7 ความสูญเสีย
ตอนที่7
ความสูญเสีย
“ผมว่าคุณควรจะซื้อชุดนอน ชุดสำหรับไปงาน สักสี่ห้าชุดนะ”
ศรุตเห็นแต่ภรรยาของเขาใส่แต่ชุดชาวเขาที่เธอเอาติดตัวมาเพียงไม่กี่ชุด
“ราคาต้องแพงมากๆแน่เลยค่ะ น้ำผึ้งเกรงใจคุณ”
“คุณเป็นภรรยาผม ผมก็ต้องดูแลคุณให้ดีที่สุด”
เงินที่ทุกวันนี้ศรุตใช้จ่าย รวมทั้งเงินที่ให้กับวราลีไป เป็นเงินส่วนตัวของเขา ที่ได้จากเงินเดือนและรายได้พิเศษจากงานทนายความ
ชุดต่างๆรวมๆกันแล้วเกือบสิบชุด ถูกเอาไปเก็บไว้ที่รถ เพราะวันนี้ชายหนุ่มตั้งใจ จะชวนภรรยาของเขาดูหนังสักเรื่อง
“ยังไม่เคยเข้าโรงหนังเลยใช่ไหม”
สามีถามภรรยาที่ดูท่าทางจะตื่นเต้น จนมือไม้เย็นเฉียบที่จะได้เข้าโรงหนังเป็นครั้งแรก
“ยังเลยค่ะ เวลาจะเข้าห้องน้ำต้องทำอย่างไรคะ ในโรงหนังมีห้องน้ำไหม”
น้ำผึ้งรู้สึกตื่นเต้นจนกลัว ว่าตัวเธอจะไปอยากเข้าห้องน้ำตอนที่หนังเริ่มฉาย
“ในโรงหนังไม่มี แต่มาเข้าข้างนอกได้ ถ้าอยากมาเข้าคุณก็บอกเดี๋ยวผมพาออกมา”
หนังเรื่องแรกในชีวิตของสาวชาวดอย เป็นหนังสบายๆ ไม่เครียดและไม่รุนแรง
ศรุตนั่งกุมมือภรรยาไว้ตลอด เพราะกลัวหญิงสาวจะรู้สึกกลัวที่ต้องอยู่ในที่มืด อย่างน้อยจะได้รู้ว่ามีเขาอยู่ข้างๆตลอดเวลา
ทั้งคู่ใช้เวลาในโรงหนังเกือบสองชั่วโมง น้ำผึ้งแอบเผลอหลับไปหลายรอบ เพราะเธอไม่ค่อยรู้สึกสนุกกับหนังเท่าไหร่
“คุณศรุตนั่นเพื่อนคุณที่ไปหาที่บ้านใช่ไหมคะ”
หญิงสาวชี้ไปที่ผู้หญิงแต่งตัวดูดีที่กำลังควงแขนมากับผู้ชายที่น่าจะแก่กว่าเธออยู่หลายปี
“ใช่ครับ” ชายหนุ่มมองตามที่ภรรยาชี้
“แฟนเธอเหรอคะ เหมาะกันดีนะคะ ดูดีด้วยกันทั้งคู่เลย”
น้ำผึ้งพูดตามสิ่งที่เธอเห็น เพราะวราลีเดินควงแขนชูชาติ ชายวัยกลางคนที่เธอบอกกับศรุตว่าเป็นอาของเธอ อย่างสนิทสนม
“ไม่ใช่หรอก ผู้ชายคนนั้นเป็นอาของวราลีเขา”
ศรุตตอบตามที่วราลีบอกเขา ถึงแม้ว่าภาพที่เขากำลังยืนมองอยู่มันจะทำให้เขารู้สึกคลางแคลงใจก็ตาม
“น้ำผึ้งหิวข้าวแล้วค่ะ”
เสียงท้องร้องทำให้หญิงสาวต้องบอกคนข้างๆที่กำลังยืนมองชายหญิงสองคนเกาะแขนกันเข้าไปในโรงภาพยนต์
“ขอโทษทีผมลืมเลย”
ร้านชาบูชื่อดังถูกเลือกให้เป็นอาหารมื้อเย็นของคนทั้งคู่ น้ำผึ้งเธอดูมีความสุขมากที่ได้เลือกกินอาหารอะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบ
“ชอบไหม”
ศรุตถามเพราะเห็นคนตัวเล็กนั่งกินอย่างมีความสุขแสดงผ่านใบหน้ารูปไข่
