2/1 น้ำผึ้งแสนหวาน
ตอนที่2
น้ำผึ้งแสนหวาน
“วันนี้เราไปทักทายผู้คนที่นี่รอบๆหมู่บ้านกันนะจ๊ะ”
หญิงสาวเริ่มต้นจากการพาอนาคตสามี ไปเดินทักทายป้าๆน้าๆลุงๆ ในหมู่บ้าน
สาวๆแรกรุ่นต่างพากันมองชายหนุ่มผู้มาใหม่ด้วยสายตาให้ความสนใจ เพราะหน้าตาและรูปร่างของศรุตโดดเด่นกว่าที่สาวๆที่นี่จะเคยเห็นมาก่อน
“หมู่บ้านที่นี่อยู่กันแบบสบายๆดีนะครับ”
“สบายคือยังไงจ๊ะ” น้ำผึ้งคิดว่าที่เมืองใหญ่น่าจะต้องสบายกว่าที่นี่
“ไม่ต้องเร่งรีบ อยู่พร้อมหน้ากัน มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ แต่ละบ้านก็ดูรู้จักกันหมด” ชายหนุ่มอธิบาย
“ที่คุณศรุตอยู่ เขาไม่รู้จักกันเหรอ อยู่บ้านติดๆกันแบบนี้”หญิงสาวสงสัย
“ไม่เลยครับ บางบ้านอาจจะแทบไม่เคยเห็นหน้ากันเลย ว่าคนที่อยู่ข้างบ้านเราหน้าตาเป็นยังไง”
“เหงาแย่เลยนะแบบนี้” น้ำผึ้งทำหน้าไม่ชอบในสิ่งที่ชายหนุ่มเล่า
“อุ้ย!”
หญิงสาวมัวแต่มองหน้าชายหนุ่ม เพราะเดินคุยกันตลอดทาง จนสะดุดเข้ากับรากของต้นไม้ที่ลอยนูนขึ้นมาบนดิน
“เลือดเลย”
ศรุตหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าของเขาขึ้นมาซับเลือดจากเข่าของน้ำผึ้งที่ไหลซึมออกมา
“ไม่เป็นไรจ๊ะ เดี๋ยวกลับบ้านไปค่อยเอาน้ำล้างก็ได้” หญิงสาวเกรงใจแต่ศรุตก็ไม่ฟังยังคงใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดต่อไป
“โอ๊ย!”
น้ำผึ้งพยายามจะลุกขึ้น แต่เมื่อเธอพยายามจะลงน้ำหนักลงไปที่เท้า กลับต้องทรุดตัวลงอีกทีด้วยความเจ็บปวดบริเวณข้อเท้า
“มาผมอุ้ม”
หญิงสาวยังไม่ทันจะตั้งตัว ก็ถูกคนร่างใหญ่อุ้มเธอด้วยแขนทั้งสองข้างลอยขึ้นจากพื้น น้ำผึ้งจึงทำได้แค่กอดคอชายหนุ่มไว้ เพราะกลัวจะหลุดออกจากมือเขา
เมื่อร่างกายของหญิงสาวอยู่ใกล้กับปลายจมูกของชายหนุ่ม เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นตัวที่หอมแบบธรรมชาติ ที่ไม่ได้ถูกตกแต่งด้วยน้ำหอมอย่างสาวชาวเมือง
“ตัวคุณหอมจัง”
แค่โดนศรุตอุ้ม น้ำผึ้งก็หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งโดนเขาชมแบบนี้ เธอยิ่งอายจนเหมือนจะลืมหายใจ
“เป็นอะไรกันลูก ถึงต้องอุ้มกันมาแบบนี้”
มะเดื่อมองมาจากระเบียงหน้าบ้าน รีบวิ่งมาด้วยความตกใจเพื่อมาดูลูกสาวที่โดนชายหนุ่มจากเมืองใหญ่อุ้มมา
“น้ำผึ้งเขาสะดุดรากต้นไม้แล้วล้มครับ ข้อเท้าอาจจะพลิกหรืออักเสบ เดี๋ยวผมอุ้มเธอไปไว้บนบ้านก่อนนะครับ ”
คนเป็นแม่วิ่งตามไปด้วยความเป็นห่วงลูก ก่อนจะเตรียมการรักษาแบบวิถีชาวบ้านของคนที่นี่ จนน้ำผึ้งเริ่มอาการดีขึ้น
“ขอบคุณมากนะ ที่อุ้มฉันมา” หญิงสาวหันไปขอบคุณคนข้างๆ
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นพาไปเที่ยวทุกวันเลยได้ไหม”
ชายหนุ่มคิดว่าหนทางที่จะทำให้เขากับน้ำผึ้งสนิทสนมกันให้ได้เร็วที่สุด คือการหาโอกาสไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสอง
“เดี๋ยวฉันขอตัวไปทำอาหารเย็นก่อนนะ อยู่คุยกันไปก่อน”
มะเดี่ยวก็หวังว่าการที่เขาเปิดโอกาสให้คนทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน จะทำให้ได้รู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น
“ดีขึ้นไหม” ศรุตใช้มือหนาจับไปที่ข้อเท้าของคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่
“ดีขึ้นแล้วจ๊ะ พรุ่งนี้ก็คงหาย ไม่ต้องกลัวฉันพาคุณไปเที่ยวได้แน่ๆ”
ชายหนุ่มหัวเราะให้กับคำพูดของคนที่นอนเจ็บขาอยู่ ขนาดเจ็บขาแบบนี้ยังมีอารมณ์คิดถึงคำที่เขาบอกให้เธอพาไปเที่ยวทุกวันอีก
หลังจากกินอาหารเย็นเรียบร้อย พระอาทิตย์ตกดินได้เพียงไม่นาน หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านก็ตกอยู่ในความเงียบ ศรุตนั่งมองพระจันทร์ด้วยความคิดถึงคนรัก เขาอยากรู้ว่าตอนนี้วราลีจะกำลังคิดถึงเขาอยู่ไหม แต่ที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ จึงทำได้แค่ส่งใจไป
กริ๊งๆ กริ๊งๆ
เสียงโมบายที่ทำจากระฆังใบเล็กที่ห้อยอยู่ที่หน้าต่างของห้องน้ำผึ้ง ดังเรียกสติของชายหนุ่มให้หันกลับมามองห้องข้างๆที่เปิดหน้าต่างอยู่
ตุ๊บ!