คนพิเศษ
อ้อนรักไฟเสน่หา
ตอนที่ 5 - คนพิเศษ
(อันดา)
"เลิกเรียนแล้วใช่ไหม?" เขาคนนั้นหยุดยืนตรงหน้าแล้วเอ่ยถามขึ้น ส่วนฉันก็ยังได้แต่ยืนอึ้งน้ำตาคลอ กับการปรากฏตัวของเขาที่ฉันตั้งตัวไม่ทัน
"............" และฉันก็ได้แต่เงียบ เงยหน้ามองเขาคนที่ตัวสูงกว่า เพราะว่าฉันพูดอะไรไม่ออก ฉันดีใจที่เขามา แต่ว่าอีกนัยฉันก็เสียใจ ที่เขาไม่ติดต่อฉันเลยเป็นปี
"เฮลโหลอันดา ได้ยินไหม?" ฉันได้ยินเขาถาม แต่ฉันน่ะบังคับปากให้ขยับพูดไม่ได้
"อันดาควรน้อยใจไหม?" ฉันตั้งสติแล้วถามออกไป และตอนนี้ผู้คนก็กำลังจ้องมองมาทางฉัน พรุ่งนี้ฉันคงต้องตอบคำถามไม่หยุดหย่อนแน่ ๆ
ฉันตกเป็นเป้าสายตา! กับผู้ชายหล่อค่อนไปทางยุโรปที่ยืนตรงหน้า ตรงใจสเปกสาว ๆ ทั้งรูปร่างและหน้าตา ความสูงสมาร์ทเท่ ๆ ที่สาว ๆ หลายคนหมายปอง
"นี่มาเซอร์ไพรส์ไง"
"หนึ่งปีกว่าที่หายไป หนึ่งปีกว่าที่เงียบไม่ติดต่อสักนิด ระยะเวลาหนึ่งปีกว่าไม่สะกิดความรู้สึกเลยหรือไง คงมีแต่อันดาคนเดียวที่รอคอยการติดต่อมา ส่งอีเมล์หาก็ไม่มีการตอบกลับ ทำมะ....." ได้ทีฉันก็ร่ายยาวเลยค่ะ ก็คนมันน้อยใจ
((กรี๊ด!!!!!)) ฯลฯ เสียงโห่และกรีดร้องดังก้องทั่วบริเวณ กล้องก็กดถ่ายรูปพวกเรา พรุ่งนี้คงวุ่นวายน่าดู
"โกรธใช่ไหม?" เขาเอามือปิดปากฉันไว้แล้วถามฉันค่ะ จะถามทำไมก็เห็นอยู่ว่าฉันไม่โอเค
".........."
"อันดา" นี่เป็นเสียงของทับทิมค่ะ เธอคงงงละมั้งและคงอยากรู้ด้วย ว่าคนที่เธอกรี๊ดกร๊าดเนี้ยรู้จักฉันไหม
"เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะทับทิม" ฉันหันไปยิ้มให้เพื่อนอย่างฝืน ๆ
"จ้ะ"
"อ่า~~ยืนนานแล้วเมื่อยขาเนาะ ไป! กลับบ้านกัน" แล้วเขาก็ลากแขนฉันฝ่ากลางสาธารณะชนที่ยืนแหวกทางให้ เดินตรงไปที่รถยนต์เลยค่ะ ไม่สนใจสายตาของใครสักนิด
มีเสียงโห่แซวเซ็งแซ่ดังคับหู แค่หางตามองก็รู้แล้วว่า พวกเธอนั้นอยากรู้จักแค่ไหน บางคนก็ตั้งกล้องถ่ายรูปอย่างกับเขาเป็นดารา ทั้งที่เขาก็แค่คนธรรมดาที่หน้าตาดีแค่นั้น!
"อันดา"
"........."
เมื่อขับรถออกมาได้สักพัก คงเพราะความเงียบละมั้ง เขาจึงเอ่ยถามขึ้น ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งนิ่งมองหน้าเขา ขอบตาร้อนผ่าวแต่ว่าน้ำตาก็ไม่ไหล
"โกรธจริง ๆ ใช่ไหม?" เขาย้อนถามอีกครั้ง
"..........." และฉันก็เงียบเหมือนคนเป็นใบ้
"ต้องทำยังไง? อันดาถึงจะหายโกรธ ต้องทำยังไงอันดาถึงจะยกโทษให้" เขาพูดขณะบังคับพวงมาลัยรถไปด้วย
"ใจร้ายกับอันดาจังเลยนะ ทั้ง ๆ แต่ก่อนคุยกับอันดาแทบทุกวัน แล้วอยู่ ๆ ก็เงียบหายไป ไม่ติดต่อไม่อะไรเลยสักนิด หรือว่าเพราะติดสาวแหม่มใช่ไหม? ฮึก ฮึก" เอาละสิในที่สุดก็กลั้นน้ำตาไม่ได้ ปล่อยสิ่งที่อยู่ในใจออกมาจนหมด เขาเลี้ยวรถเข้าข้างทาง ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วดึงฉันเข้าไปกอด
"สกีขอโทษ ไม่อยากให้อันดาโกรธ ยกโทษให้สกีได้ไหม?"
"ฮือ~~"
เมื่อเขาปลอบใจ การถูกกอดปลอบที่แสนอบอุ่น มันทำให้ฉันนั้นปล่อยร้องไห้โฮเลยค่ะ ผู้ชายอบอุ่นที่มักปลอบฉันด้วยชื่อแทนตัว เขาไม่เคยใช้ชื่อแทนตัวกับใคร นอกจากฉันเพียงคนเดียวในตอนนี้ แต่ถ้าวันใดที่มีใครนอกจากฉัน แสดงว่าวันนั้นฉันคงไม่ใช่คนพิเศษของเขาเพียงคนเดียว
(สกีจะไม่พูดแบบนี้กับใคร จะไม่แทนตัวเองด้วยชื่อ)
(สกีจะเก็บไว้พูดกับอันดาคนเดียว)
(สกีให้อันดาเป็นคนพิเศษที่หนึ่งของสกี และจะพิเศษเสมอไป)
นี่คือสิ่งที่เขาเคยบอกกับฉันไว้ก่อนที่เขาจะจบมอปลาย พอจบแล้วสกีก็ไปเรียนที่ออสเตรเลียกับปู่ย่าของเขา เขาไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่เรียนจบมอปลาย และไม่ค่อยได้ติดต่อฉันเลยในช่วงหลัง ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร วันนี้แหละฉันจะถามให้รู้เรื่อง
"ไม่ร้องนะ เดี๋ยวไม่สวย" เขาผละกอดฉันออก แล้วไล้นิ้วมือเช็ดน้ำตาให้ ส่วนฉันก็สะอื้นร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ก็คนมันทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจและทั้งโกรธ หลายความรู้สึกตีกันไปหมด
"อันดาคงไม่ใช่คนพิเศษของสกีอีกแล้วสินะ" ฉันพูดขึ้นอย่างคนน้อยใจ ปัดมือใหญ่ที่เช็ดน้ำตาให้ออก แล้วนั่งนิ่งมองออกไปนอกรถ
"น้อยใจ?"
"เปล่า"
ปากแข็งอีกฉัน ทั้ง ๆ ที่น้อยใจจนเต็มประดา
"คนพิเศษยังไงก็คือคนพิเศษ" เขาพูดแต่ฉันไม่มองหน้า ทำเหมือนกับว่าฉันกำลังงอนแฟนเลยอะ แต่ไม่ใช่นะ! ฉันกับสกีเราเล่นด้วยกันมาแต่เด็ก เราสนิทกันมาก และด้วยความที่เขาอายุมากกว่าเลยแบบพี่ชายกับน้องสาวละมั้ง แต่ที่จริงตามศักดิ์แล้วป้าแนนบอกว่าสกีต้องเรียกฉันอา แต่ว่าฉันไม่ให้เรียกหรอก
"อันดาอาจจะไม่ใช่คนพิเศษเพียงคนเดียวในตอนนี้"
"มันก็ใช่อะนะ เพราะสกีมีคนพิเศษที่ไม่ใช่อันดาเพียงคนเดียว"
ท้ายที่สุดฉันก็ไม่ได้สำคัญและเป็นคนพิเศษสำหรับเขาจริง ๆ ฉันนั่งนิ่งหลับตาปล่อยให้น้ำตารินไหลอาบแก้ม ความน้อยใจที่มีก็เพิ่มทวีมากขึ้น ฉันรู้สึกเสียใจ เสียใจที่ไม่ได้เป็นคนพิเศษที่ยืนหนึ่งสำหรับเขาอีกต่อไป.....