บทที่ 1-3
อัสลานมองดูจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้เขายิ้มออกมาอย่างกว้างขวาง กับยอดตัวเลขที่เห็น เขาไม่ใช่โจรสมัยก่อนเก่าที่เก็บเงินไว้กับตนเอง สมัยนี้มันต้องเอาไปฝากไว้ให้เป็นที่เป็นทาง ที่ทางซึ่งใครก็ตามยึดของๆ เขาไม่ได้ หมดสมัยที่จะมาปล้นคนรวยช่วยคนจนแล้ว อัสลานหรี่ตาลง เมื่อนึกถึงหัวหน้าโจรคนเก่าอย่างซาอิดที่กินอุดมการณ์ต่างข้าว ช่างไร้สาระสิ้นดี
เขาต้องอดทนยอมเป็นเบี้ยล่าง ยอมทำตามอุดมการณ์โง่ๆ นั่นมาหลายปี กว่าที่ซาอิดจะตายลง สาเหตุการตายของจอมโจรผู้เกรียงไกรนั้น ที่ทุกคนในที่นี้ทราบกันก็คือเขาถูกยิงตาย ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงเลยแม้แต่คนเดียว ยกเว้นก็แต่อัสลาน ชายหนุ่มผู้เลือกทางนี้แล้วทะเยอทะยาน อยากสวมหัวโขนหัวหน้าแทนซาอิด และโอกาสก็เป็นของเขาสมใจ
ก็ใครที่ไหนจะเลือกมาเป็นโจร ถ้าไม่ลำบากยากเข็ญจริงๆ และก็สมควรจะได้ผลการตอบแทนจากการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอย่างคุ้มค่าไม่ใช่หรือ ไม่ใช่เอาไปแจกจ่าย แล้วอยู่กันแบบนักบวชในป่าแบบนี้ เมื่อสิ้นซาอิดลงอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนระส่ำระส่าย และนั่นเองอัสลานที่สวมหน้ากากว่าเป็นคนดี เก่งกาจ ยึดมั่นตามแบบซาอิดก็ก้าวขึ้นมาแทนที่ แล้วเริ่มอ้ามือออกกุมอำนาจทีละน้อย เขาเลือกที่จะรับคนใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ และค่อยๆ ลอบจัดการคนเก่าที่ภักดีไปทีละคนสองคน ซึ่งมันไม่ยากหรอก การเป็นโจรเหมือนกับเอาชีวิตไปแขวนเล่นอยู่บนเส้นใยบางๆ อยู่แล้ว พวกกองโจรของซาอิดเตรียมใจเกี่ยวกับเรื่องตายอยู่ทุกขณะ เลี้ยงดู ปรนเปรนพวกมันด้วยความสะดวกสบาย เงินทอง และผู้หญิง แค่นี้ก็คร้านที่จะเปลี่ยนใจ และทำให้พวกมันรักและภักดีเขายิ่งกว่าชีวิต เรียกได้ว่าเหนือเสียยิ่งกว่าซาอิดเลยก็ว่าได้
กองโจรแห่งซาอิด จอมโจรโรบินฮู้ดแห่งทะเลทราย กำลังจะกลายเป็นเพียงตำนาน เพราะตอนนี้อัสลานกำลังเปลี่ยนมันไปโดยสิ้นเชิง ในเมื่อเขาเป็นคนนอกกฎหมายอยู่แล้ว ทำไมจะต้องสนใจทำมาหากินสุจริตหรือทำตัวเป็นคนดีด้วยเล่า อัสลานเลยรับงานนอกกฎหมายมาทำ เลี้ยงดูปรนเปรอพวกกองโจรของเขาอย่างแสนมีความสุข แน่นอนว่าเขาแบ่งส่วนอันมหาศาลไว้ให้กับตนเองด้วย ไม่ว่างานอะไรแล้วอัสลานรับทำหมด ด้วยความเก่งกาจที่กฎหมายไม่เคยเอื้อมมือได้ถึง นั่นยิ่งการันตรีให้กองโจรแห่งนี้ มีชื่อเสียง และมีคนมาว่าจ้างให้ทำงานมากมาย ซึ่งอัสลานก็รับเกือบทุกงานเสียด้วย ปล้น ฆ่า ทำร้าย ลักพาตัว เขาไม่เคยเลือกว่าเหยื่อจะเป็นใคร มีเพียงเงินมา อัสลานก็พร้อมที่จะจัดการลูกน้องไปทำงานให้
