ปฎิเสธ(2)
หญิงสาวยื่นถุงใบใหญ่ให้ผู้เป็นพ่อ แคบหมูพวกนี้รูปทรงไม่สวยงาม เธอทอดเอาไว้เยอะและมักจะแบ่งไปฝากพนักงานที่โรงพยาบาลเสมอ
“ได้ลูก วันนี้พ่อกลับช้าหน่อยนะ หมอที่ขึ้นเวรต่อจากพ่อเขาติดธุระด่วน วันนี้พ่อคงต้องควงเวร”
หญิงสาวพยักหน้าเพราะชินแล้ว ช่วงที่เธอยังเด็ก วันไหนที่พ่อนั้นต้องควบเวร ก็จะมีคนมานอนเป็นเพื่อนเสมอ แต่เมื่อโตขึ้นเธอก็อยู่คนเดียวได้ ตอนนี้มีภูริชมาอยู่ด้วยเธอก็ไม่หวั่นเกรงอันตรายใดๆแล้ว
ช่วงสายกรองแก้วและภูริชช่วยกันทอดแคปหมู ทั้งสองทำงานไปพูดคุยกันไป โดยไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่าณัฐวัฒน์นั้นกำลังยืนมองทั้งคู่อยู่ หมอหนุ่มไม่สบายใจเมื่อเห็นแววตาที่กรองแก้วมองภูริช เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาทั้งสองก่อนจะขอคุยกับหญิงสาวเป็น การส่วนตัว
“มีอะไรหรือคะพี่นัด”
ชายหนุ่มมองไปยังภูริชที่กำลังทอดแคบหมูอยู่ไม่ไกล ถึงจะดูเก้ๆกังๆแต่ก็ถือว่าทำได้ดี ณัฐวัฒน์ไม่สบายใจเมื่อเห็นว่าทั้งสองนั้นดูสนิทสนมกันมากเกินไป เขาจึงกลัวว่ากรองแก้วจะหลงรักชายหนุ่มแปลกหน้าโดยไม่รู้ตัว
“พี่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย พี่อยากรู้ว่าแก้วคิดยังไงกับพี่”
ชายหนุ่มเอ่ยถามตรงๆ เขาร้อนใจจนไม่อยากอ้อมค้อม
“เอ่อ ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะคะ”
หญิงสาวไม่เข้าใจ ว่าทำไมณัฐวัฒน์ถึงได้ถามคำถามแบบนี้กับเธอ
“พี่อยากรู้ว่าแก้วคิดกับพี่มากกว่าเพื่อนหรือเปล่า”
หญิงสาวยกยิ้มเจื่อน นึกย้อนถึงการกระทำของตัวเองที่ผ่านมา เธอเผลอทำอะไรให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดคิดว่าเธอชอบหรือไม่
“สำหรับแก้ว พี่นัดเป็นเพื่อนและเป็นพี่ชายที่ดีค่ะ”
“แต่พี่ไม่ได้อยากเป็นเพื่อน ไม่ได้อยากเป็นพี่ชาย พี่อยากเป็นคนที่แก้วรัก”
หญิงสาวถึงกับนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินคำสารภาพโดยไม่ทันตั้งตัว เธอก้าวถอยหลังก่อนจะเอ่ยกับอีกฝ่าย
“แก้วไม่ดีพอสำหรับพี่นัดหรอกค่ะ”
“แก้วพูดมาตรงๆก็ได้ว่าแก้วไม่ได้รักพี่ ไม่เห็นต้องด้อยค่าตัวเองแบบนี้”
ชายหนุ่มเอ่ย ถึงจะผิดหวังแต่เขาก็ไม่ได้โกรธหญิงสาว อยากน้อยความรู้สึกในใจก็ได้ปลดล็อค เขาแอบชอบรองแก้วมานานหลายปีตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าเขาเริ่มคิดถึงเธอมากขึ้นเรื่อยๆจนต้องตามมาอยู่ที่นี่
แต่แล้วก็พบกับความผิดหวัง เพราะหญิงสาวไม่ได้คิดกับเขาเกินเลย มองเขาเป็นแค่เพื่อนและพี่ชายเท่านั้น
ชายหนุ่มเดินคอตกกลับไปที่รถ ก่อนจะขับออกไปทิ้งให้กรองแก้วมองตามอย่างไม่สบายใจ
เช้าวันต่อมาหญิงสาวกำลังจะออกไปตลาดแต่ภูริชอยากตามไปด้วย เขาเบื่อเต็มทนที่ต้องอยู่แต่ในบ้านอยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง แต่กรองแก้วกลัวว่าจะเกิดอันตรายเธอจึงคิดหาวิธีและขอร้องให้ชายหนุ่มนั้นปลอมตัวเป็นผู้หญิง
ตอนแรกภูริชก็ค้านหัวชนฝา เขาเป็นผู้ชายทั้งแท่งจะให้มาแต่งตัวเป็นผู้หญิงได้ยังไง เขาทำไม่ลงหรอก แต่เมื่อหญิงสาวพยายามอธิบายเหตุผล ชายหนุ่มก็เข้าใจและยอมปลอมตัวตามที่เธอขอร้อง
“คุณอยากออกไปข้างนอกไม่ใช่หรือคะ ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ฉันก็พาคุณออกไปไม่ได้”
หญิงสาวยื่นคำขาด ตอนนี้ข้างนอกนั้นเต็มไปด้วยอันตราย ไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่ทำร้ายชายหนุ่มนั้นปะปนอยู่กับกลุ่มชาวบ้านหรือเปล่า ฉะนั้นหญิงสาวจึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
“ก็ได้ ฉันยอมก็ได้”
“งั้นก็มาแต่งหน้าค่ะ”
หญิงสาวเลือกเดรสตัวใหญ่ให้ชายหนุ่มสวม ก่อนที่เธอนั้นจะแต่งหน้าให้เขาอย่างเบามือ จังหวะที่ใกล้ชิดทั้งสองเผลอสบตากันนิ่งนาน หญิงสาวรีบดึงสายตาออกก่อนจะตั้งสติ
“เสร็จเเล้วค่ะ สวยไหมคะ”
กรองแก้วยื่นกระจกให้ชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสภาพหน้าตัวเอง ถึงหญิงสาวจะเป็นผู้หญิงแต่เธอก็แต่งหน้าไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ส่งผลให้แก้มทั้งสองข้างของภูริชแดงก่ำ จนเขาต้องใช้ทิชชู่เช็ดออก
“ผมก็เพิ่งสังเกตว่าคุณไม่แต่งหน้าเลย ไม่แปลกใจที่คุณจะแต่งหน้าไม่เป็น”
หญิงสาวยู่ปากเล็กน้อย การแต่งหน้าคือกิจกรรมที่เปลืองเวลามากที่สุด เธอจึงมักจะเปลือยหน้าสดออกไปข้างนอกเสมอ แต่เพราะว่ากรองแก้วเป็นคนที่ดูแลรักษาผิวหน้าเป็นอย่างดี จึงไม่มีร่องรอยฝ้ากระหรือสิว มีเพียงผิวที่เรียบเนียนเท่านั้น
ทั้งสองเดินทางมาถึงตลาด โดยที่กรองแก้วเป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์และชายหนุ่มซ้อนท้ายมาด้วย แต่ด้วยความที่ภูริชนั้นตัวใหญ่กว่าหญิงสาว ทำให้เขาถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ
“ผมดูเหมือนผู้หญิงใช่ไหม”
ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจเมื่อเห็นเงาสะท้อนตัวเองในกระจกร้านเสริมสวย หญิงสาวกั้นขำก่อนจะเอ่ยตอบ