บทที่ 2-2
ในสวนที่สวยสดสะพรั่งไปด้วยดอกไม้หลากพันธุ์ ซึ่งกำลังแข่งกันเบ่งบานในเรือนกระจกที่ปรับอุณภูมิไว้เพื่อให้ดอกไม้เมืองหนาวสามารถอยู่ได้แม้ในเมืองร้อนแบบนี้ ทั้งดอกทิวลิป ลิลลี่ กุหลาบสายพันธุ์ดีจากอังกฤษ บีโกเนีย ไฮเดรเยีย หญิงสาวร่างเพรียวในชุดคาฟตานสีครีม ขลิบตกแต่งด้วยการปักลายกุหลาบสีชมพูด้วยคริสตัส นั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมปักลายงดงาม ใบหน้าเรียวสะสวยก้มต่ำ สนใจกับหนังสือในมือ ข้างๆ ตัวมีขวดแก้วขนาดเล็ก บรรจุน้ำมันหอมหลายขวด ดูเธอจะกำลังอยู่ในภวังค์ส่วนตัว จนไม่สนใจใครเลย
“นายหญิงน้อยเจ้าคะ กาแฟได้แล้วเจ้าค่ะ”
กาแฟส่งกลิ่นหอมจัด ในแก้วเล็กถูกวางลงข้างๆ เธอ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับคนเรียก แล้วเอ่ยเสียงหวานเมื่อคั่นหนังสือไว้แล้วปิดมันลง ก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
“กาแฟหลังมื้อค่ำวันนี้ หวานเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ นูอาห์”
เธอว่าเมื่อดื่มกาแฟจนหมดแก้วเล็ก ทำให้คนที่นำมาบริการถึงกับยิ้มกริ่ม พลางพยักหน้า ก่อนจะทรุดลงนั่งบนพื้นโมเสคข้างๆ ใบหน้านั้นดูรื่นรมย์นักเมื่อมองดูเจ้านายน้อยของตนเอง ที่นางเป็นพี่เลี้ยงดูแลมาแต่อ้อนแต่ออก
นัยน์ตาของนูอาห์ มองกวาดพินิจตามเครื่องหน้าหวานงดงามของนายหญิงน้อยของตนทีละส่วน ใบหน้าเรียวรูปไข่ นัยน์ตากลมโตหวานระยับสีน้ำตาลเข้ม คิ้วโก่งเรียว จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากอิ่มเต็มสีเรื่อ ล้อมกรอบด้วยเรือนผมยาวสลวยสีดำขลับ เรียกได้ว่าเป็นสาวงามที่หาจับตัวได้ยากคนหนึ่งในไซราห์เลยก็ว่าได้
“ก็ต้องหวานนิดหนึ่งแหละค่ะนายหญิงน้อย มีเรื่องน่ายินดีนี่คะ”
นูอาห์กล่าว นางแสร้งมองไม่เห็นสีหน้าสงสัยของเจ้านาย แล้วทำเป็นไพล่มองหนังสือบนตักแทน
“เอ...อ่านเรื่องทำน้ำหอมอีกแล้วหรือคะ นายหญิงน้อย นี่คิดจะทำจริงน่ะหรือคะ นูอาห์ก็คิดว่าจะคิดทำเล่นๆ เสียอีก”
“แหม...จริงจังสินูอาห์”
ฝ่ายนั้นแย้มริมฝีปากยิ้ม ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นงดงามน่าดูมากขึ้นไปอีก ซูราญาห์ เจ้าหญิงแห่งไซราห์ ถ้าใครมีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มแล้ว จะต้องประทับใจในความสวยหวานน่ารัก แทบจะลืมไม่ลงกันเลยทีเดียว
“หญิงอยากจะทำน้ำหอมให้กับพี่คาริดา เป็นของขวัญนี่คะ อุตส่าห์ให้คนงานลงมะลิไว้ตั้งแปลงใหญ่ แล้วก็แอบทำหัวน้ำมันหอมคนเดียวอยู่ตั้งนาน กะจะแอบทำเซอร์ไพรส์พี่สะใภ้ที่แสนดีที่ดูแลหญิงมาตลอด แต่เสียดายจังเรือนเพาะนี่เล็กไปนิด หญิงเลยไม่สามารถปลูกกุหลาบได้มากเท่าที่ต้องการ ต้องสั่งนำเข้าเอา นี่ก็รอของอยู่นะคะ น้ำมันหอมของกุหลาบนี่แพงมากเลยนะคะนูอาห์ เล่นเอาหญิงแทบจะหมดตัวเลย”
“ชีคคาคงจะดีใจมากแน่ๆ เลยล่ะเจ้าค่ะ ที่นายหญิงน้อยทำอะไรพิเศษๆ ให้แบบนี้”
“ความลับนะคะนูอาห์ ห้ามบอกพี่คาริดาเด็ดขาด งานวันเกิดของพี่คาริดาเดือนหน้า หญิงจะทำเซอร์ไพรส์น่ะค่ะ ว่าแต่ว่าเรื่องกาแฟ ทำไมวันนี้กาแฟของนูอาห์ถึงหวานเป็นพิเศษคะ”
ซูราญาห์ ถามอีกหน กาแฟของชาวอาหรับจะมีรสชาติตามความรู้สึก ถ้ารสหวานเป็นพิเศษจะสื่อความรื่นเริงใจ หรือหมายถึงกำลังอยู่ในเทศกาลที่มีความสุข ถ้าปรกติแล้วจะเป็นรสขมปนหวาน แต่ถ้าอยู่ในความเศร้าโศกแล้วจะมีแต่รสขม มีนักปราชญ์ ชาวตรุกี กล่าวไว้ว่า coffee should be black as hell, strong as death and as sweet as love (กาแฟที่ดีควรจะมีสีดำเหมือนนรก แข็งแรงเหมือนความตาย และหวานเหมือนความรัก)
“ความลับเหมือนกันเจ้าค่ะ”
นูอาห์ตอบยิ้มๆ ข่าวดีที่นางได้ยินมาจากปากของชีคคา ทำให้นางนึกยินดีนัก แล้วมองหน้าหวานๆ ของคนตรงหน้าด้วยแววตาระยับยิ้ม จะมีอะไรเป็นข่าวดีสำหรับนางไปมากกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว นั่นก็คือวันที่เจ้าหญิงซูราญาห์ จะได้มีคนดูแลต่อจากนางเสียที แล้วยิ่งได้คนที่มีฐานะสมกันแล้วด้วย ก็ไม่มีอะไรที่นูอาห์จะดีใจมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“แน้....เดี๋ยวนี้มีความลับกับหญิงแล้วหรือคะ นูอาห์” ซูราญาห์ย่นจมูก แล้วทำหน้างอ นูอาห์หัวเราะเบาๆ แล้วเอามือบางของเธอมาจับไว้แนบแก้ม ด้วยกิริยาที่ทั้งรักและเทิดทูน
“เดี๋ยวถึงเวลา นายหญิงน้อยก็จะรู้เองนั่นแหละเจ้าค่ะ”
“ซูราญาห์ มาอยู่ที่นี่เอง พี่ตามหาเสียแทบแย่”
ร่างเพรียวของใครบางคนก้าวเข้ามาในเรือนกระจก พร้อมกับหอบดอกไม้ช่อโตเข้ามาด้วยในอ้อมแขน ซูราญาห์ทำท่าจุ๊ปากกับนูอาห์ เป็นเชิงว่าให้เงียบไว้ แล้วเอาหนังสือคว่ำหน้าปกลงเพื่อไม่ให้คนที่เข้ามาเห็นว่าเธอกำลังอ่านอะไรอยู่
“พี่คาริดา” หญิงสาวยิ้มทักทายกับผู้มาเยือน ซึ่งทรุดนั่งลงข้างๆ เธอ ตากลมโตมองดูดอกไม้ในอ้อมแขนของพี่สะใภ้ แล้วเอ่ยเสียงหวานอย่างอ้อนๆ
“ไปเก็บดอกไม้สวยๆ มาเยอะแยะแบบนี้ เอ...พี่คาริดาจะเอาไปทำอะไรหรือคะ หรือจะเอาไปเพิ่มบรรยากาศหวานๆ กันคะ” คำล้อเลียนของน้องสาว ทำให้ใบหน้าของผู้ฟังหน้าหมองลงไปแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับกลายเป็นยิ้มแย้มตามแบบเดิม
“เพิ่มบรรยากาศอะไรกันจ๊ะ ซูราญาห์ พี่ก็แค่เห็นว่าดอกไม้กำลังบานสวยดี เลยคิดจะตัดไปปักแจกันตกแต่งห้องเสียหน่อยก็เท่านั้นเอง”
“เห็นว่าพี่คาริดาไปหาพี่ชายนี่คะวันนี้” ซูราญาห์ว่า “หญิงก็เลยนึกว่าพี่คาริดาจะสร้างบรรยากาศ เผื่อว่าคืนนี้พี่ชายจะแวะมา”
“คงไม่หรอกจ้ะ ท่านชีคน่าจะกินมื้อค่ำกับน้องหญิงมาลิกะห์ คงจะไม่มาแล้วล่ะวันนี้” ประโยคนั้นทำให้ซูราญาห์ถึงกับทำหน้างอ แล้วบ่นพึมพำถึงท่านชีคด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“พี่ชายนี่ยังไงกันนะ ทำแบบนี้ไม่ถูกเลย ไม่เคยมาหาพี่คาริดาเลย อยู่แต่กับยัย...”