“ชอบมากเลยค่ะ วันหลังไม่ดูแล้วนะคะหนัง มากินที่นี่เลยดีกว่า”
คนพูดอาหารยังอยู่เต็มปากจึงพูดด้วยเสียงอ้อแอ้ ฟังไม่ค่อยอยากจะรู้เรื่อง ทำให้ศรุตอดหัวเราะไม่ได้
“ไม่เห็นคุณกินเลย ไม่อร่อยเหรอ”
ชายหนุ่มเป็นคนที่ค่อนข้างจะดูแลสุขภาพและรูปร่าง เขากินอาหารด้วยความระมัดระวัง เพราะกลัวจะทำให้หุ่นของเขาเสีย
“อร่อย คุณกินเลย ไม่น่าเชื่อเห็นตัวเล็กๆแบบนี้จะกินจุ จนผมต้องยอมยกธงขาวยอมแพ้”
ศรุตแค่นั่งมองหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามกิน เขาก็รู้สึกอิ่มจนไม่ต้องกินเอง ยิ่งเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของภรรยาทำให้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกมีความสุขตามไปด้วย
กว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดพอดี น้ำผึ้งรีบตรงเข้าไปที่ห้องนอนของคุณปู่ ด้วยความเป็นห่วงเพราะทิ้งท่านไปทั้งวัน
“คุณปู่คะหลานกลับมาแล้ว”
หญิงสาวโอบกอดชายแก่ที่นอนอยู่บนเตียงคนป่วย โดยมีพยาบาลนั่งอยู่ข้างๆตลอดเวลา
มือเหี่ยวทั้งสองข้างๆ ค่อยๆยกขึ้นมาทาบลงไปที่หลังของหลานสาว แต่ยังไม่ทันจะได้กอด มือทั้งสองข้างก็ล่วงลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
“คุณปู่ คุณปู่เป็นอะไรคะ คุณพยาบาลคุณปู่เป็นอะไรไม่รู้ค่ะ”
หญิงสาวโวยวายเสียดังลั่นห้องด้วยความตกใจ เมื่อคุณปู่มีอาการกระตุกแล้วก็นิ่งเงียบไป
พยาบาลพยายามยื้อชีวิตคนไข้ทุกวิถีทาง ศรุตเองก็รีบโทรศัพท์ตามรถพยาบาลแต่ทุกอย่างก็สายเกินไป
“คุณท่านเสียแล้วค่ะ” พยาบาลหันมาแจ้งกับทุกคนด้วยแววตาที่มีน้ำใสๆไหลคลออยู่
“คุณปู่ น้ำผึ้งขอโทษ ท่านต้องรอน้ำผึ้งกลับมาแน่ๆ ฉันไม่ควรทิ้งท่านไปเลย”
หญิงสาวร้องไห้น้ำตานองหน้าทรุดลงกับพื้น ถึงเธอจะเพิ่งมาอยู่กับทรงวุฒิแต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความรักที่บุพการีคนนี้มีให้เธอจนสุดหัวใจ
“ท่านไปสบายแล้ว อย่าโทษตัวเองแบบนั้น”
ชายหนุ่มโอบกอดภรรยาเพื่อปลอบใจ เพราะเวลานี้น้ำผึ้งกำลังเอาแต่โทษตัวเอง
หลังงานศพเสร็จสิ้น พินัยกรรมถูกเปิด สมบัติทุกอย่างทรงวุฒิมอบให้กับศรุตและน้ำผึ้งคนละครึ่ง ตามที่เคยได้บอกไว้
“ศรุตงานศพก็เสร็จแล้ว พินัยกรรมก็เปิดแล้ว คุณควรจะหย่าได้แล้วนะ” วราลีมาหาคนรักเพื่อทวงคำสัญญา
“ผมคงไม่หย่า ” ชายหนุ่มตอบด้วยเสียงราบเรียบ
