บท
ตั้งค่า

เมียพฤตินัย (40%)

ค่ำนี้ดูเหมือนเซซาเรจะเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ เพราะมีแม่ม่ายสาวสวยมาคอยออดอ้อนออเซาะและตักอาหารเอาใจอยู่ไม่ห่าง แถมคนที่ทำให้เขาขวางหูขวางตาอย่างปรเมศยังเอ่ยขอตัวกลางคัน เนื่องจากคุณหมอหนุ่มมาดกวนติดเคสผ่าตัดสมองด่วน

ท่าทางออดอ้อนออเซาะจนเกินงามทำให้นางสอางค์นั่งหน้าตึงด้วยความไม่พอใจ นึกอยากจะหยิกพ่อตัวดีให้เนื้อเขียวยิ่งนัก กระแอมเตือนคนทั้งคู่อยู่หลายครั้ง ครั้นทนไม่ไหวคนแก่ก็ลุกจากโต๊ะอาหาร พร้อมเอ่ยชักชวนให้เหลนตัวน้อยที่อิ่มก่อนไปฟังนิทานก่อนนอน

ส่วนอ้อนรักที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสามีเห็นภาพบาดตาบาดใจมาตลอดก็อิ่มตื้อตั้งแต่กินข้าวได้ไม่กี่คำ ไหนจะเรื่องการหย่าที่จะเกิดขึ้น มันพลอยทำให้เธอกินอะไรไม่ลงเอาเสียดื้อๆ ทว่าครั้นจะลุกตามผู้เป็นย่าเเละหลานตัวน้อยไป เซซาเรกลับเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน

“เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป”

“คุณมีอะไรกับฉันก็พูดมาเถอะค่ะ”

“ฉันอยากได้น้ำมะนาว”

ประโยคที่จอมบงการผู้ยิ่งใหญ่พ่นออกมาทำให้คนฟังลอบกลอกตา เพราะนี่ไม่ใช่ประโยคบอกเล่า แต่มันคือประโยคคำสั่งแสนเผด็จการที่ต้องปฏิบัติตามเท่านั้น ครั้นจะวานสาวใช้ให้ช่วยจัดการก็ไม่ได้ เพราะนางสอางค์อนุญาติให้ทุกคนไปเที่ยวงานวัดประจำปีตั้งแต่จัดโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“รอสักครู่ค่ะ” สาวน้อยพยายามสูดลมหายใจระงับอารมณ์ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ

จากนั้นอ้อนรักก็หมุนตัวเดินลิ่วจากไป วาจาออดอ้อนหวานหูที่ดังไล่หลังมาหลอกหลอนทำให้แม่สาวหวานถึงกับน้ำตาซึมด้วยความอัดอั้นตันใจ

การเป็นภรรยาแสนชังของสามีมันเจ็บปวดหัวใจมากอยู่แล้ว แต่การที่เขาควงผู้หญิงคนอื่นมาเย้ยถึงถิ่นนั้นกลับเจ็บปวดแสนสาหัสยิ่งกว่า

“เสร็จหรือยัง”

ระหว่างที่สาวน้อยกำลังเอาน้ำมะนาวเย็นๆ ซึ่งคั้นติดตู้เย็นเป็นประจำเทลงในแก้ว เสียงแข็งๆ ก็เอ่ยขึ้น ก่อนที่เพชรพริ้งจะเดินเชิดหน้าเข้ามาในครัว

“เสร็จแล้วค่ะ” หลังจากจัดแก้วน้ำมะนาวใส่ถาดอ้อนรักก็เชิดหน้าเอ่ยตอบเสียงแข็งกระด้างพอกัน เรื่องอะไรเธอจะต้องก้มหัวให้ผู้หญิงไร้ยางอายตรงหน้า ถึงแม้จะเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ใช่ว่าเธอจะยอมให้ใครมาข่มเหงรังแกได้ง่ายๆ หากอีกฝ่ายร้ายมาเธอก็จำเป็นจะต้องร้ายกลับเพื่อปกป้องตัวเอง

“เสร็จแล้วก็เอามานี่” แม่ม่ายสาวว่าพลางเดินชนร่างอ้อนแอ้น แล้วฉวยถาดน้ำมะนาวมาถือไว้ ก่อนจะหมุนตัวออกไปจากห้องครัว ทว่าไม่นานหล่อนก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้ จึงหันมาจิกตาใส่พร้อมเอ่ยเสียงกระด้าง

“หวังว่าหล่อนจะไม่ไปขัดความสุขของฉันกับเซตนะ”

“เห็นทีจะไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉันต้องไปเก็บจานมาล้าง เอ๊ะ…หรือว่าคุณจะเก็บมาล้างเอง” อ้อนรักลอยหน้าสวนกลับด้วยน้ำเสียงเนิบนิ่ง ทว่านัยน์ตากลับท้าทาย ทำเอาอีกฝ่ายแทบเต้นเป็นเจ้าเข้า เพราะคาดไม่ถึงว่ายัยเด็กหน้าจืดที่ดูภายนอกหงิมๆ สนิมสร้อยจะร้ายลึกขนาดนี้

“เอ๊ะ…นังนี่! ฉันเป็นแขกของผัวหล่อนนะยะ” เพชรพริ้งตวาดลั่นด้วยความโมโหสุดขีด

“หึ…ดีนะคะ ที่ยังสำนึกได้ว่าตัวเองเป็นแค่ ‘แขก’ ของผัวคนอื่น”

“ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละย่ะ เพราะทันทีที่เซตหย่ากับหล่อนฉันก็จะมาแทนที่หล่อน เป็นเมียที่เขารัก ไม่ใช่เมียแสนชังที่เขารังเกียจอย่างหล่อน”

วาจากระแทกแดกดันทำให้คนฟังข่มใจอย่างสุดฤทธิ์ ก่อนจะยิ้มอ่อนๆ ให้อีกฝ่ายรู้ว่ามาดนางร้ายของหล่อนไม่สามารถทำอะไรเธอได้ แล้วตอบโต้ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“แหม…ชอบกินของเหลือเดนก็ไม่บอก แต่คงต้องอดใจไว้ก่อนนะคะ รอให้เขาเซ็นใบหย่าให้ฉันก่อนแล้วกันถึงมาประกาศปาวๆ ว่าจะมาแทนที่ฉัน เพราะหากกระโตกกระตากไปก่อนที่ฝ่ายชายจะทันได้พูดอะไรมันดูไม่งามค่ะ คุณก็ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชนนี่คะ น่าจะรู้ดีแก่ใจว่าอะไรควรไม่ควร”

กล่าวจบอ้อนรักก็จงใจเดินชนไหล่อีกฝ่ายออกไปจากห้องครัว ทิ้งให้คนที่โดนตอกหน้าด้วยถ้อยคำเหน็บแนมแบบผู้ดีจ๋าแต่บาดลึกถึงทรวงในถึงกับสะอึกไปชั่วขณะ

เพชรพริ้งยืนกัดฟันกรอดๆ พยายามระงับจิตระงับใจไม่ให้ตัวเองเผลอกรีดร้องออกมา ถ้าไม่เกรงว่าจะถูกเซซาเรมองไม่ดีล่ะก็หล่อนจะตามไปจิกหัวนังหน้าจืดนั่นมาตบสั่งสอนเสียให้เข็ด

หลังจากยืนสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ แม่ม่ายสาวก็หันซ้ายแลขวา ครั้นเห็นว่าปลอดคนหล่อนก็หยิบซองอะไรบางอย่างที่เหน็บไว้ข้างเอวเทลงไปในแก้ว จากนั้นก็ถือถาดน้ำมะนาวหมุนตัวเดินลิ่วออกจากห้องครัว

ทันทีที่มาถึงโต๊ะอาหารเพชรพริ้งก็หันไปยิ้มเย้ยให้คนที่กำลังเก็บจาน ก่อนจะส่งยิ้มหวานหยดพร้อมเสิร์ฟน้ำมะนาวให้เซซาเร แล้วหย่อนสะโพกดินระเบิดลงนั่งข้างๆ เขา

ครั้นเห็นชายหนุ่มยกแก้วน้ำมะนาวขึ้นดื่มรวดเดียวแม่ม่ายสาวก็กระตุกยิ้มตรงมุมปากสีแดงสดด้วยความสมใจ ก่อนจะเอ่ยถามคนที่หล่อนหมายมั่นปั้นมือว่าจะจับทำสามีเสียงหวานหยด

“อร่อยไหมคะ”

“อืม…แก้เลี่ยนได้ดีเชียวล่ะ แล้วคุณไม่กินหรือไง”

“ไม่ล่ะค่ะ พริ้งอิ่มจนพุงกางแล้ว”

“คุณมีพุงที่ไหนกันเล่า…” เซซาเรเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ทว่าเสี้ยววินาทีถัดมารอยยิ้มที่แต่งแต้มตรงมุมปากหยักก็ค่อยๆ หุบลง เมื่ออยู่ๆ อาการร้อนวูบวาบพลันบังเกิดขึ้นกับร่างกายของเขา ความผิดปกติแบบปัจจุบันทันด่วนทำให้คนเจ้าอารมณ์กัดฟันกรอด ก่อนจะหลุดสบถออกมา

“บัดซบ! ใครเป็นคนคั้นน้ำมะนาว!”

