บท
ตั้งค่า

เจอกันครั้งแรก(3)

หญิงสาวส่ายหน้า หากจะไปตลาดก็คงต้องใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร อีกอย่างครอบครัวเธอไม่มีรถยนต์มีแค่มอเตอร์ไซค์สองคัน จะให้แบกของทั้งหมดเพื่อไปขายที่ตลาดใหญ่ก็ดูจะทุลักทุเลเกินไป

ทุกวันนี้จะไปไหนมาไหนก็อาศัยณัฐวัฒน์จนเธอรู้สึกเกรงใจ

“ขายหน้าบ้านนี่แหละค่ะ ขายดีนะคะ ที่นี่หาอาหารกินยาก ร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุดห่างจากบ้านนี้สิบกิโลค่ะ”

ได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็ถึงกับชะงัก บริเวณนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขา มองออกไปมีเพียงร้านค้าขนาดเล็กตั้งอยู่ประปราย ไม่แปลกที่จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก

“แล้วปกติคุณทำงานอะไร”

“ฉันยังเรียนไม่จบเลยค่ะ แต่ช่วงนี้ปิดเทอมก็เลยกลับไปอยู่บ้าน”หญิงสาวเอ่ยตอบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะถามต่อ

“คุณเรียนอยู่ที่ไหน”

“ฉันเรียนปีสุดท้ายอยู่มหาลัยในกรุงเทพฯค่ะ”

“ไปเรียนไกลเลยนะ”

“จริงๆในตัวเมืองก็มีมหาวิทยาลัยค่ะ แต่พ่ออยากให้เรียนที่กรุงเทพฯมากกว่า”

ช่วงแรกที่กรองแก้วเข้าไปอยู่กรุงเทพฯก็สาหัสอยู่เหมือนกัน เธอร้องไห้แทบทุกวันเพราะคิดถึงพ่อ แต่พอเริ่มมีเพื่อนเริ่มมีสังคมก็ปรับตัวได้ นานวันเข้าเธอก็เริ่มรู้บทบาทหน้าที่ของตัวเองมากขึ้น

“ผมฟังจากสำเนียงการพูด พ่อของคุณไม่น่าจะใช่คนที่นี่”

หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเอ่ยตอบ

“ครอบครัวฉันเป็นคนกรุงเทพฯค่ะ แต่พ่ออยากมาใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ฉันก็เลยต้องตามมาอยู่ที่นี่ด้วย”

สำหรับกรองแก้วไม่ว่าพ่อจะไปไหนเธอก็จะตามไปด้วย ตั้งแต่เด็กจำได้ว่าพ่อย้ายถิ่นฐานหลายครั้ง เพราะถูกย้ายตัวไปโรงพยาบาลหลายที่ จนเมื่อเธอเริ่มโตพ่อก็ปักหลักอยู่ที่นี่ถาวร ทำงานในโรงพยาบาลเล็กๆ ใช้ชีวิตเรียบง่ายไปวันๆโดยไม่คิดจะกลับไปอยู่เมืองหลวงอีก

ช่วงบ่ายณัฐวัฒน์ติดภารกิจสำคัญ เขาจึงได้โทรมาขอโทษหญิงสาวที่ไม่สามารถพาเธอไปไปรษณีย์ได้ กรองแก้วไม่ได้รู้สึกโกรธ เธอให้กำลังใจชายหนุ่มในการทำงานก่อนที่จะว่าจ้างรถให้นำพัสดุไปส่งให้

“ปกติส่งเยอะแบบนี้เลยหรือเปล่า”

ภูริชเห็นพัสดุมากกว่าห้าสิบกล่องกองรวมกันชายหนุ่มก็เอ่ยถาม แต่หญิงสาวส่ายหน้า ปกติเธอจะส่งครั้งละยี่สิบบ้านเท่านั้น แต่ช่วงหลังออเดอร์เริ่มเยอะขึ้น อาจเป็นเพราะเธอนั้นนำสินค้าไปโปรโมทในเเพล็ตฟอร์มชื่อดัง ทำให้มีลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น ยอดสั่งซื้อก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

“ปกติไม่ได้ส่งเยอะขนาดนี้ค่ะ แต่ก็ถือว่าเยอะอยู่ดี”

การที่เธอจะต้องทอดแคบหมูให้มากเพียงพอรองรับลูกค้าต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ฉะนั้น หญิงสาวจึงไม่กล้าพอที่จะรับออเดอร์เยอะเกินตัว เพราะกลัวว่าจะจัดส่งไม่ทันและส่งผลเสียต่อร้านค้าของเธอเอง

“ผมไม่เคยเจอใครขยันแบบนี้มาก่อน”

ไม่กี่ชั่วโมงที่เขามาอาศัยอยู่ที่นี่ เขาไม่เห็น หญิงสาวหยุดมือเลยแม้แต่นิดเดียว เธอหาเรื่องทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลาแทบไม่หยุดพัก

“ตอนนี้ยังมีแรงให้ขยัน ก็ต้องรีบขยันสิคะ ฉันอยากเก็บเงินไว้เยอะๆจะได้ดูแลพ่อ”

ถึงเงินเดือนของวีรศิลป์จะไม่น้อย แต่หญิงสาวก็ไม่ได้คิดจะพึ่งพาพ่อไปตลอด เธอพยายามหารายได้ของตัวเองโดยหวังว่าสักวันเมื่อพ่อเกษียณเธอจะสามารถดูแลอีกฝ่ายให้สุขสบายได้

ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกประทับใจในความกตัญญู กรองแก้วเป็นคนขยันขันแข็งทั้งเธอยังเป็นคนคิดดีพูดดี ก้มหน้าก้มตาทำมาหากินไม่ยุ่งวุ่นวายเรื่องใคร

ช่วงเย็นหญิงสาวยกโต๊ะมาตั้งหน้าบ้านก่อนจะนำถาดขนมมาวาง เพียงครู่เดียวผู้คนก็เข้ามารุมล้อม ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ขนมนับสิบถาดก็หมดลงอย่างรวดเร็ว

ภูริชยืนมองอยู่ในบ้าน เห็นกรองแก้วกำลังขายของและแอบแถมให้ลูกค้าก็อดยิ้มไม่ได้ ปกติพ่อค้าแม่ค้ามักจะหวงผลประโยชน์ของตัวเองยิ่งกว่าอะไรดี มีแต่แม่ค้าคนนี้ที่ลดแลกแจกแถม จนลูกค้าต้องคอยห้าม

“พอแล้วแก้ว แถมเยอะขนาดนี้ไม่ขาดทุนหรือไง”

หญิงวัยกลางคนยกมือขึ้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั้นกำลังตักขนมใส่กระทงให้เธอจนพูน

“ไหนๆมันก็เหลือเอาไปกินเถอะป้า ได้ยินว่าช่วงนี้ลุงกำลังป่วยไม่ได้ออกไปทำงาน ถ้ามีอะไรให้หนูช่วยเหลือบอกได้เลยนะ”

“ขอบใจมากนะแม่คุณ นางฟ้านางสวรรค์มาเกิดแท้ๆเลย”

หญิงวัยกลางคนลูบแขนหญิงสาว นึกเอ็นดูอีกฝ่ายที่มักจะมีน้ำใจต่อผู้อื่นเสมอ หลังจากขายขนมจนหมดกรองเเก้วก็ยกโต๊ะเข้ามาเก็บ ก่อนที่เธอนั้นจะนำถาดไปล้างข้างหลังโดยมีภูริชคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่มเห็นว่าเขามาอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ ควรจะช่วยหยิบจับอะไรบ้างจะได้ไม่น่าเกลียด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel