจด้วยจ้ะ แล้วใกล้จะมีข่าวดีหรือยังเอ่ย” นวลจันทร์เอ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจ ในขณะที่แพรลานนาเริ่มรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมานิดๆ
“ใกล้แล้วครับ” เสกสรรตอบยิ้มๆ
“เอ...แต่วันก่อนเพียงบอกว่าพ่อต้อมน่ะยังโสดอยู่เลยนะ” นวลจันทร์เอ่ยอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้
“อ้าวเหรอครับ ฮ่าๆๆ” เสกสรรแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน
“ว่าแต่...ใช่นางเอกดังที่กำลังควงคนล่าสุดนี่ใช่ไหมพ่อต้อม ” นวลจันทร์ถามอย่างคนความจำดี เพราะอ่านข่าวบันเทิงดาราแทบทุกวัน
“แค่ก แค่ก ” เสกสรรสำลักน้ำดื่มขึ้นมาทันใด กับคำถามที่สะเทือนเส้นทางรักข้ามคืนเข้าอย่างจัง
“อะ...เอ่อ คนนั้นเป็นแค่คนรู้จักครับ ไม่ได้สนิทอะไรเลยครับ”
“นี่ขนาดไม่สนิทนะ แหม...กอดกันแน่นซะนัวขนาดนั้น ยังไม่ใช่ว่าที่เจ้าสาวอีกเหรอเนี่ย ตายๆ แล้วใครกันจ๊ะพ่อต้อม ว่าที่เจ้าสาวของเราน่ะ” นวลจันทร์เอ่ยแซวด้วยประโยคที่ทำให้เสกสรรอยากจะชักปืนมายิงคนพูดทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด
แพรลานนาปัดมือหนาออกจากหน้าขา ก่อนจะลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาของทุกคนที่หันมามองอย่างงงๆ
“เอ่อ...ขอโทษนะคะ คือน้องแพรเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีออร์เดอร์ด่วนแต่ยังไม่ได้บอกคนงาน ขอตัวไปทำธุระก่อนนะคะ” เธอจำต้องโกหก เพราะไม่สามารถทนฟังคำตอบของอีกฝ่ายได้
“งั้นผมขอตัวตามน้องแพรเข้าไปดูในไร่เลยนะครับ” น่านนาวาลุกยืนเตรียมพร้อมจะไปกับสาวเจ้า
“น้องแพรจ๊ะ ยายฝากพี่นาวาด้วยนะลูก” นวลจันทร์ส่งยิ้มให้หญิงสาว
“ได้ค่ะคุณนวล ไปค่ะพี่นาวา” แพรลานนาพยักหน้าชวนอีกฝ่ายยิ้มๆ
“เดี๋ยวน้องแพร ” เสกสรรลุกขึ้นดึงแขนบางเอาไว้ทันใด
“ตาต้อมนั่งลง ” เพียงดาวเอ่ยเสียงเย็น พร้อมกับจ้องมองหลานชายตัวดีด้วยสายตาที่เอาเรื่อง
เสกสรรตัดใจยอมปล่อยมือของสาวเจ้าแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายต่อว่าในใจ
‘หึ ระริกระรี้เชียวนะ’
“ขอตัวก่อนนะคะ” แพรลานนายิ้มยั่วคนที่โดนใบสั่งอย่างชอบใจ
‘พระเจ้า สาบานเลยว่าเขาจะต้องต่อยไอ้หน้าจืดนี่ให้ได้ คอยดู’ เสกสรรมองตามร่างบางที่เดินไปกับอีกฝ่าย ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก