เจ้าสาวสำรอง (150%)
หลังจากถูกลวนลามอย่างจาบจ้วงหยาบคาย มะลิร้อยก็วิ่งกลับไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องของตัวเองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะอาบน้ำชำระร่างกาย แล้วเดินมาหาผู้เป็นป้าซึ่งเพิ่งแยกกับสามี หลังจากที่ทั้งคู่ทานมื้อค่ำร่วมกันเสร็จ
“คุณป้าคะ”
“แกมีอะไรจะพูดก็ว่ามา จากนั้นก็รีบเข้านอนซะ เพราะพรุ่งนี้แกต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมแต่เช้า”
“ไม่ค่ะ หนูจะไม่แต่งงานกับคุณวูล์ฟ” กล่าวจบสาวน้อยก็ลอบระบายลมหายใจออกมา คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเธอต้องรวบรวมความกล้าอย่างมหาศาลเพื่อที่จะเอ่ยสิ่งนี้ออกมา
หลังจากมองตาปริบๆ และอ้าปากค้างกับกิริยาที่ส่อไปในทางแข็งข้อของหลานสาว ซึ่งตนคิดเสมอมาว่าหัวอ่อน นางเดือนแขก็ชี้หน้ามะลิร้อย พร้อมเค้นเสียงขุ่นคลั่กปากคอสั่นระริกด้วยความเดือดจัด
“นี่แกกล้าขัดคำสั่งฉันเหรอนังมะลิ! นังหลานเนรคุณ!”
“มะ…ไม่นะคะ มะลิไม่ได้คิดจะขัดคำสั่ง ไม่เคยคิดจะเนรคุณ แต่มะลิไม่อยากแต่งงานกับคุณวูล์ฟ ได้โปรดอย่าให้มะลิแต่งงานกับเขาเลยนะคะ มะลิขอร้องล่ะ” ท่าทีกราดเกรี้ยวเอาเรื่องของอีกฝ่ายทำให้สาวน้อยชักใจสั่น ก่อนจะละล่ำละลักปฏิเสธ ตบท้ายด้วยการวิงวอนเสียงสะท้าน ขณะที่ในใจนึกด่าทอตัวเองว่าเธอมันขี้ขลาด คัดค้านอีกฝ่ายได้มากสุดก็แค่นั้น ทำไมถึงไม่ทำให้มันสุดๆ ไปเลย ทำไม! ทำไม!
“งั้นแกก็ไสหัวออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไปแต่ตัวนะ ห้ามเอาอะไรติดไม้ติดมือไปเป็นอันขาด” น้ำคำประหนึ่งสายฟ้าฟาดทำให้คนฟังเบิกตาโพลง ดูเหมือนว่าการพยายามแสดงท่าทีต่อต้านของเธอจะไร้ผลเสียแล้ว
“ได้โปรดอย่าไล่มะลิเลยค่ะ ให้มะลิอยู่ด้วยเถอะนะคะ คุณป้าก็รู้ว่ามะลิไม่มีญาติที่ไหนนอกจากคุณป้า” นางซินก้นครัวอ้อนวอนเสียงสั่นระริก หัวตาร้อนผ่าว
“ถ้าแกยังเห็นว่าฉันเป็นป้า แกก็ต้องยอมแต่งงานกับคุณวูล์ฟแทนเบลล่า แล้วย้ายไปอยู่กับเขาในฐานะเมียของเขาซะ” วาจาที่หลุดออกมาจากปากอีกฝ่ายทำให้มะลิร้อยเริ่มคิดได้ ว่ายังไงเสียเธอก็ต้องย้ายออกไปจากที่นี่ และหากต้องย้ายออกจากที่นี่จริงๆ เธอจะไม่ยอมตกอยู่ใต้อาณัติของเดือนแขอีกแล้ว
“ถ้ามะลิยอมเเต่งงานกับเขา คุณป้าจะไม่มีสิทธิ์มาบงการชีวิตของมะลิได้อีก” สาวน้อยเชิดหน้าเอ่ยเสียงเเข็งๆ ทั้งที่จะปล่อยโฮอยู่รอมร่อ แต่ถึงอย่างไรเธอก็จะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างของใครอีก และจะตั้งต้นสู้ยิบตา ต่อให้มันต้องใช้แรงใจมากเท่าไหร่ก็ตาม
“ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเเกอีกหรอกย่ะ ขอเเค่เเกเเต่งงานกับคุณวูล์ฟ เเล้วย้ายออกไปอยู่กับเขาตามที่เขาต้องการ ฉันก็พอใจเเล้ว”
“และคุณป้าจะไม่มีสิทธิ์ทวงบุญคุณจากมะลิอีกแล้ว” คนที่ทำเป็นเข้มแข็งเอ่ยคล้ายย้ำเตือนให้อีกฝ่ายจำขึ้นใจ และนั่นก็ทำให้นางเดือนแขนึกหงุดหงิดกับวาจาปีกกล้าขาแข็งจนต้องขึ้นเสียงใส่
“โอ๊ย…น้ำหน้าอย่างเเกจะมีปัญญามาชดใช้บุญคุณอะไรฉันได้ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะเเม่เด็กเมื่อวานซืน ขอบอกว่าการเเต่งงานกับวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน จะทำให้แกเหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะแกไม่ใช่คนที่เขาเลือก แกไม่ใช่คนที่คู่ควร และแกก็ไม่ใช่คนที่เขารัก” น้ำคำเยาะหยันแกมเหยียบย่ำซ้ำเติมทำให้คนฟังน้ำตาตกใน
“รู้อย่างนี้เเล้วคุณป้ายังกล้าผลักไสหนูไปให้เขาอีกเหรอคะ” เธอตัดพ้อด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ถึงแม้จะสำเหนียกดีว่าอีกฝ่ายไม่เคยรักและเอื้อเอ็นดูตนเลย แต่มะลิร้อยก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้
“ก็มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้ครอบครัวฉันรอด” นางเดือนแขลอยหน้ายักไหล่
“แล้วหนูล่ะคะ”
“ฉันไม่เคยเห็นเเกเป็นคนในครอบครัว” ผู้เป็นป้าเอ่ยอย่างไม่คิดจะรักษาน้ำใจ ส่งผลให้เธอถึงกับสะอึก ก่อนจะเค้นเสียงสั่นระริกออกมาคล้ายละเมอ
“หนูเข้าใจเเล้วค่ะ หนูเข้าใจเเล้ว”
“ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปนอนซะ” ขาดคำเจ้าบ้านก็ผุดลุกขึ้น แล้วเชิดหน้าเดินจากไปอย่างไม่แยแสว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกเช่นไรกับวาจาเชือดเฉือนบาดหัวใจที่ตนกล่าวออกมาเมื่อสักครู่นี้
ความเลวร้ายที่ประดังประเดเข้ามามันหนักหนาเกินกว่าที่เด็กสาววัยสิบเก้าจะทนรับไหว มะลิร้อยวิ่งหน้าตั้งไปยังห้องครัว แล้วทรุดกายลงนั่งบนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่น จากนั้นก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น นางซินผู้แสนอาภัพกอดเข่าร่ำไห้เสียงดังลั่น ด้วยอาดูรและหดหู่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อนาคตข้างหน้าช่างมืดมนนัก เธอไม่อยากแต่งงานกับจอมยโสเช่นวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ที่สำคัญคือเธอไม่มีที่ไป ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน ไม่มีญาติ เเละไม่มีครอบครัว เเต่ยังไงเธอก็ต้องจำใจไปจากอาณาจักรพอร์ตแมนแห่งนี้ เพราะเจ้าบ้านเขาไม่เต็มใจให้อยู่ ผู้เป็นป้าขับไล่ไสส่งให้ไปอยู่กับผู้ชายใจดำอำมหิตคนนั้น ประหนึ่งผลักไสให้เธอตกนรกทั้งเป็น
“โอ๊ะโอ๋…ดูซิว่าใครเอ่ย ที่มาแอบร้องไห้อยู่ตรงนี้” แม่บ้านคนเก่าคนแก่เอ่ยทีเล่นทีจริง เพราะในครัวแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เด็กๆ ลูกหลานของคนงานชอบมาซ่อนตัวเมื่อโดนแม่ดุหรือลงโทษ
เสียงของผู้มาใหม่ทำให้สาวน้อยผงกหัวขึ้น แล้วขยับกลีบปากเต้นระริกเรียกชื่ออีกฝ่ายทั้งน้ำตา
“ป้ารีเบคก้า”
“โอ้พระเจ้า! มะลิที่รัก ใครทำให้หนูร้องไห้กันหือ…” นางรีเบคก้ายกมือขึ้นทาบอก พร้อมหลุดอุทานออกมา จากนั้นก็รีบกระวีกระวาดเข้าไปสวมกอดคนที่เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ชู่…หยุดร้องซะเด็กดี ไหนเล่ามาซิว่าเกิดอะไรขึ้น” น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยปลอบประโลม แล้วถามไถ่อย่างอาทร
“คุณป้าบังคับให้หนูเเต่งงานเเทนพี่เบลล่า เขาบอกว่าถ้าหนูไม่ยอมแต่งงานก็จะไล่หนูออกจากบ้าน” มะลิร้อยเล่าให้อีกฝ่ายฟังปนสะอื้นฮัก
“โธ่…เด็กน้อยผู้น่าสงสารของฉัน” คนแก่รำพันออกมาอย่างนึกเวทนา
“คุณป้าทำเหมือนอยากจะผลักไสหนูไปให้พ้นๆ จากที่นี่ เเถมยังบอกอีกว่าหนูไม่ใช่คนในครอบครัว” เจ้าของเสียงเครือเจือสะอื้นยังคงพรั่งพรูทุกอย่างออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ
“เเล้วหนูได้ตอบโต้อะไรไหม” คนแก่ถามพลางคลายวงแขนอบอุ่นออกจากร่างอ้อนแอ้น
“หลายคำเลยค่ะ ก็หนูทนไม่ไหวนี่คะ คุณป้าใจร้ายกับหนูเหลือเกิน” นางซินตัวน้อยๆ ยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาป้อยๆ ขณะเอ่ยตอบเสียงสั่นๆ
“เเสดงว่านั่นเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะต่อไปนี้หนูจะสู้คน” รีเบคก้าฉีกยิ้มกว้างอย่างนึกชอบใจ
“หนูก็อยากจะทำอย่างนั้นค่ะ หนูอยากจะสู้เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่หนูอ่อนแอเหลือเกิน” กล่าวจบมะลิร้อยก็ส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง เพราะการเริ่มต่อสู้เพื่อตัวเองของเธอล้มเหลวไม่เป็นท่า
“ความเข้มแข็งมันสร้างได้ ถ้าหนูกล้าที่จะเริ่มต้นมันต้องมีวันประสบความสำเร็จแน่ เชื่อป้าสิ” นางรีเบคก้าเอ่ยกระตุ้นให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองเสียใหม่
“หนูจะพยายามลองดูสักตั้งค่ะ” เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วเอ่ยออกมาอย่างมาดมั่น
“ดีมากเด็กน้อย”
“แต่ป้าคะ หนูไม่อยากเเต่งงาน และไม่อยากย้ายออกไปจากที่นี่เลย” สาวน้อยวกกลับเข้าสู่เรื่องที่ทำให้เธอคิดหนัก สีหน้ามัวหม่นระคนเศร้าสลด มะลิร้อยผูกพันกับบ้านพอร์ตแมนมาก เพราะเธออยู่ที่นี่มาตั้งแต่เล็กจนโต
“ไม่เอาน่าเด็กดี อย่าคิดมากไปสิ บางทีการไปจากที่นี่อาจจะทำให้หนูสุขสบายก็ได้นะ” แม่บ้านสาวใหญ่เอ่ยปลอบโยนเสียงนุ่มละมุน เพื่อใหอีกฝ่ายคลายกังวล
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ในเมื่อว่าที่เจ้าบ่าวตั้งเเง่รังเกียจหนูขนาดนั้น” เธอเอ่ยอย่างหงอยๆ แววตาไร้ความสุขและขาดความเชื่อมั่นในตัวเองขั้นรุนแรง
“งั้นก็ทำให้เขารักสิจ๊ะ มะลิของป้าน่ารักจะตาย ใครอยู่ใกล้ก็ต้องหลงรัก” คนแก่เอ่ยอย่างให้กำลังใจ จากนั้นก็หาอะไรง่ายๆ ให้อีกฝ่ายทาน ตบท้ายด้วยการเดินไปส่งว่าที่เจ้าสาวเข้านอน
คืนนี้วูล์ฟนอนไม่หลับกระสับกระส่าย เพราะเอาแต่คิดถึงเสียงครางสะท้านทรวงของมะลิร้อย กายหนุ่มร้อนรุ่มทุรนทุรายอย่างน่าโมโห
“อ๊า! อ๊า! คุณวูล์ฟ…อูยส์”
