ตอนที่ 4 อดีตคู่หมั้น
“ว่าแล้วทำไมหน้าคุ้น ๆ ที่แท้เป็นอดีตคู่หมั้นพี่ใหญ่นี่เอง” พนาเอ่ยพลางใช้มือเกาที่คางมน พลางนึกถึงอะไรบางอย่างในหัวไปด้วย
“แต่ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะไม่ค่อยชอบหน้าเธอสักเท่าไหร่นะ” น้องเล็กเอ่ยสมทบ
“แกก็รู้ว่าพี่เราอ่อนไหวกับผู้หญิงมากแค่ไหน จะทำเป็นเข้มไปได้สักกี่น้ำก็ไม่รู้ ดูท่าทางคุณแอลลี่ก็เป็นผู้หญิงไม่ยอมคนซะด้วย งานนี้สนุกแน่ บางทีอีกไม่นานที่ไร่เราอาจจะมีงานมงคลก็เป็นได้นะไอ้เล็ก” คนพูดยิ้มอย่างมีเลศนัย
“แต่ก็ดีเหมือนกันนะ พี่ใหญ่โสดมานานแล้ว ถ้าแต่งงานกันตั้งแต่ตอนนั้นอาจจะมีลูกสองสามคนไปแล้วมั้ง งั้นเรามาลุ้นให้คู่นี้ได้แต่งงานกันเร็ว ๆ ดีไหม”
“โอเคไอ้น้อง บ้านเราจะได้มีเด็กตัวเล็ก ๆ วิ่งเล่นสักที”
สองพี่น้องปะมือรวมพลังกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพราะอยากเห็นพี่ชายคนโตเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที
ตอนนี้เวหาเองก็ไม่มีใคร หากจะแต่งงานกับใครสักคนหนึ่ง พรรณวรทก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะเป็นผู้หญิงที่ผู้ใหญ่เลือกไว้ให้ แต่ติดตรงที่ว่าเธอเคยทำให้เวหาเสียความรู้สึกมาแล้วครั้งหนึ่ง ทั้งสองเกรงว่าเรื่องมันอาจจะยากขึ้นมากกว่าเดิม
*-*-*-*-*-*-*-*
ประตูห้องนอนรับแขกถูกเปิดออก ชายหนุ่มลากกระเป๋าไปวางไว้กลางห้อง ก่อนจะยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่กลางห้อง ตั้งใจแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายให้เธอเห็น
“นี่ห้องนอนคุณ”
“สวยดีนี่ คนแต่งมีรสนิยมน่าดู” เธอว่าพลางกวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างสนใจ บรรยากาศที่นี่ก็ดี ห้องนอนก็สวยน่าอยู่ เป็นอะไรที่น่าอยู่มาก ๆ
“ผมนี่ล่ะเป็นคนออกแบบตกแต่งเอง”
“งั้นถือว่าฉันชมคุณก็แล้วกันนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วออกไปได้เลยฉันจะพักผ่อน”
“เรายังไม่ได้ตกลงกันเลยนะ”
“เรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องแต่งงานไงล่ะ”
“สรุปว่าคุณยอมแต่งงานกับฉันแล้วเหรอ” เธอฉายรอยยิ้มแห่งความเจ้าเล่ห์ออกมา
“ไม่มีทาง! แต่ผมจะบอกคุณว่า ไม่ว่าจะยังไงผมก็ไม่มีทางแต่งงานกับคุณแน่นอน ผมไม่อยากให้ความหวังใครทั้งนั้น ตั้งแต่ตอนที่คุณปฏิเสธในครั้งนั้นผมสัญญากับตัวเองไว้ ว่าจะไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักเด็ดขาด”
“งั้นคุณก็รักฉันสิ ฉันออกจะสวยขนาดนี้รักได้ไม่ยากหรอกน่า”
“เคยได้ยินสวยแต่รูปจูบไม่หอมไหม คุณเป็นผู้หญิงประเภทนั้น” เป็นคราวที่เวหายิ้มเยาะเธอบ้าง
ตอนแรกที่ได้ยินพรรณวรทยอมรับว่ารู้สึกโกรธ แต่ทว่าเธอควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ยิ้มบาง ๆ ออกมาให้เขารู้ว่า เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดพวกนั้นเลย
“คุณเคยจูบฉันเหรอถึงได้รู้ว่าไม่หอม” เจ้าหล่อนจงใจจ้องตาเขา ก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้ ทำเอาฝ่ายชายถอยหลังอย่างช้า ๆ
“คุณเป็นผู้หญิงนะ ถ้ามีใครมาเห็นเข้ามันจะดูไม่งาม”
“มีใครที่ไหนกัน ในห้องนี้มีแค่เราสองคนไม่ใช่หรอกเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูมาดแมนอย่างคุณจะประหม่าเวลาได้อยู่ใกล้ผู้หญิง” น้ำเสียงของเธอแหบพร่าแฝงไปด้วยความเร่าร้อน เอื้อมมือไปรั้งต้นคออีกฝ่ายเอาไว้อย่างแน่นหนา
“คะ...คุณจะทำอะไร!”
“ก็จะทำให้คุณรู้ยังไงล่ะว่าตัวฉันหอมไหม”
หัวใจเวหาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมที่อยู่บนตัวเธอ กลิ่นนี้ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างบอกไม่ถูก หายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อริมฝีปากของเธอขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ มือหนาเลื้อยไปบนแผ่นหลังอย่างลืมตัว แต่ทว่าในวินาทีนั้นเจ้าหล่อนกลับดับฝันไปเสียดื้อ ๆ
“คิก ๆ ๆ คุณนี่อ่อนหัดชะมัด แค่นี้ก็ทำตัวแข็งทื่อราวกับหุ่นยนต์ซะแล้ว”
“นี่คุณแกล้งผมงั้นเหรอ!”
“เปล่าสักหน่อยแค่ลองใจว่าคุณจะทำอะไรฉันไหม สุภาพบุรุษกว่าที่คิดแฮะ” เธอเอ่ยกลั้วขำ
“แล้วไม่คิดเหรอว่าผมจะรังเกียจคุณ เคยได้ยินไหมว่าอะไรที่มันได้มาง่าย ๆ มักจะไม่มีค่า พูดแค่นี้คงจะเข้าใจนะ หากคุณอยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปผมก็ไม่ว่า แต่ช่วยรบกวนห้ามทำตัววุ่นวาย ห้ามสร้างภาระให้ผม อ้อ! และที่สำคัญห้ามมาอ่อยผมอีก เพราะถึงยังไงผมก็ไม่หลงกลผู้หญิงเมืองกรุงอย่างคุณหรอก” เขายักคิ้ว ทำหน้าตาอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ปัง!
พรรณวรทจ้องมองไปยังประตูบานใหญ่ด้วยความโมโห กำมือแน่นจนสั่นเทา ตอนแรกคิดว่าความสาวและความสวยของเธอจะทำให้อีกฝ่ายตกหลุมพราง แต่ทว่าเขาใจแข็งกว่าที่คิดมาก แม้จะดูเหมือนอ่อนหัดเรื่องผู้หญิง แต่ก็มีความร้ายกาจซ่อนเร้นอยู่ไม่น้อย
“ฉันไม่ยอมแพ้คุณแน่”
ออกมาจากห้องแล้วเวหาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกโล่ง ยกมือขึ้นไปวางทาบบนอกด้านซ้าย พบว่าหัวใจยังคงเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้เธอคนนี้เด็ดขาด ในเมื่อไม่เคยเห็นกันอยู่ในสายตาตั้งแต่แรก เขาก็จะไม่ให้ค่าเธอเช่นกัน
เพราะผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของตาย...ที่คิดอยากจะกลับมาใช้งานตอนไหนก็ได้