“ศรุตคุณอย่าทำตัวเป็นคนได้ไม่รู้จักพอหน่อยเลย สมบัติที่ท่านให้คุณก็ไม่ใช่น้อยๆ คุณจะฝืนอยู่กับคนที่คุณไม่ได้รักต่อไปเพื่อได้สมบัติที่เหลือเหรอ ลีว่าคุณพอเถอะค่ะ”
น้ำผึ้งเธอยืนแอบฟังอยู่ที่ริมหน้าต่าง คำพูดที่วราลีพูดมาทั้งหมด มันคือความจริงที่เธอไม่เคยรู้ เขามาแต่งงานกับเธอเพียงเพราะต้องการทรัพย์สิน และเขาก็ไม่เคยรักเธอเลย
ที่ตรวจการตั้งครรภ์ในมือถูกกำไว้แน่น หญิงสาวเดินร้องไห้น้ำตาอาบหน้ากลับไปยังห้องนอนของเธอและรีบเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้เร็วที่สุดเพื่อเดินทางกลับไปอยู่ในที่ที่เธอจากมา
การสนทนาของศรุตกับวราลีไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่ที่น้ำผึ้งได้ยิน เพราะการมาของวราลีครั้งนี้เขาไม่ได้แค่มาทวงถามเรื่องหย่า แต่เขาต้องการมาขอเงินจากศรุตเพื่อไปช่วยคนสำคัญคนหนึ่งในชีวิตเธอ
“ศรุตคะลีขอเงินคุณหน่อยได้ไหม คือตอนนี้อาชูชาติโดนจับเพราะพกปืนไปมีเรื่องกับนักเลงในบ่อน ลีไม่มีเงินประกันตัว”
คนพูดทำหน้าเศร้า เพราะอยากให้ชายหนุ่มสงสารและยอมให้เงินแก่เธอตามจำนวนที่เธอต้องการ
“คุณต้องการเท่าไหร่”
ศรุตถามด้วยความเบื่อหน่ายในตัวอดีตคนรักเต็มที่แล้ว เพราะเธอมาหาเขาเฉพาะเวลาต้องการเงินเพียงอย่างเดียว
“หนึ่งล้านบาทค่ะ แล้วคดีจะจบ คุณต้องช่วยอาของลีนะคะ”
“ผมให้คุณได้แค่สองแสน และเงินก้อนนี้จะเป็นก้อนสุดท้ายที่ผมจะให้คุณ ผมแต่งงานมีภรรยาแล้ว เรื่องของเรามันต้องจบได้แล้วนะวราลี”
“ศรุตคุณจะมาทิ้งลีง่ายๆแบบนี้ไม่ได้นะ ไหนคุณบอกว่าคุณจะหย่าทันทีที่ได้สมบัติ คุณมันผู้ชายเฮงซวยไม่รักษาสัญญา”
วราลีโกรธจนดาแดงกร่ำ เธอไม่คิดเลย ว่าการที่เธอยอมให้คนรักไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่นเพื่อแลกกับสมบัติจะทำให้เธอต้องเสียเขาไปแบบนี้
“ผมไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญากับผู้หญิงที่หลอกผมมาตลอด”
“ลีไปหลอกอะไรคุณ”
หญิงสาวเถียงทันควัน น้ำใสๆไหลออกจาดวงตาทั้งสองข้าง เมื่อเธอรู้ว่ากำลังจะถูกทิ้ง
“คนที่กำลังติดคุก มันเป็นอาหรือเป็นผัวของคุณ”
ศรุตไม่อยู่รอฟังคำตอบ เขาเดินไปเปิดประตูบ้านและดึงตัววราลีให้ขึ้นไปนั่งบนรถ
“กลับไป ก่อนที่ผมจะเป็นฆาตกรฆ่าคน”
กรี๊ดดดดดด!!!!!
หญิงสาวกรี๊ดสุดเสียง ก่อนจะปิดประตูและขับรถออกจากบ้านของศรุตไปอย่างไม่หันมามองอีกเลย