8 หอบความช้ำกลับบ้าน
ตอนที่8
หอบความช้ำกลับบ้าน
“น้ำผึ้ง คุณอยู่ไหน”
ศรุตกลับเข้ามาที่ห้องนอน เพื่อจะพาภรรยาออกไปกินข้างข้างนอก แต่เขาเรียกเธอเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา
กระดาษแผ่นเล็กวางอยู่บนหัวเตียง ชายหนุ่มเหลือบไปเห็น เขาหยิบขึ้นมาอ่าน ด้วยหัวใจที่กำลังรู้สึกกลัว
‘คุณกลับไปหาคุณวราลีผู้หญิงที่คุณรักเถอะ ฉันขอเวลาทำใจแล้วจะกลับมาหย่าให้ถูกต้อง ลาก่อนค่ะ’
ศรุตยืนอ่านกระดาแผ่นเล็กด้วยความรู้สึกสับสนมึนงงไปหมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้น น้ำผึ้งถึงได้มาหนีเขาไปแบบนี้
“หรือคุณได้ยินที่ผมคุยกับวราลี”
ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ ว่าภรรยาของเขาอาจมาได้ยินที่เขากับคนรักเก่าพูดกัน ศรุตรีบขับรถออกจากบ้านเพื่อตามหาน้ำผึ้ง เพราะคิดว่าเธอคงยังไปได้ไม่ไกล
ชายหนุ่มขับรถไปตามเส้นทางที่เขาเคยพาเธอไป แต่กลับไม่เจอแม้แต่เงา ศรุตเป็นห่วงภรรยาจนแทบจะขาดใจ เพราะหญิงสาวไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียว
“น้ำผึ้งคุณอยู่ไหน”
จากชายหนุ่มที่หัวใจเข้มแข็ง ตอนนี้เขารู้สึกอ่อนแออย่างบอกไม่ถูก เหมือนร่างกายของเขาไร้หัวใจ เพราะเขาได้มอบมันไว้ให้กับหญิงสาวชาวดอยจนหมดสิ้น
เมื่อการขับรถตามหาไม่ได้ผล ศรุตจึงประกาศให้ผู้คนในโซเชียลช่วยเขาตามหาอีกแรงหนึ่ง
วราลีเมื่อเห็นจากเฟซบุ๊กเธอรีบเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อหวังจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ เพื่อระลึกความสัมพันธ์เก่าๆให้กลับมา
“ศรุตคะ ลีจะมาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ เราจะได้ช่วยกันตามหาน้ำผึ้งไงคะ” หญิงสาวมาในคราบของแม่พระ
“คุณกลับไปเถอะ ผมต้องการอยู่คนเดียว แต่ก็ขอบใจมากนะ”
ศรุตไม่เชื่อในคำพูดของอดีตคนรักเก่า แต่เขาไม่มีอารมณ์จะมาเถียงด้วย จึงได้แต่บอกให้เธอกลับไปด้วยคำพูดดีๆ
“ลีไม่กลับค่ะ เดี๋ยวลีขอนอนห้องว่างๆสักห้องนะคะ คุณไม่ต้องกลัวลีไม่ไปนอนกับคุณเหมือนที่เราเคยนอนด้วยกันหรอกค่ะ”
หญิงสาวยอมหน้าด้านหน้าทน เพื่อหวังจะได้เงินอีกก้อนเพื่อที่จะเอาไปปิดคดีของสามีเธอ
ไม่มีคำตอบใดจากปากของชายหนุ่ม เขายังคงนั่งกุมขมับด้วยความเครียดและความรู้สึกผิด
ห้องนอนที่เคยมีภรรยานอนอยู่เคียงข้างวันนี้มันกลับว่างเปล่า ข้าวของเครื่องใช้หลายอย่างยังถูกวางไว้ที่เดิม
ศรุตเอื้อมมือไปหยิบหวี ที่น้ำผึ้งชอบใช้หวีผมก่อนอน แต่เขาไม่ได้เปิดไฟจึงเผลอทำมันหล่นลงข้างที่นอน
ชายหนุ่มใช้มือคลำเพื่อหวังจะหยิบหวีขึ้นมาที่เดิม แต่สิ่งที่เขาพบกับไม่ใช่ เขาจึงได้เปิดไฟเพื่อดูว่าสิ่งที่เขาเจอคืออะไร
“น้ำผึ้งคุณท้อง”
สิ่งที่ชายหนุ่มหยิบขึ้นมา มันคือที่ตรวจการตั้งครรภ์ ซึ่งมันคงไม่ใช่ของใครแน่ๆนอกจากของภรรยาของเขา
แค่น้ำผึ้งหายไปคนเดียว ศรุตก็จิตใจแย่จนร่างกายไร้เรี่ยวแรง และตอนนี้เขาก็เพิ่งจะมารู้ว่าในท้องของหญิงสาวมีลูกของเขาอีกชีวิต
ชายหนุ่มพยายามตั้งสติ เพราะถ้าเขายังสติแตกแบบนี้คงหาทางตามลูกกับภรรยาไม่ได้แน่ๆ
“ตำรวจ”
ศรุตเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าวันแรกที่เขาได้เดินทางไปบนดอยที่น้ำผึ้งอยู่ คุณทรงวุฒิได้ติดต่อตำรวจที่นั่นให้พาไป และครั้งนั้นเขาก็ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ของนายตำรวจคนนั้นไว้