งานล่าสุดยิ่งทำให้เขายิ้มกว้างกับค่าจ้างที่แพงมหาศาล แค่ส่งของ งานง่ายๆ ได้เงินไว ตอนนี้เขาได้เงินมัดจำมาแล้วครึ่งหนึ่งเหลือแต่ว่าจะให้ใครจัดการงานนี้ดี รับของจากชายแดนไซราห์ ไปส่งที่ชายแดนบาฮา อาทิตย์หน้าเป็นเวลาเริ่มทำงาน
เสียงเรียกชื่อของเขาดังขึ้นที่หน้ากระโจม ทำให้อัสลานขมวดคิ้วเล็กน้อย เวลาแบบนี้ไม่มีใครกล้ามากวนถ้าเขาไม่ได้เรียก น้ำเสียงอันคุ้นเคยนั่นทำให้อัสลานยิ้มน้อยๆ เขารู้แล้วว่าจะให้งานนี้กับใครทำดี ดาวเด่นแห่งกองโจรซาอิด คนที่เขามอบงานให้ทำแล้วไม่เคยผิดพลาด และไม่เคยพูดมากตอบโต้อะไรเลยแม้แต่คำเดียว มีก็แต่แววตาเย็นชามองหน้าเขายามที่เขามอบหมายงานให้ก็เท่านั้น แต่อัสลานก็ไม่เคยสะทกสะท้าน ถ้าอีกฝ่ายต่อต้านมากๆ เข้า เขาก็ทำวิธีการแบบเดิมๆ นั่นก็คือ ปิดปากมันให้เงียบเสีย
“เข้ามาสิ ซากี”
ร่างสูงก้าวเข้ามาในกระโจมพักผ่อนของเขา ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยครบครัน ตอนนี้อัสลานกำลังมีแผนจะสร้างที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ถ้าตักตวงได้มากพอ เขาคงจะละทิ้งที่แห่งนี้ไป มันไม่เหมาะกับจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่และร่ำรวยแบบเขา
“รบกวนท่านหรือเปล่า อัสลาน”
ชายผู้เป็นเจ้าของกระโจมนั่งบนเบาะนุ่มหนา ส่ายหน้าน้อยๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง หัวหน้ากองโจรแห่งซาอิดคนใหม่มีรอยแผลเป็นที่หน้า และนัยน์ตาแพรวพราวเจ้าเล่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เขามีรูปร่างสูงโปร่ง เก่งกาจในการต่อสู้เกือบทุกชนิด รวมถึงคล่องแคล่วในด้านอาวุธ นิสัยเลือดเย็นและเจ้าเล่ห์ นี่แหละทำให้เขาขึ้นมาถึงทุกวันนี้ได้โดยไม่มีใครกล้าล้มเขาลงได้
“ไม่เลย ข้ากำลังจะให้คนไปเรียกเจ้าพอดี ซากี นั่งก่อนสิ”
เขาเชื้อเชิญ ซากีทรุดตัวลงนั่ง อดปรายตามองข้าวของใช้ของอัสลานไม่ได้ ทุกอย่างมีราคาแพง แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่แบบนี้ แต่อัสลานก็ชื่นชอบความหรูหราและเทคโนโลยี เขามีโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุด คอมพิวเตอร์ ไอแพค รวมถึงของประดับประดาต่างๆ แม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์บนตัวเขา สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ พราวพรายไปด้วยประกายแห่งอัญมณี ชุดดิฟดาชาของเขาทำมาจากผ้าฝ้าย ปักลวดลายด้วยดิ้นทองอย่างวิจิตรงดงาม
“มีอะไรจะพูดกับข้าหรือ ถึงได้มาเวลานี้”
“คือว่า...”
แม้จะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่ซากีก็ลำบากใจในการเรียบเรียงคำพูด เขามองหน้าของอัสลานที่ยังคงยิ้มแย้มให้เขา หากแต่นัยน์ตาเจ้าเล่ห์นั้นกำลังมองเขาอย่างสำรวจ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่าลูกชาย”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ปากยิ้มแต่ตาไม่ยิ้มเมื่อเอ่ยประโยคนี้ เขาทราบดีว่าชายหนุ่มทั้งสามเป็นที่รักยิ่งของซาอิด และคนเก่าแก่หลายๆ คน จนถึงขั้นมีคนเสนอให้ซากีดำรงตำแหน่งแทนเมื่อซาอิดสิ้นไป แต่เคราะห์ดีนักที่เขามีคนสนับสนุนมากกว่า เลยได้อำนาจมาไว้ในมือ ถ้าตกไปอยู่ในมือไอ้เด็กหนุ่มนี่แล้ว เขาไม่อยากจะคิดว่า เขาจะแย่งชิงตำแหน่งมาได้ง่ายดายนัก เพราะซากีเก่งกาจและฉลาดเฉลียวมากทั้งยังหนุ่มแน่น เห็นฝีมือกันมาแล้วหลายอย่างว่าเป็นคู่ต่อกรเขาได้อย่างสูสี แล้วด้วยยิ่งวัยของเขากับอีกฝ่ายในตอนนี้ ถ้าประมือกันตรงๆ แล้ว อัสลานก็ไม่แน่ใจว่าตนเองจะชนะ
“มีอะไรก็พูดมาได้เลย เราอยู่กันแบบพี่น้อง ซาอิดฝากฝังพวกเจ้าไว้กับข้า ให้ดูแล คุ้มครอง”
“ข้า...” ซากีกลืนน้ำลาย ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาในที่สุด “พวกข้า ซูนีอัล ดามูลาห์ ต้องการเป็นอิสระ หมายถึง...”
คำกล่าวอ้อมแอ้มของซากี ทำให้อัสลานถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เขาขมวดคิ้วมุ่นเพราะไม่คาดคิดว่าจะได้ยินถ้อยคำแบบนี้จากเด็กหนุ่มที่เติบโตมากับกองโจร ไม่มีที่มาที่ไป มีที่พึ่งแห่งเดียวคือกองโจรแห่งนี้ ที่เปรียบเสมือนยังบ้านของพวกเขาทั้งสามคน
“เจ้าต้องการแยกตัวจากไปอย่างนั้นหรือซากี ไปจากพวกเราอย่างนั้นหรือ คิดดีแล้วหรือเปล่า? ที่มาพูดแบบนี้กับข้า”
“พวกข้าคิดดีแล้ว ท่านอัสลาน”
ซากีโล่งใจที่ตนเองกล้าพูดมาในที่สุด นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองจ้องสบกับนัยน์ตาของเขาแน่วแน่ น้ำเสียงหนักแน่นมากยิ่งขึ้นเมื่อเอ่ยประโยคต่อมา
“พวกข้าตั้งใจแล้ว เรามีหนทางของเราเอง ซึ่งข้าคิดว่า มันคนล่ะอุดมการณ์กับท่าน” คำพูดตรงๆ นั้นเล่นเอาอัสลานสะอึก แต่ก็หัวเราะออกมาในที่สุด เขาเอื้อมมือตบบ่าของซากีหนักๆ พร้อมกับเอ่ยเสียงทุ้ม
“อุดมการณ์ที่ต่างกัน ทำให้เจ้าไม่อยากอยู่กับพวกเราอีกแล้วสินะ ซากี แล้วเจ้าแน่ใจหรือว่าโลกภายนอก มันจะปลอดภัยและสวยงามอย่างที่เจ้าคาดคิด”
“ข้าแน่ใจว่าพวกเราจะเอาตัวรอดได้”
“เอาตัวรอดจากทางการอย่างนั้นหรือ” อัสลานว่า เขาถอนใจน้อยๆ พลางยักไหล่
“ค่าหัวของเจ้าทั้งสามคน มากเอาการอยู่นะซากี เจ้าคิดว่าจะหนีรอดอย่างนั้นหรือ ข้าว่า เรามาเป็นครอบครัวกันแบบเดิมดีกว่ากระมัง”
“พวกข้าเติบโตแล้วท่านอัสลาน เราอยากเดินตามรอยของลุงซาอิดที่มีอุดมการณ์เดียวกัน”
ซากียังคงยังเอ่ยย้ำอีกหน นัยน์ตาอันมุ่งมั่นบอกกับอัสลานว่า ถ้าเขาห้ามชายหนุ่มผู้นี้ ก็คงจะไร้ผล เพราะซากีคงจะดึงดันออกไปจนได้ เอาเถอะ...เมื่ออยากไปนักเขาก็จะปล่อยให้ไป อัสลานหรี่ตาลง คนหนุ่มกำลังไฟแรง น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวางเสียเลยดีกว่า จะอย่างไรก็ต้องใช้งานซากีอย่างคุ้มค่า ก่อนจะปล่อยตัวพวกเขาไป พวกเขาได้รับอิสระตามที่ร้องขอแน่นอน แต่มันยังไม่ใช่เดี๋ยวนี้และตอนนี้...
