6 กลัว
ตอนที่6
กลัว
“ทำไมคุณถึงไม่ยอมไปนอนกับฉัน คุณรักมันแล้วใช่ไหม”
วราลีมองหน้าคนรักด้วยสายตาที่ทั้งเสียใจและผิดหวัง เธอไม่น่ายอมให้เขาไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่นเลย
“ลีคุณฟังผมนะ ตอนนี้คุณทรงวุฒิยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเรื่องระหว่างเราถูกเปิดเผย ท่านยังไม่ได้มอบสมบัติให้ผมกับน้ำผึ้ง ท่านมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนใจ ยกให้หลวงได้อย่างที่ท่านบอกทุกเมื่อเลยนะ”
ชายหนุ่มไม่ตอบคำถาม เรื่องรักหรือไม่รัก แต่เขากลับยกเอาเหตุผลเรื่องสมบัติขึ้นมาพูดแทน
“แต่ลีใจจะขาดแล้ว ตอนนี้เงินก็ไม่มี เงินเดือนที่คุณเคยให้มันก็ไม่พอ คุณจะให้ลีทำยังไงคะ”
“ผมจะโอนเพิ่มให้คุณทุกเดือน แต่คงมากไม่ได้ เพราะอาจจะมีใครในโรงแรมตรวจสอบเจอแล้วไปรายงานคุณท่าน แต่คุณต้องสัญญาว่าจะไม่ทำให้น้ำผึ้งเขาไม่ไว้ใจผม” ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอ
“ลีสัญญาค่ะ แต่ลีคงต้องขอไปหาคุณบ้าง ไปในฐานะเพื่อนก็ได้”
ความผูกพันที่เคยมีให้กัน ทำให้ศรุตใจอ่อน ยอมให้คนรักไปหาเธอที่บ้านของทรงวุฒิได้ แต่ห้ามเธอแสดงท่าทางกิริยาอะไรที่ดูเกินคำว่าเพื่อนในบ้านหลังนั้นเด็ดขาด
“แล้วถ้าคุณทรงวุฒิเสีย คุณจะหย่ากับอีเด็กดอยคนนั้นทันทีเลยไหมคะ”
วราลีต้องการถามให้แน่ใจ เพราะเธอคงทนที่จะอยู่แบบนี้ได้ไม่นาน จากเคยเป็นคนรักแต่ตอนนี้เธอเป็นแค่อีแอบ ได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆเท่านั้น มีเพียงแค่เศษเงินที่เขาหยิบยื่นให้ แต่ที่เธอต้องการคือโรงแรมหรูของทรงวุฒิต่างหาก
“ผมยังตอบคุณไม่ได้ ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน คุณก็อย่าร้อนใจไปเลย ผมไม่ทิ้งคุณแน่นอน” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับมือคนรักเพื่อแสดงให้วราลีรู้ว่าเขายังรักเธออยู่
“เอาเงินนี่ไปใช้ก่อน แล้วผมจะโอนเพิ่มไปให้ ออกมานานแล้วผมคงต้องกลับแล้ว คุณก็ดูแลตัวเองดีแล้วกันนะ”
หญิงสาวรับเงินที่ศรุตยื่นให้มานับ แล้วมองตามหลังชายหนุ่มที่กำลังเดินออกจากร้านด้วยความรู้สึกที่สับสน
วราลีรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากที่เขาแต่งงาน หรือเกิดจากเรื่องอื่นกันแน่
“เป็นไงบ้างล่ะ ได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดไหม”
ชายวัยกลางคนที่เธอเรียกและแนะนำใครต่อใครว่าเป็นอาของเธอ ร้องทักเมื่อวราลีเดินหน้าบูดบึ้งเข้ามาในบ้าน
“สวรรค์อะไรกัน นรกชัดๆ ให้เงินฉันมาสองหมื่นและห้ามฉันไปแสดงให้อีเด็กดอยรู้ว่าเป็นอะไรกัน” หญิงสาวหงุดหงิด
“ถึงว่าอารมณ์ค้างมาเลย”
ชูชาติชายวัยกลางคนอายุสี่สิบต้นๆเดินมานั่งข้างพร้อมกับบรรจงจูบไปทั่วหน้าและซอกคอของวราลีอย่างคุ้นเคย
“อาก็เป็นแบบนี้ตลอด ลีถึงได้หลงไม่กล้าทิ้งไปไหน”
หญิงสาวใช้มือทั้งสองข้างคล้องคอคนที่เธอเรียกว่าอา ทั้งที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกันทางสายเลือดเลย ทั้งคู่บรรเลงบทรักเหมือนสงครามที่มีทั้งความรุนแรงและแผ่วเบา
“อาชาติเด็ดที่สุดเสมอเลยค่ะ”
วราลีออกปากชม เมื่อวันนี้ชูชาติมีของเล่นใหม่ มาเล่นกับเธอ เพราะเขาเพิ่งฝากเพื่อนซื้อมาจากญี่ปุ่น และมันก็สร้างความพอใจให้กับหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
“เราสองคนอาหลานเกิดมาคู่กันจริง ๆ”
เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขแฝงความชั่วร้าย เมื่อสุขสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่
“กลับมาแล้วเหรอคะ”
น้ำผึ้งรีบเดินไปรับกระเป๋าเอกสารจากมือของสามี เมื่อเขาเดินเข้ามายังห้องของทรงวุฒิ
“ไปทำกับข้าวให้ผมกินดีกว่า เดี๋ยวผมอยู่กับคุณท่านเอง”
ศรุตคิดว่าทรงวุฒิคงอยากคุยกับเขา แบบที่ไม่มีน้ำผึ้งอยู่ด้วย เพราะตั้งแต่เขากับน้ำผึ้งแต่งงานกัน เขาก็เอาแต่ทำงานจนไม่ค่อยมีเวลาได้คุยกับผู้มีพระคุณที่ดูแลเขามาตั้งแต่เด็กๆเลย
“งานที่โรงแรมมีปัญหาอะไรไหม” คนป่วยพูดเสียงอ้อแอ้เพราะไม่ค่อยมีแรง
“ไม่มีครับท่าน ทุกอย่างเป็นไปได้ดี ตามที่ท่านวางงานไว้เป็นอย่างดี ท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมก็เรียนรู้งานไปได้มาก อีกหน่อยก็คงจะสอนน้ำผึ้งให้เขาสามารช่วยดูแลจัดการได้”
ศรุตรู้ใจคนตรงหน้า ว่าสิ่งที่ทรงวุฒิห่วงคือน้ำผึ้งกับโรงแรม เพราะเขาบริหารจัดการเองอยู่คนเดียว กลัวว่าถ้าวันนึงเป็นอะไรไป โรงแรมจะไปไม่รอด
“ขอบใจมากนะศรุต และเรื่องของน้ำผึ้ง ถึงแม้จะแต่งงานกันไม่ใช่เพราะความรัก แต่เมื่อยู่กันเป็นครอบครัวแล้ว ก็รักษาไว้ให้ดี ศรุตเองเกิดมาบนครอบครัวที่แตกแยก เธอรู้ใช่ไหมว่ามันทุกข์ยังไง รับปากฉันนะ”
ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ทรงวุฒิก็พยายามพูดทุกอย่างที่ค้างคาใจ เพราะเมื่อเขาได้เห็นหน้าหลานสาวแท้ตั้งแต่ครั้งแรก ความรักความห่วงใยก็เกิดขึ้นทันที
“ผมรักคุณน้ำผึ้งครับ ถึงแม้จุดเริ่มต้นเราจะไม่ได้รักกัน แต่คุณท่านสบายใจได้เลย ผมจะไม่ทำให้รอบครัวของผมต้องล้มเหลวแน่นอน”
คนป่วยหลับตาลงด้วยความสบายใจ ที่อย่างน้อยเขาก็หมดห่วงแล้ว พยาบาลที่จ้างมาได้เวลามาเข้าเวร ศรุตจึงขอตัวออกไปกินข้าวกับน้ำผึ้งและทำงานที่ค้างไว้ต่อ
“หอมจัง วันนี้มีอะไรกินบ้าง”
ชายหนุ่มเดินไปหอมแก้มภรรยา ก่อนจะล้างมือและกลับมานั่งที่โต๊ะอาหาร
“ผัดผักเพื่อสุขภาพค่ะ พรุ่งนี้คุณศรุตพาน้ำผึ้งไปซื้อของบ้างสิคะ ในตู้เย็นโล่งมากเลยตอนนี้”
น้ำผึ้งมาอยู่ในเมืองได้เดือนกว่าๆ แต่เธอยังไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวเลย จึงต้องของให้สามีพาไปซื้อ
“ผมลืมไปเลย ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ผมยังไม่เคยพาคุณไปเที่ยวไหน พรุ่งนี้เราออกกันแต่เช้าเลยดีกว่า”
หญิงสาวยิ้มด้วยความดีใจเพราะเธออยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง อยู่แต่ในบ้านที่มีรั้วสูงมองไม่เห็นอะไรเลย
“น้ำผึ้งจะได้บอกคุณพยาบาล ให้มาอยู่กับคุณปู่ทั้งวัน คุณศรุตห้ามผิดสัญญานะคะ”
“แน่นอนครับคุณภรรยา คุณจะได้ไปซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้แบบที่ผู้หญิงในเมืองเขาใช้กันด้วย”
น้ำผึ้งทำท่าไม่เข้าใจ ว่าอะไรหมายถึงของเครื่องใช้ของผู้หญิงในเมือง แต่พรุ่งนี้เธอก็คงรู้เอง เลยไม่อยากซักถามให้สามีรำคาญใจ
คืนนี้ทั้งคู่รีบเข้านอน เพราะศรุตรู้สึกผิดที่เขาออกไปเจอกกับ วราลี เขาอยากจะไถ่โทษโดยการแสดงบทรักกับภรรยา ให้เธอเป็นหญิงสาวที่มีความสุขที่สุด และเขาเองก็อยากจะมีลูกสักคน เพื่อเป็นโซ่คล้องใจ ชายหนุ่มเองยังคงกังวลว่าสักวัน น้ำผึ้งคงรู้ความจริงเรื่องเขากับวราลีและเธออาจจะไม่ให้อภัยที่เขาตั้งใจไปหลอกเธอ ถึงแม้ตอนนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปแล้ว ลูกจึงอาจเป็นโซ่รักที่ทำให้น้ำผึ้งมองเห็นรักแท้ในหัวใจของเขาก็ได้