“ผมจะเดินทางไปที่หมู่บ้านในวันพรุ่งนี้ แล้วจะรีบส่งข่าวมาครับ”
นายตำรวจรับปากที่จะช่วยเหลือตามคำร้องขอของประชาชน แต่หมู่บ้านอยู่ไกลเกินกว่าที่เขาจะเดินทางไปภายในคืนนี้
ก๊อกๆ ๆ
“ศรุตคะเปิดประตูให้ลีเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนคุณเถอะค่ะ”
“ผมนอนแล้ว”
“ลีนอนเป็นเพื่อนคุณได้นะคะ คุณก็รู้ว่าลีจะทำให้คุณคลายความเครียดได้ รับรองว่าลีจะไม่บอกใครเรื่องของเรา”
“คุณกลับไปนอนกับผัวคุณในคุกเถอะ”
ชายหนุ่มปิดไฟ และข่มตาให้หลับ แต่มันก็ไม่ง่ายเลย เพราะตอนนี้เขายังไม่รู้ ว่าลูกกับเมียของเขาไปอยู่ไหน
เมื่อรู้ว่าไม่มีทางที่เจ้าของห้อง จะเปิดประตูให้เธอแน่ๆ วราลีจึงได้แต่หอบความหงุดหงิดกลับไป
“สวัสดีครับ ตอนนี้คุณน้ำผึ้งอยู่กับผม ผมกำลังจะพาเธอไปส่งที่หมู่บ้าน”
เสียงปลายสายคือนายตำรวจที่ศรุตโทรศัพท์ไปขอร้องให้เขาช่วยไปดูน้ำผึ้งที่หมู่ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินทาง หญิงสาวก็มาขอให้เขาพาเธอกลับขึ้นไปบนดอยหมู่บ้านของเธอ
“ขอบคุณมากครับ ฝากดูแลลูกกับภรรยาผมด้วย ตอนนี้น้ำผึ้งกำลังท้องอยู่ แต่ไม่ต้องบอกเธอนะครับ ว่าผมกำลังจะไปหาเธอ”
นับเป็นข่าวดีที่สุด ที่ศรุตรอคอย อย่างน้อยตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าภรรยากับลูกของเขาปลอดภัย
“ศรุตคุณจะไปไหน”
วราลีคว้ามือของชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังถือกระเป๋าเพื่อเดินไปขึ้นรถของเขาที่จอดไว้ที่ประตูโรงรถ
“คุณอยากอยู่ที่นี่คุณก็อยู่ไป ผมจะไปอยู่ในป่ากับลูกกับเมีย และเลิกหวังว่าคุณจะได้เงินสักบาทเพื่อจะเอาไปช่วยผัวคุณ”
ชายหนุ่มขับรถออกไป โดยไม่สนใจอดีตคนรักที่ยืนมองเขาด้วยสายตาแห่งความแค้น ที่เขาไม่คิดจะช่วยสามีของเธอให้พ้นคดี
“น้ำผึ้งเป็นยังไงลูก ทำไมกลับมาคนเดียว”
มะเดื่อโผเข้ากอดลูกสาวด้วยความคิดถึง เพราะตั้งแต่น้ำผึ้งเดินทางเข้าไปอยู่ในตัวเมือง เขาก็ไม่ได้เจอหน้าลูกสาวเลย
“คุณศรุตงานยุ่งค่ะ ตอนนี้น้ำผึ้งกำลังท้องเลยอยากกลับมาพักที่บ้านสักพักนึงค่ะ”
หญิงสาวโกหกมารดา เพราะไม่อยากให้คนเป็นแม่ต้องทุกข์ใจ ที่เธอกับสามีกำลังมีปัญหากัน
“หลานแม่กี่เดือนแล้วลูก” มะเดื่อลูบท้องลูกสาวด้วยความดีใจ
“น้ำผึ้งยังไม่ได้ไปฝากท้องเลยค่ะ แต่ประจำเดือนขาดไปแค่เดือนเดียวเอง คุณแม่คะ คุณปู่เสียแล้วนะคะ”
น้ำผึ้งเปลี่ยนเสียงจากดีใจเป็นเสียงที่มีความเศร้าแฝงอยู่ในนั้น เพราะเธอยังเลิกคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุ
“คุณปู่ไปสบายแล้วจ๊ะลูก ท่านไม่ต้องทรมานกับโรคร้ายแล้ว ป่านนี้ก็คงไปอยู่กับคุณพ่อและกำลังพากันมองมาที่หลานสาวคนสวยคนนี้”
สองคนแม่ลูกโผเข้ากอดกัน น้ำตาที่หญิงสาวพยายามปิดบังมันไว้ด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้มันเกือบจะกลั้นไว้ไม่ไหว เธอจึงแอบใช้มือเช็ดเพื่อไม่ให้มารดาสงสัย
“น้ำผึ้งขอตัวไปเก็บของก่อนนะคะ”
รอยยิ้มที่เกิดจากการฝืนมันทนอยู่ได้ไม่นาน หญิงสาวกลัวว่าถ้าเธอยังนั่งคุยกับมารดาต่อไป แม่ของเธอจะต้องถามถึงศรุตแน่ๆ เธอจึงขอตัวเข้าไปเก็บของเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่เก็บกลั้นไว้