“ก็เมียคุณนั่นแหละค่ะ” เพชรพริ้งใส่ร้ายคนที่เดินเอาเศษอาหารไปเทลงถังขยะอย่างหน้าไม่อาย อะไรที่จะทำให้เขาเกลียดและขยะแขยงแม่นั่นได้หล่อนพร้อมจะทำ

“ระยำเอ๊ย!” คราวนี้เซซาเรถึงกับคำรามลั่น กระแสความร้อนแปลกๆ เริ่มแผ่ขยายไปทั้งสรรพางค์กาย

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” แม่ม่ายสาวแสร้งเอ่ยถามด้วยความตกอกตกใจ ทั้งที่ข้างในกระหยิ่มยิ้มย่องสุดฤทธิ์ จากนั้นก็วาดมือไปลูบไล้แขนกำยำคล้ายเป็นห่วงเป็นใย หากแต่จริงๆ แล้วหล่อนรู้ดีว่าการแตะต้องเนื้อตัวอีกฝ่ายเป็นการกระตุ้นเร้าชั้นดี อีกไม่นานเขาจะต้องตบะแตกอย่างแน่นอน

“ผมไม่เป็นไรหรอก นี่ก็ดึกแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ” เซซาเรปัดมือเรียวออกจากแขนตัวเอง แล้วเอ่ยเสียงแข็งปนหอบหนักๆ ก่อนจะลอบมองคนที่ได้ชื่อว่าเมียซึ่งเพิ่งเดินกลับมายังโต๊ะอาหารด้วยสายตาชนิดหนึ่ง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เพชรพริ้งยอมไม่ได้ แผนนี้หล่อนอุตส่าห์เทหน้าตักเสี่ยงสุดชีวิต แล้วเรื่องอะไรจะปล่อยให้แม่เมียตีทะเบียนมาชุบมือเปิบ คิดได้ดังนั้นสาวเจ้าก็เอ่ยถามย้ำคล้ายเป็นห่วงอีกฝ่ายเสียเต็มประดา

“คุณไม่เป็นไรแน่นะ ให้พริ้งอยู่เป็นเพื่อนดีกว่าไหมคะ” ท้ายประโยคแม่ม่ายสาวเอ่ยเสนอตัว พร้อมจงใจเอนกายเข้าหาอีกฝ่าย จนหน้าอกอวบอึ๋มเสียดสีกับต้นแขนแกร่ง ทำเอาเซซาเรแทบหลุดสบถออกมาอีกรอบ ส่วนมือกระด้างนั้นก็ผลักอีกฝ่ายออกห่างตัวแรงๆ จนหล่อนแทบกระเด็นตกเก้าอี้

“บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร คุณกลับไปเถอะ”

“แต่เซตคะ…”

“ผมบอกให้กลับไปก่อน ไม่ได้ยินหรือไง!” เขากดเสียงต่ำเกือบเป็นคำราม ใบหน้าหล่อลากไส้แดงก่ำ ลมหายใจที่พรั่งพรูออกมาจากปลายจมูกคมสันเริ่มถี่กระชั้น ความอดทนใกล้จะหมดลงทุกที

คล้อยหลังแขกสาวที่เดินกระแทกเท้าจากไปอย่างหัวเสียเพราะแผนที่วางไว้ดันล่มไม่เป็นท่า เซซาเรก็ตวัดสายตาดุดันไปมองคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเช็ดโต๊ะอาหาร ก่อนจะลุกพรวดพราดในจังหวะที่เธอกำลังจะยกจานที่วางซ้อนกันเป็นตั้งๆ ไปล้าง ชั่วพริบตาก็ประชิดร่างระหง แล้วเค้นเสียงพร่าปนหอบลอดไรฟัน

“จะไปไหนแม่ตัวดี”

“ฉันจะเอาจานไปล้างค่ะ”

“ไม่ต้องล้าง วางมันลง แล้วไปที่ห้องกับฉัน”

“ฉันล้างไม่นานหรอกค่ะ คุณไปรอที่ห้องคุณได้เลย เสร็จแล้วเดี๋ยวฉันตามไป”

น้ำคำดื้อด้านไม่ยอมทำตามคำสั่งทำให้คนไม่เคยถูกขัดใจเลือดขึ้นหน้า ผสมกับไอ้ฤทธิ์ยาบัดซบที่กำลังวิ่งวุ่นไปทุกขุมประสาท ทำให้เขาปัดจานเกือบสิบใบที่เธอถืออยู่อย่างไม่แยแสว่าข้าวของจะเสียหาย หรือจะสร้างความแตกตื่นให้ผู้เป็นย่าและหลานสาวตัวน้อย

เพล้ง!!!

“โว้ย! ก็บอกว่าไม่ต้องล้างไงวะ มานี่…” ขาดคำจอมโมโหร้ายก็กระชากข้อมือกลมกลึงแรงๆ จนร่างแน่งน้อยปลิวตามแรงฉุดกระชากลากดึง

“ปล่อยนะ! คุณจะพาฉันไปไหน” อ้อนรักเอ่ยประท้วงพร้อมพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากอุ้งมือใหญ่ อยู่ๆ อีกฝ่ายก็ทำตัวเป็นอันธพาลจนเธออดหวาดหวั่นกับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่ได้

“ไปคุยเรื่องหย่า อยากหย่ากับฉันนักไม่ใช่หรือไง” เขาเค้นเสียงพร่าติดจะสั่นลอดไรฟัน พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความกระหายอยากที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

คำว่า ‘หย่า’ ของคนที่กำลังจะสิ้นสภาพการเป็นสามีทำให้เธอละพยศได้อย่างชะงัด แล้วเดินตามแรงดึงไปเหมือนคนไร้ชีวิตจิตใจ ที่สุดก็มายืนประจันหน้ากันในห้องนอนของเขา โดยมีเพียงโต๊ะทำงานตัวใหญ่กั้นเอาไว้

“เซ็นซะ แล้วไปเจอกันที่อำเภอพรุ่งนี้”

เซซาเรวางกระดาษลงตรงหน้าหญิงสาวด้วยกิริยาไม่สุภาพพร้อมเอ่ยห้วนๆ ก่อนจะออกอาการกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด บ้างก็ฮึดฮัดและหลุดสบถออกมา

“ฉันไปได้แล้วใช่ไหมคะ” หลังจากจรดปากกาเซ็นชื่อลงในสัญญาว่าจะไม่เรียกร้องทรัพย์สินใดๆ หลังการหย่าที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ อ้อนรักก็เอ่ยถามอย่างหวั่นๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายมองตาขวางพร้อมหายใจฟืดฟาด

“ผู้หญิงจอมร้ายกาจมากเล่ห์อย่างเธอจะไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น” เซซาเรเค้นเสียงลอดไรฟันปนหอบหนักๆ ขณะกระชากเสื้อออกจากร่างร้อนรุ่ม นำพาความแตกตื่นมาสู่สาวน้อย

“คุณจะทำอะไร!”

“หึ...อยากได้ฉันเป็นผัวจนตัวสั่นถึงขั้นใช้วิธีสกปรก แล้วยังมีหน้ามาถามอีกเหรอแม่คุณ ไม่ต้องเสแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาหรอกน่า เพราะแค่นี้ฉันก็อยาก ‘เอา’ เธอจะแย่อยู่แล้ว” จอมวายร้ายแสยะยิ้มน่าประหวั่นพรั่นพรึงพร้อมย่างสามขุมเข้าหา ทำเอาเธอถอยกรูดและร้องห้ามปรามเสียงหลง

“อย่านะ!”

