2
ชลแดนสั่งขนมของเธอเท่าที่เธอจะทำไหว ส่วนที่เหลือที่ต้องเลี้ยงพนักงานอีกหลายคน เขาจัดการสั่งมาจากโรงแรม เธอเลยรู้สึกภาคภูมิใจเป็นที่สุดเมื่อขนมของเธอจะได้เข้าไปอยู่ในงานเลี้ยงของบริษัทด้วย
“ไม่ต้องขอบอกขอบใจหรอก ผมชอบคนขยันแบบคุณ ถือว่าผมได้ช่วยเหลือคุณก็แล้วกัน”
พอถึงห้างสรรพสินค้าเขาก็พาเธอไปยังร้านที่ขายโทรศัพท์ มีโทรศัพท์หลายรุ่น หลายยี่ห้อ การมีชลแดนมาช่วยเธอเลือกด้วย ทำให้เธอได้ข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์หลายอย่าง
“เครื่องนี้มีฟังชั่นอะไรบ้างครับ” ชลแดนเอ่ยถาม เขาช่วยเธอเลือกอย่างดี ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด เลือกแบ็ตเตอร์รีที่ค่อนข้างทนทาน ถ่ายรูปสวย เพราะเวลาต้องไปทำงานหรือเก็บข้อมูลนอกสถานที่ จะได้ถ่ายรูปชัดขึ้น และแบ็ตเตอร์รี่ไม่หมดเร็วเมื่อเปิดใช้หลายฟังชั่น
“รุ่นนี้ชาร์ตแบ็ตเร็วมากนะคะ ไม่กี่นาทีก็เต็ม เวลาต้องการใช้โทรศัพท์ด่วน ๆ ก็ไม่ต้องกลัวแบ็ตหมด ราคาก็ไม่แรงมากค่ะ” พนักงานสาวเอ่ยแนะนำพลางยิ้มหวาน
“คุณชอบรุ่นนี้ไหม ผมว่าโอเคนะราคาไม่แรงจนเกินไปแต่ฟังชั่นถือว่าดีเลยละ ผมคิดว่าขวัญข้าวก็น่าจะชอบ และใช้ประโยชน์จากโทรศัพท์เครื่องนี้ได้เยอะ” ถึงแม้ว่าเขาจะรวย แต่เขาก็คิดอย่างดีเสมอเมื่อต้องใช้เงินซื้ออะไรสักอย่าง เพราะกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทแต่ละสตางค์ก็ต้องทำงานเหนื่อย
“ชอบค่ะ” เธอเองก็เตรียมเงินมาพอสมควร คิดว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ ฟังชั่นเยอะ ๆ แม้ราคาจะไม่แรงมาก แต่ก็หลักหมื่นขึ้นไป แต่ชลแดนช่วยเลือกให้เธอทำให้เธอตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเอารุ่นไหนดี เพราะถ้าเธอเลือกเองก็คงจะตัดสินใจนานอยู่เหมือนกัน
“งั้นเอารุ่นนี้นะครับ” เขาเอ่ยบอกพนักงาน
“ท่านประธานไม่ต้องค่ะ ทิพย์จ่ายเอง” ขวัญทิพย์รีบห้ามปรามแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว
“ท่านประธานคะ ไม่เอาแบบนี้ค่ะ ทิพย์จ่ายเอง”
“โทรศัพท์เครื่องนี้ถือว่าผมกับคุณซื้อกันคนละครึ่งเป็นของขวัญให้น้องสาวของคุณก็แล้วกัน”
“คนละครึ่งงั้นท่านประธานก็ต้องรับเงินครึ่งหนึ่งไปด้วยสิคะ”
“ผมขอไม่รับนะ”
“ไม่เอาแบบนี้สิคะ งั้นทิพย์ก็ไม่ได้เป็นคนซื้อโทรศัพท์ครึ่งหนึ่งให้น้องสาวของทิพย์น่ะสิคะ”
“คุณขยันช่วยผมทำงานทุกอย่าง ถือว่าเงินส่วนที่เหลือผมตอบแทนคุณก็แล้วกัน”
“ไม่เอาหรอกค่ะ ทิพย์เกรงใจ คุณชลดีกับทิพย์กับน้องมาก ทิพย์ไม่เอาเงินคุณหรอกค่ะ”
“งั้นคุณจัดขนมกับอาหารอร่อย ๆ ให้ผมแทนก็แล้วกัน ดีไหม”
“แต่”
“เพราะปกติคุณก็ต้องทำขนมส่งขายอยู่แล้ว อีกอย่างก็ต้องทำอาหารทานอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ประโยคของเขาคือเรื่องจริง เธอไม่ได้เอาเงินของเขาฟรี ๆ แบบนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
“ได้ค่ะ”
“งั้นตามนั้น เอาเป็นว่าเย็นนี้คุณทำอาหารอร่อย ๆ ให้ผมกินก็แล้วกัน เดี๋ยวเราไปซุปเปอร์มาเก็ตซื้อของไปทำอาหารกัน”
“ท่านประธานอยากทานอะไรคะ” เธอเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น อยากตอบแทนน้ำใจของเขาเช่นเดียวกัน
“คุณกินอะไร ผมก็กินอย่างนั้นแหละ ผมกินง่ายคุณก็รู้”
“เย็นนี้ข้าวอยากกินกุ้งทอดเกลือน่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าจะทำกุ้งทอดเกลือ ห่อหมก แล้วก็ทำต้มยำอีกอย่างหนึ่งน่ะค่ะ”
“งั้นผมขอปูผัดผงกระหรี่แล้วก็กุ้งอบวุ้นเส้นด้วยนะ ผมชอบกิน” เขาพาเธอเดินเข้าไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต แถมยังแย่งจ่ายเงินให้ทั้งหมด เธอห้ามเขาก็ดุเธอเข้าให้
“ผมเป็นผู้ชาย ต่อไปต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว จะให้ผู้หญิงมาจ่ายค่าอาหารให้ได้ยังไงกัน”
“แต่”
“ไม่มีแต่ อย่าลืมสิมื้อเย็นคุณต้องทำกับข้าวให้ผมกิน ถือว่าผมฝากท้องกับคุณ และคุณไม่ได้เอาเปรียบอะไรผมด้วย” เขาสรุปเสร็จสรรพร้อมทำเสียงดุและหน้าดุใส่เธอ จนเธอไม่กล้าพูดอะไรกับเขาอีก
กลับถึงบ้านเย็นนั้นเธอก็เข้าครัวทำอาหารให้น้องสาวและเจ้านายหนุ่มรับประทาน ชลแดนเข้ามาช่วยจัดข้าวของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตเข้าตู้เย็นบางส่วน และบางส่วนก็นำมาหั่นล้าง เขาสวมผ้ากันเปื้อนให้เธอในขณะที่เธอกำลังจะสวมมันอยู่พอดี
“ผมสวมให้ดีกว่า จะได้ผูกด้านหลังให้คุณด้วย คุณผูกเองไม่ถนัดหรอก” เขาโอบแขนมารอบตัวเธอ เพื่อผูกผ้ากันเปื้อน เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ทั้งสองสบประสานสายตากันในระยะกระชั้นชิด เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดใบหน้าของเธอถนัดถนี่
หัวใจของเธอเต้นแรงราวกลองเพลเมื่อได้สบตากับเขาและยืนอยู่ตรงหน้าของเขาในระยะกระชั้นชิดเช่นนี้
เขายังโอบรอบร่างของเธอเอาไว้ คล้ายจะกักเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง
ขวัญทิพย์กลืนน้ำลายลงคอด้วยความรู้สึกประหม่า ใบหน้าคมสันหล่อเหลาของเขาทำให้เธอใจสั่นรัว ผิวกายหอมกรุ่น และดวงตาอบอุ่นคู่นี้ทำให้เธออยากจะเป็นลมเสียทุกครั้งที่ได้สบประสานสายตาเข้าด้วยกัน
“รวบผมให้” น้ำเสียงของเขานุ่มนวลเมื่อรวบผมของเธอเอาไว้ด้วยยางมัดผม ก่อนจะหยิบหมวกคลุมผมมาคลุมให้เธอตรงศีรษะกันผมหล่นลงไปในอาหาร
เธอรู้ว่าเขาเป็นคนสะอาดสะอ้าน และค่อนข้างละเอียดลออ แต่การกระทำของเขาทำให้เธอแทบหลอมละลาย
“ผมจะช่วยคุณทำอาหาร เพราะผมหิวแล้ว หิวมากเลยตอนนี้” ประโยคของเขาทำให้เธอได้สติ รีบกุลีกุจอไปจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อปรุงอาหาร
หัวใจของเธอแทบจะหลุดออกจากอก ทำไมเธอจะต้องรู้สึกเขินอายกับเขาถึงขนาดนี้ด้วย
ชลแดนจะรู้ไหมว่าเธอคิดเกินเลยกับเขาถึงขนาดนี้นะ
“พรุ่งนี้คุณทำเมนูอะไรเลี้ยงวันเกิดของน้องสาวเหรอครับ”
“คะ” เธอสะดุ้งเมื่อโดนถาม เพราะมัวแต่คิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั่นเอง
“เอ่อ... คิดว่าจะทำบาร์บี้คิวน่ะค่ะ ข้าวชอบกิน”
“ผมก็ชอบกินบาร์บีคิวนะ” เขาขยับเข้ามาใกล้ ก่อนที่จะช่วยเธอแกะกุ้ง เพราะวันนี้มีเมนูที่ต้องใช้กุ้งถึงสามเมนู ทั้งกุ้งอบวุ้นเส้น กุ้งทอดเกลือ และต้มยำทะเล