“อย่าไปว่าท่านพี่เลย น้องหญิง พี่ว่าจะชวนน้องหญิงไปเล่นหมากรุกด้วยกันสักกระดาน ลับสมองกันสักนิด จะว่ายังไงจ๊ะ” คาริดาเอ่ยชวน หมากรุกแม้จะเป็นเกมของผู้ชายเสียส่วนมากที่นิยมเล่น แต่กลับเป็นที่ชื่นชอบของซูราญาห์นัก
“ดีเลยค่ะ น้องกำลังเบื่อๆ โทรทัศน์อยู่พอดี นูอาห์ชอบชวนดูละครอยู่เรื่อย” เธอว่า ทำให้พี่เลี้ยงถึงกับหัวเราะกิ๊ก แล้วค้อนเอาน้อยๆ
“แหม...ก็สนุกดีนี่เจ้าคะ ซีรีย์ของทางเกาหลีนี่ ดูแล้วคึกคักชุ่มชื่นหัวใจดีออกค่ะ”
“โถ...นูอาห์ของหญิง ติดซีรีย์เกาหลีงอมแงมเสียแล้ว” ซูราญาห์แสร้งว่า
“แหม...” นูอาห์ลากเสียง ก่อนจะอมยิ้ม “หน้าตาผู้ชายทางเอเชีย หล่อๆ ใสๆ ไม่เหมือนกับหนุ่มๆ ของไซราห์นี่เจ้าคะ เปลี่ยนบรรยากาศจากผู้ชายหน้าเข้มบ้างอะไรบ้าง ไม่น่าเบื่อดี”
“เห็นด้วยกับนูอาห์ค่ะ ข้อที่ว่าหนุ่มๆ เอเชียดูหล่อใส จนสวยเกินหน้าหญิงไปแล้ว อิอิ หนุ่มๆ ทางแคว้นบ้านเรา หน้าเข้มเกินไป บางคนก็หล่อนะคะนูอาห์ แต่หล่อเข้มหนวดดกเฟิ้มจนเหมือนโจร แบบนี้กระมัง หญิงถึงอยู่เป็นโสดดีกว่า”
“อีกไม่นานก็ต้องมีคนมาดูแลแล้วล่ะค่ะ” นูอาห์เปรยๆ พร้อมทั้งมองสบตากันกับคาริดา ที่ขยิบตาให้กับนางน้อยๆ อย่างจะเป็นสัญญาณรับรู้ระหว่างกัน
“โอ๊ย! อีกนานนั่นแหละค่ะ เลิกพูดเรื่องคู่ๆ อะไรแบบนี้ดีกว่า ไปเล่นหมากรุกกันดีกว่าค่ะพี่คาริดา”
ซูราญาห์ว่าตัดบท พร้อมกับลุกขึ้นยืน ก่อนจะคล้องแขนไปกับคาริดา นูอาห์มองตามหลังนายหญิงของนาง พร้อมกับยิ้มกริ่ม เมื่อนึกไกลไปถึงวันที่นายหญิงน้อยของนางจะได้คนมาดูแล
ซูราญาห์ปฏิเสธการดูตัวมาหลายครั้งหลายหนแล้ว แต่หนนี้เห็นทีจะปฏิเสธไม่ได้แน่ๆ เพราะว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นถึงชีคแห่งวาดาม และงานดูตัวหนนี้ชีคฮาฟส์คงจะไม่ยอมให้น้องสาวได้บอกปัดแน่นอน นางเอกนึกดีใจตามประสาคนมีอายุ คนที่เลี้ยงดูซูราญาห์มานาน และอยากจะให้ซูราญาห์มีคู่ครองที่ดี ฐานะสมศักดิ์ศรีกัน
บางอย่างคนแก่อย่างนูอาห์ก็ไม่ได้คิดนัก ว่าการมีคู่ครองนั้น อาจจะไม่ใช่จุดเริ่มต้นของชีวิตที่สมบูรณ์แบบ หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะแห่งชีวิตก็เป็นไปได้