เสียงครางหวานเจือหอบกระเส่าของมะลิร้อยยังคงดังก้องอยู่ในหู จนเขามิอาจข่มตาหลับ พลิกกายไปมาอยู่หลายตลบ ก่อนจะทะลึ่งพรวดขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาล ปลายนิ้วกระด้างกดสวิตช์โคมไฟอย่างกระแทกกระทั้น แล้วก้มลงมองที่เป้ากางเกงนอนของตัวเองด้วยความหงุดหงิด
“นรก! ยัยเด็กสกปรกนั่นกำลังทำให้ฉันเป็นบ้า!” วูล์ฟหลุดสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้บริเวณหัวเตียง
“ไอ้บิลลี่ โทรตามเซเรน่ามาหาฉันด่วน” ทันทีที่อีกฝ่ายรับสายพ่อคนเจ้าอารมณ์ก็กรอกเสียงกระด้างเจือดุดันลงไปอย่างใจร้อนยิ่งกว่าไฟ
หลังจากสั่งการคนสนิทเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าของร่างทรงพลังซึ่งอัดแน่นไปด้วยความเครียดเกร็งก็ตรงไปยังห้องน้ำ เพื่อใช้ความเย็นบรรเทาอาการร้อนรุ่มที่กำลังปะทุอยู่ภายในกายหนุ่ม แต่จอมหยิ่งทระนงจะไม่ยอม ‘ช่วยตัวเอง’ เป็นอันขาด เพราะคนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน มีผู้หญิงมากมายพร้อมที่จะคลานขึ้นเตียงมาพลีกายให้เขาคลายจากอารมณ์ดำฤษณา โดยไม่ต้องใช้สองมือของตัวเองให้เสียเวลา
ไม่นานเสียงหวานปนเซ็กซี่ของสตรีที่ได้ฉายาเซ็กส์ซิมโบลคนล่าสุดของออสเตรเลียก็ดังขึ้น พร้อมกับการเปิดประตูห้องนอนให้อ้าออก
“วูล์ฟขา…”
จากนั้นแม่สาวทรงโตก็เดินนวยนาดอย่างมีจริตจะก้านเข้ามาหาเขา แววตาหยาดเยิ้มแกมเชิญชวนในทีทำให้พ่อหนุ่มคลั่งรักร้อนรุ่มไปทั้งสรรพางค์กาย
“ทำให้มันสงบที” จอมเย่อหยิ่งออกคำสั่ง พลางบุ้ยปากไปยังสิ่งที่อยู่ภายใต้เป้ากางเกง
“ได้เลยค่ะที่รัก” ขาดคำเซเรน่าก็ไม่รอช้าที่จะทำให้อภิมหาเศรษฐีหนุ่มพึงพอใจ มือเรียวจัดการถอดกางเกงนอนของเขาออกอย่างคล่องแคล่ว แล้วคว้าหมับเข้าที่ความอลังการ ขณะแลบลิ้นเลียรอบริมฝีปากสีแดงสดคล้ายกระหายอยาก ความช่ำชองของหล่อนทำให้วูล์ฟร้อนเป็นไฟได้ไม่ยาก
“อา…มะลิร้อย” เสียงห้าวคำรามลั่นเป็นชื่อของคนที่ติดหนึบอยู่ในห้วงคำนึง และวาจาที่หลุดออกมาจากปากหยักก็ทำให้แม่สาวผู้เจนจัดซึ่งกำลังปรนนิบัติเขาด้วยปากและลิ้นถึงกับชะงัก ความหึงหวงทำให้เซเรน่าหยุดทุกอย่างลง แล้วผงกหัวขึ้นมาถามไถ่เสียงแข็งๆ อย่างปิดอารมณ์ไม่มิด
“มะลิร้อยคือใครคะ”
“ช่างมันเถอะน่า อย่าถามมาก ทำหน้าที่ของคุณต่อไป” ครั้นเห็นความไม่พอใจฉายออกมาทางแววตาดุกร้าวหญิงสาวก็หยุดซักไซ้ แล้วก้มหน้าก้มตามอบความสุขให้อีกฝ่ายจนเขาครางระงม โดยที่หล่อนเองก็ไม่รู้ว่าคนที่วูล์ฟมโนภาพว่าทำอะไรกับร่างกายตนนั้นคือผู้หญิงอีกคน
เมื่อเห็นว่าเขาพร้อมสู้ศึกเต็มอัตรา เซเรน่าก็ละมือและปากจากความกร้าวแกร่ง แล้วลุกขึ้นปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนออกอย่างเชื่องช้าบาดอารมณ์ ค่อยๆ คลานขึ้นเตียงด้วยมาดนางเสือยั่วสวาทเข้าไปหาอีกฝ่าย ก่อนจะไปนั่งคร่อมร่างทรงพลัง แล้วก้มลงหมายจะจูบดูดดื่มเร้าอารมณ์ ทว่าวูล์ฟกลับสะบัดหน้าหนีคล้ายรังเกียจเสียเต็มประดา นั่นก็เพราะว่าพอจะประกบจูบกับสาวเจ้า เขากลับกระหวัดคิดไปถึงมะลิร้อยเสียอย่างนั้น
“บ้าเอ๊ย!”
“วูล์ฟคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายตรงไหนบอกเซเรน่าได้นะคะ” แม่สาวหุ่นดินระเบิดสะกดกลั้นความไม่พอใจที่คับแน่นอยู่ในอก แล้วเอ่ยถามเสียงหวานคล้ายเป็นห่วงอีกฝ่ายนักหนา ทั้งที่อยากจะกรีดร้องให้ลั่นที่เขาหักดิบอารมณ์พิศวาสลงกลางคัน ทำเอาหล่อนค้างเติ่งกลางอากาศชนิดหาทางลงไม่เจอ
“ผมสบายดี”
“งั้นเรามาต่อกันเถอะค่ะ เซเรน่าอยากจะเป็นแม่เสือสาวเต็มทีแล้ว” หล่อนเอ่ยอย่างกระตือรือร้น แล้วเริ่มต้นปลุกเร้าเรือนกายสมบูรณ์แบบด้วยการลูบไล้ แต่กลับโดนเขาปัดมือออก
“โทษทีเซเรน่า ผมไม่มีอารมณ์” วูล์ฟเอ่ยเสียงกระด้าง แววตาเย็นชา
“เดี๋ยวเซเรน่าจะทำให้คุณมีอารมณ์เองค่ะ” แม่สาวสวยยังคงพยายามที่จะสานต่อให้เสร็จสม
“ไม่มีประโยชน์หรอกเซเรน่า ย้ายก้นของคุณออกไปจากตัวผมซะ” เขาออกคำสั่งเสียงเข้มจัด ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเช็กมาเซ็น แล้วยื่นให้อีกฝ่าย “นี่ค่าเสียเวลาของคุณ”
เมื่อเหลือบเห็นจำนวนตัวเลขที่อภิมหาเศรษฐีหนุ่มกรอกลงไปในเช็ก สาวเจ้าก็ทำตาวาว หลงลืมความไม่พอใจไปเสียสิ้น หล่อนฉีกยิ้มหวานหยด ก่อนจะบรรจงจูบแก้มสากอย่างขอบคุณ แล้วกล่าวอำลา
“ราตรีสวัสดิ์นะคะที่รัก”
วูล์ฟไม่ได้เอ่ยตอบโต้อะไร แต่รีบก้าวลงจากเตียงมุ่งตรงไปยังห้องน้ำ หมายจะชำระร่างกายให้ผ่อนคลายและเลิกฟุ้งซ่าน ก่อนจะเข้านอน แต่เจ้าน้องชายตัวดีที่ยังไม่สงบกลับกระตุ้นให้เขามิอาจนิ่งเฉยได้
“เฮ้…พวก แกจะเอายังไงกับฉันกันแน่วะ หาสาวมาให้ก็ไม่ต้องการ แต่ดันไปคิดถึงและโหยหายัยเด็กบ้าแสนสกปรกนั่น” นัยน์ตาคมกริบก้มลงมองอวัยวะที่สมองไม่อาจควบคุมได้ ซึ่งกำลังคึกแข็งเพราะต้องการปลดปล่อย พร้อมบ่นอุบด้วยความคับข้องใจ และทันทีที่เผลอนึกไปถึงมะลิร้อยอีกครามันก็เหมือนจะคลั่งเสียให้ได้
“ระยำ! แกจะให้ฉันทำบ้าๆ ให้ได้ใช่ไหม” เสียงห้าวกระด้างสบถออกมาอย่างหัวเสีย
ที่สุดวูล์ฟก็จำต้องปลดเปลื้องอารมณ์ด้วยสองมือของตัวเอง มันช่างเป็นอะไรที่บัดซบสิ้นดี เพราะนี่เป็นเรื่องน่าละอายมากที่สุดในชีวิตเขา…แต่ยัยเด็กแสนโสโครกนั่นก็ทำให้เขาจำต้องแหกกฎของตัวเองอย่างน่าโมโหถึงสองครั้งสองคราในวันเดียวกัน
“มะลิร้อย! แม่ตัวดี! พรุ่งนี้เธอต้องชดใช้อย่างสาสม!” วูล์ฟเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่านให้คนที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้