“โอเค...โอเค...” อัสลานแบมือ เขาทำหน้าเศร้าหมอง พร้อมกับมองหน้าซากีอีกหน
“ข้าคงจะต้องปล่อยพวกเจ้าไปสินะ เหยี่ยวที่พร้อมจะไปหาเหยื่อของตนเองแล้วสินะ”
“ถ้าอย่างนั้น...” นัยน์ตาของซากีลุกวาบไปด้วยความหวัง แต่อัสลานโบกมือห้ามปรามไว้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลุดคำพูดใดๆ ออกมา
“เดี๋ยวก่อนพ่อหนุ่ม เราต้องมาต่อรองกันก่อน ข้ายอมให้พวกเจ้าไปได้ซากี ต้องทำงานชิ้นสุดท้ายให้กับข้าก่อน แล้วข้าจะยอมให้พวกเจ้าได้ไปเป็นอิสระ”
“งานชิ้นสุดท้าย” ซากีทวนคำ เขาตัดสินใจพยักหน้าเลยทันที “ว่ามาเลยท่านอัสลาน ข้ายินดีรับทำงานชิ้นสุดท้ายนี้เอง”
“อาทิตย์หน้าข้าจะมอบหมายงานให้กับเจ้าซากี” อัสลานตอบยิ้มๆ “เพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเจ้าอยู่กับเรามานาน ทำงานร่วมกันมานาน ข้ามีของเล็กๆ น้อยๆ ที่ให้พวกเจ้าไปตั้งตัว”
“ไม่เป็นไรหรอกท่านอัสลาน”
ซากีค่อยทรงตัวคุกเข่า ก่อนจะค้อมศีรษะให้กับอีกฝ่ายอย่างเคารพนบนอบ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองสบตากับอัสลาน นัยน์ตานั่นฉายประกายบางอย่าง ที่ทำให้เสือเฒ่าอย่างอัสลานถึงกับขนลุก
“เพียงแค่ท่านให้อิสระพวกเราก็เกินพอ เงินทองพวกเราพอมีติดตัวอยู่บ้าง เราไม่รบกวนท่านหรอก อิสระที่แท้จริง การปลดปล่อยที่แท้จริงที่พวกเราสามคนต้องการ”
“ได้...ทันทีที่งานของเจ้าเสร็จ ข้าจะให้อิสรภาพพวกเจ้า”
อัสลานว่า ซากีทำความเคารพเขาก่อนจะเอ่ยลา เมื่อร่างสูงแกร่งของซากีพ้นไปจากกระโจมที่พักของเขาแล้ว อัสลานที่มองตามด้วยสายตาครุ่นคิด ก็เม้มริมฝีปาก ใจเริ่มคิดกระหวัดถึงชายหนุ่มทั้งสามคน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมือดีแห่งกองโจรซาอิด ซากี ซูนีอัล และดามูลาห์
พวกมันเป็นมือดี...เก่งกาจและฉลาดล้ำ จนปล่อยไว้ไม่ได้ ในเมื่อเป็นคนล่ะอุดมการณ์ ก็ควรจะเดินกันไปคนล่ะทางเสีย ทางของอัสลานมีเพียงสองทางเท่านั้นเสียด้วย
คือทางตาย กับทางที่จะอยู่กับเขาต่อไป ในเมื่อพวกของซากีเลือกทางที่จะไปจากเขา พวกมันก็เท่ากับเลือกหนทางตายให้กับตนเอง!