“หย่าน่ะฉันหย่าให้เธอแน่แม่เมียแสนชัง แต่ก่อนหย่าฉันขอทำหน้าที่ผัวให้สาสมกับความร่านของเธอก่อนแล้วกัน” ขาดคำเขาก็กระชากข้อมือกลมกลึง ส่งผลให้ร่างอ้อนแอ้นปลิวมาปะทะแผงอกกว้าง ทันใดนั้นปากหยักก็กระแทกลงบดขยี้เรียวปากสีกุหลาบอย่างดุดันระคนดิบเถื่อน

เซซาเรปล้นจูบเมียแสนชังอย่างเอาแต่ใจ ทั้งดุดัน ห่ามดิบ และช่างเรียกร้อง โดยไม่นำพาอาการดิ้นรนขัดขืนอย่างบ้าคลั่งของคนถูกจู่โจมด้วยความวาบหวามชนิดไม่ทันตั้งตัว กระทั่งเมื่อลมหายใจของสาวน้อยถูกสูบออกไปจากปอดจนเกือบหมดสิ้น พร้อมอาการดิ้นพราดๆ เหมือนจะขาดใจเขาถึงได้ยอมถอนปาก ขณะที่วงแขนกำยำยังคงร้อยรัดเอวคอดกิ่วเอาไว้อย่างแน่นหา

“ปล่อยฉันนะ” อ้อนรักช้อนนัยน์ตาคลอหยาดน้ำใสๆ เอ่ยเสียงเครือ พร้อมขืนกายออกจากพันธนาการแกร่งด้วยความหวาดกลัวกับอารมณ์รุนแรงของอีกฝ่าย

ทว่าแทนที่จะปล่อยให้เธอเป็นอิสระพ่อเจ้าประคุณกลับกระชับวงแขนให้แน่นเข้า กัดฟันระงับอารมณ์ความกระหายอยากที่มีมากจนแทบจะล้นอก พยายามเตือนสติตัวเองว่าให้อดทนเอาไว้ทั้งที่อยากจับเธอกดแล้วทิ่มแทงให้สาแก่ใจ ก่อนจะลอยหน้าเอ่ยอย่างหยันๆ

“หึ…พูดอะไรให้มันตรงกับใจหน่อยสิ”

“ไหนคุณบอกว่าสารรูปจืดชืดเป็นแม่ชีอย่างฉันคุณเอาไม่ลงไงล่ะ”

“ตอนนี้อยาก ‘เอา’ มีอะไรไหม” จอมวายร้ายโน้มหน้าลงมากระซิบข้างใบหูน้อย เป่าลมร้อนๆ เข้ายั่วเย้าเล้าโลมจนคนถูกกระทำตัวสั่นระริก แล้วซุกไซ้ซอกคอระหง สาวน้อยพยายามเบี่ยงตัวหลบเลี่ยงพร้อมเค้นเสียงปนหอบหนักๆ หาทางทัดทานอีกฝ่ายสุดความสามารถ

“คนบ้า! ไหนคุณบอกว่าเกลียดฉันไง”

“จะบอกอะไรให้นะเด็กน้อย เวลาผู้ชายมัน ‘อยาก’ ขึ้นมาจนหูอื้อตาลายมันไม่สนใจหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นจะสารรูปทุเรศมากมายขนาดไหน หรือแม้แต่มันจะเกลียดเข้าไส้มันก็ ‘เอา’ ได้ทั้งนั้น” คนโอหังเอ่ยอย่างไม่คิดจะรักษาน้ำใจ ก่อนจะก้มลงดูดปากอิ่มอย่างอดใจไม่ไหว

อ้อนรักระดมกำปั้นทุบอกกว้างไม่ยั้ง สะบัดหน้าจนหลุดจากจูบอย่างเอาเป็นเอาตาย ขืนกายออกจากพันธนาการร้าย แล้วฟาดฝ่ามือเข้าที่ซีกแก้มสากสุดแรงเกิด

ฉาด!!!

แรงปะทะจากฝ่ามือน้อยๆ ทว่าแสบสันทำให้ใบหน้าคร้ามคมสะบัดไปอีกทาง ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาจ้องเธอด้วยนัยน์ตาดุกร้าวมืดดำจนน่าประหวั่นพรั่นพรึง แล้วเค้นเสียงขุ่นคลั่ก

“หึ…ชอบแบบซาดิสม์ก็ไม่บอก เดี๋ยวพ่อจะจัดให้ครางเป็นลูกหมา”

“เลว!”

“เลวแล้วไง ไม่ใช่ไอ้เลวคนนี้หรอกเหรอที่เธออยากได้ทำผัวจนตัวสั่น” เสียงห้าวห้วนคำรามกระหึ่ม ก่อนจะจับร่างอ้อนแอ้นพาดบ่า แล้วก้าวอาดๆ ไปยังเตียง

“ฉันไม่เคยอยากได้ผู้ชายเย็นชา ปากร้าย เอาแต่ใจอย่างคุณเป็นผัว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel