บท
ตั้งค่า

บทที่ 1-2

เสียงทุ้มทรงอำนาจดังขึ้น เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาใกล้ เล่นเอาพากันสะดุ้ง เพราะเพลินจนแทบจะลืมเวลา แต่พวกเขาก็มีของติดไม้ติดมือกลับมายังค่ายที่พัก คือมะเขือเทศลูกโต และมันฝรั่งเก็บมาจากโอเอซีส ซึ่งได้ไปลงแปลงผักไว้

“เปล่าสักหน่อยครับซาอิด” ดามูลาห์ว่า แล้วยิ้มจนเห็นฟันขาว

“พวกเราไปฝึกฝีมือยิงปืนกันมาต่างหาก เตรียมพร้อมที่จะไปกับซาอิดคืนวันพรุ่งนี้”

“มือปืนเป้าสะอาดอย่างเจ้าน่ะเหรอ น่าพาไปด้วยดีไหมดามูลาห์”

คำล้อเลียนแกมรอยยิ้มของซาอิด เล่นเอา0ดามูลาห์คอย่น เด็กหนุ่มทำเป็นสำลักกระอักกระไอ แล้วแก้ตัวพัลวัน

“แหม...อย่างน้อยๆ ข้าก็เป็นมวยไทยแหละน่า ลุงซาอิด สิงห์สอนท่าเด็ดจระเข้ฟาดหางให้ข้าด้วย”

“ท่าเด็ดของเจ้า จะสู้ปืนได้ไหมหนอ” ซาอิดเอ่ยเย้า “ไปช่วยในครัวดีกว่าไหมดามูลาห์”

คำพูดเหมือนสบประมาท ทำให้ดามูลาห์แอบแลบลิ้น เคืองนิดๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ถูกลดชั้นไปเป็นลูกมือในครัว

“แล้วข้ากับซากีเล่า ท่านลุง” ซูนีอัลเอ่ยอย่างกระตือรือร้น ซาอิดเอื้อมมือลูบศีรษะของซูนีอัลอย่างเอ็นดู นัยน์ตาฉายแววอ่อนโยนนัก ยามมองหน้าเขา

“พวกเจ้าสองคนไปได้ แต่เจ้าต้องระงับอารมณ์ให้ดีกว่านี้นิดหนึ่งซูนีอัล ข้าจะให้เจ้าเป็นคนขับรถนะหนนี้ เตรียมตัวเหยียบให้มิดล่ะ ใช้ความใจร้อนของเจ้าในการควบคุมพวงมาลัย หนีให้สุดชีวิต หึๆ”

“ส่วนเจ้าซากี” ซาอิดหันมามองหน้าของเด็กหนุ่มที่เป็นราวกับตัวแทนเขา ซึ่งมองเพื่อนทั้งสองอย่างยิ้มๆ

“ข้าจะพาเจ้าเอาปืนจ่อหัวไอ้รัฐมนตรีชั่วด้วยกัน ให้สะใจเล่นๆ อยากเห็นคนชั่วร้องขอชีวิตไหมซากี”

“อยากครับลุงซาอิด”

“ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวให้พร้อมได้เลยหนุ่มๆ แต่คืนนี้ พวกเจ้าต้องเรียนเลขและประวัติศาสตร์ของวาดามกับข้าก่อน”

“โอย...พวกเราเป็นโจร ทำไมต้องเรียนเรื่องพวกนี้ด้วยลุงซาอิด”

คนโอดครวญคือดามูลาห์ ที่เกลียดการคำนวณอย่างมาก แม้แต่เลขบวกเขายังเอาตัวไม่ค่อยรอด เรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ได้จากซาอิดที่ส่ายหน้าน้อยๆ พลางเอ่ยอธิบายเสียงทุ้ม

“เอาน่า เอาไว้เวลาคำนวณแบ่งเงินกันอย่างไรเล่าดามูลาห์ เจ้าไม่อยากได้ส่วนแบ่ง ไปเที่ยวในเมืองอย่างนั้นหรอกหรือ?”

“ฮ่าๆ อยากได้สิครับลุงซาอิด”

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเรียน ไปหัดยิงปืนให้แม่นๆ เท่ากับซากีและซูนีอัลแล้ว ลุงจะให้ออกปล้นด้วยบ่อยกว่านี้”

คำเอ่ยยั่วใจของ ซาอิดเรียกกำลังใจในการเรียนวิชาที่ตนเองเกลียดได้อีกมากโข สามหนุ่มน้อยเข้าประจำที่ของตนเอง แล้วเริ่มเรียนรู้จากอาจารย์จำเป็นอย่างซาอิด ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขา

ซาอิดหวังว่า เด็กหนุ่มทั้งสามที่เขาเลี้ยงดูมาด้วยมือของตนเอง จะเติบโตก้าวหน้าต่อไป เดินตามรอยเขาอย่างไม่ผิดเพี้ยน ตราบใดที่ชีคราอิสยังครองราชย์อยู่พร้อมๆ กับพรรคพวกอันแสนเลวร้าย เขาก็จะยังอยู่ยืนยง คอยปั่นป่วน ทำตัวเป็นเหมือนกับหนามแหลมที่ทิ่มแทงพวกมันไปจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง เขาหวังว่าสักวันหนึ่งสวรรค์จะส่งคนมาช่วยเหลือประชาชนชาววาดาม ให้พ้นจากอุ้งมืออันแสนเลวร้ายของชีคราอิสเสียที

สิบเจ็ดปีต่อมา....

อดีตเด็กน้อยของกองโจรซาอิด เติบโตขึ้นจนเป็นหนุ่มฉกรรจ์ในวัยสามสิบสองปี พวกเขามานั่งกันตรงบริเวณชะง่อนหิน ซึ่งมองเห็นค่ายของกองโจรจากบนนี้ได้ทั่วถึง ตอนนี้กองโจรมีกันเกือบสามสิบคน จำนวนคนมากขึ้น ตามระยะเวลาที่ซาอิดก่อตั้ง แม้ตอนนี้ผู้ที่ก่อตั้งกองโจรอันแสนจะเกรียงไกร เป็นที่หวาดเกรงของรัฐบาล จะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วก็ตามที

นัยน์ตาคมกริบสีน้ำตาลเข้มที่มองเหม่อไปยังกระโจมเบื้องล่าง มีแววตาอันเศร้าสร้อย บนบ่าเขามีนกเหยี่ยวแสนรู้เกาะอยู่ มันใช้จงอยจิกข้างๆ หูเจ้านายเบาๆ อย่างจะหยอกเย้า เผื่อว่าซากีจะมีเนื้อแห้งแบ่งให้มันบ้าง

“พวกเราจะเป็นอย่างไรต่อไปวะซากี” เสียงของคนข้างๆ ตัวเอ่ยถามขึ้นลอยๆ

“นายคิดว่ายังไงล่ะซูนีอัล”

เมื่อเจอย้อนเข้าแบบนั้น ชายหนุ่มผมสีทราย ซึ่งปล่อยให้มันยาวประบ่าแล้วรวบไว้หลวมๆ ก็ส่ายหน้าน้อยๆ ใบหน้าของเขาบูดบึ้ง คำถามนั้นช่างตอบได้ยากเย็นนัก เขาเริ่มจะนิ่งเงียบและไม่ตอบคำถามเสียมากกว่า

“ฉันว่าฉันกำลังจะทนไม่ไหวว่ะ ถ้าเกิดว่าอัสลานจะยังทำอะไรแบบนี้ต่อไป กองโจรซาอิดผู้เกรียงไกร จอมโจรคุณธรรม กำลังเปลี่ยนไปหมดแล้ว”

ดามูลาห์เอ่ยอย่างเจ็บปวด พร้อมกับนั่งซบลงกับเข่าของตน แล้วตะโกนออกมาอย่างอัดอั้น

“โว้ย! ทำไมต้องกลายเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมซาอิดต้องมาตายแล้วให้ไอ้อัสลานมันขึ้นตำแหน่งหัวหน้าแทนด้วยวะ ทำไมไม่เป็นนายว่ะซากี ทำไม!”

“เพราะว่าฉันอ่อนอาวุโส” ซากีตอบ รอยยิ้มของเขาดูเศร้าสร้อยนัก “และไม่มีคนสนับสนุนเท่ากับอัสลาน”

“คนสนับสนุนของอัสลาน” ดามูลาห์ทำปากเบ้ “พรรคพวกที่มันพามาทั้งนั้น เฮ้อ...ที่นี่ชักจะอยู่ยากขึ้นทุกๆ วันว่ะพวกนายว่าไหม?”

“แล้วเราจะทำยังไงล่ะดามูลาห์ ซูนีอัล” คนฟังเองก็ถอนใจ กัดกรามดังกรอด “มันยากนักที่จะเดินออกไปจากที่นี่ เราอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดนะ มันเป็นบ้านของเรา”

“ตอนนี้บ้านเราหลังคารั่ว แถมไฟไหม้แล้วล่ะว่ะ”

ดามูลาห์ว่าแล้วหัวเราะหึๆ เขามองไปยังผืนทรายที่ยาวไกลไปจนสุดลูกหูลูกตา สลับกับมองกระโจมที่พักไปด้วย บางทีอาจจะถึงเวลาที่พวกเขาจะไปจากบ้านหลังนี้ ที่คุ้มหัวมาตลอดสามสิบกว่าปีก็เป็นได้ ไปเผชิญชีวิตในโลกกว้าง ดำเนินรอยตามอุดมการณ์ของซาอิด อุดมการณ์ที่จะช่วยผู้ยากไร้ และจัดการกับพวกทำนาบนหลังคน

“เราควรจะหนีออกจากบ้านกันได้หรือยังวะ ดามูลาห์ ซากี” ความเห็นนี้มาจากซูนีอัล เขาเองก็เหลือทนกับพฤติกรรมของหัวหน้าคนใหม่อย่างอัสลานแล้วเช่นกัน

“บางที...เราสามคนควรจะต้องทำแบบนั้น เมื่ออุดมการณ์มันไปคนล่ะทางแล้ว”

น้ำเสียงนุ่มนวลของซากีเอ่ยตอบ นัยน์ตาฉายแววเศร้ามองกระโจมที่พักอย่างอาลัย ความเป็นจริงบางอย่างมันก็ทำให้เขาตัดสินใจทำสิ่งนี้ได้ลำบากนัก ในเมื่อพวกเขาเป็นโจรที่มีค่าหัวกันทุกคน การแยกจากกลุ่ม บางทีก็อาจจะหมายถึงการก่อศัตรูถึงสองด้าน เพราะคนอย่างอัสลาน คงจะไม่ปล่อยให้พวกเขาเดินออกไปอย่างง่ายแน่นอน

“แต่พวกเรายังจะยืนยันทำตามอุดมการณ์ของซาอิดใช่ไหมวะเพื่อนๆ” ดามูลาห์หันมายิ้มน้อยๆ ให้กับเพื่อนรักที่เติบโตมาด้วยกัน

“เราจะปล้นไอ้พวกคนชั่วช้า มาช่วยชาวบ้านยากจนเหมือนเดิมใช่ไหม?”

“เงินที่ได้มาเราจะไม่ใช่เสพสุขเพื่อตัวเอง” ประโยคนี้ดังมาจากซูนีอัล ที่เริ่มยิ้มออกมาได้เมื่อได้ยินดามูลาห์เอ่ยแบบนั้น

“ใช่...เราจะตั้งกองโจรของเราขึ้นมาเอง มีแค่เราสามคนเท่านั้น” ซากีเอ่ยพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา เขาแบมืออก พร้อมกับมองหน้าเพื่อนทั้งสองสลับกันไปมา

“เรามาจับมือทำสัญญากัน ว่าจะทำตามอุดมการณ์ของซาอิด”

“สัญญา”

“ฉันก็สัญญา”

หนุ่มๆ จับมือสัญญากันอย่างแนบแน่น พร้อมกับมองไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้าที่ทอดยาวจรดผืนทรายสีทอง แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ก้าวหน้าเดินจากไปจากที่นี่ อาจจะมีเรื่องใหญ่ที่ต้องสะสางรออยู่ อุปสรรคครั้งใหญ่ในการแยกตัวไปของสามหนุ่ม นั่นก็คืออัสลานหัวหน้ากองโจรซาอิดคนใหม่ ซึ่งกำชะตาชีวิตของพวกเขาไว้ในอุ้งมือ

................................................................................................................................................................................

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel