บท
ตั้งค่า

กำลังใจอยู่ตรงนี้(2)

ตอนนี้เวลาเที่ยงตรงแล้ว แต่เธอและเขายังไม่ได้กินข้าวกันตั้งเเต่เช้า น้ำหนึ่งมองเจ้านายหนุ่มที่นอนอยู่บนโซฟา เเขนเเกร่งยกก่ายหน้าผาก แววตาว่างเปล่าจ้องมองขึ้นไปบนเพดานสูงอย่าเหม่อลอย

หญิงสาวจึงตัดสินใจเดินลงมาข้างล่างก่อนจะซื้ออาหารกลับขึ้นไปด้านบน เธอจัดการนำข้าวมันไก่ใส่จานก่อนจะเทน้ำส้มใส่แก้ว และนำมาวางที่โต๊ะ

“เธอกินเถอะ ฉันกินไม่ลงหรอก”

น้ำหนึ่งนำจานข้าวตัวเองมาวางลงข้างจานข้าวของเจ้านาย ก่อนที่เธอนั้นจะนั่งลงตรงข้ามเขาปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปเรื่อยๆ โดยที่เธอนั้นไม่แตะอาหารในจานแม้แต่นิดเดียว

พีรวัศเห็นว่าเลขาสาวคงจะไม่ยอมกินข้าวหากเขาไม่ทานด้วย จึงตัดสินใจตักข้าวเข้าปากหนึ่งคำ หญิงสาวเห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มขึ้นมา ก่อนที่เธอจะเริ่มลงมือกินอาหารพร้อมๆกับเจ้านายหนุ่ม

“ว่าแต่เมื่อกี้ใครโทรมา”

น้ำหนึ่งมีท่าทางเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินคำถาม โดยปกติแล้วเธอนั้นไม่ใช่คนชอบโกหกใคร พอถึงเวลาที่จะต้องพูดปดจึงรู้สึกวุ่นวายใจกลัวเป็นอย่างมาก

“เอ่อ.....น่าจะโทรผิดนะคะ”

ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม เขาทำงานกับเธอมา 5 ปีมีหรือจะดูไม่ออกว่าหญิงสาวนั้นกำลังพูดความเท็จ แต่พีรวัศเข้าใจว่าที่เธอทำไปก็คงเพราะไม่อยากให้เขานั้นเป็นกังวล ชายหนุ่มจึงไม่ได้คาดคั้นอะไร

“ทางผู้ถือหุ้นว่ายังไงบ้าง”

ช่วงนี้พีรวัศแทบไม่ได้คุยกับใคร หลังจากที่เกิดเรื่องเขาก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน พยายามหาวิธีสะสางปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เพราะเขานั้นไม่เคยเจอปัญหาที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน จึงต้องใช้เวลาเพื่อแก้ไข

แต่ดูเหมือนว่าผู้เสียหายนั้นจะไม่ยินยอมให้ขยายระยะเวลา ชายหนุ่มจึงได้แต่นั่งเครียดเพราะถูกกดดันทุกทิศทุกทาง ไม่เว้นแม้แต่จากแม่ของเขาเอง เวลานี้ คนที่ดูจะพึ่งพิงได้มากที่สุดก็คงจะเป็นเลขาสาว อย่างน้อยเวลารู้กับเธอ เขาก็ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกกดดัน

“พรุ่งนี้ช่วงบ่ายจะมีการประชุมค่ะ เพื่อหารือเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหา คุณพีจะเข้าประชุมด้วยไหมคะ”

ชายหนุ่มพยักหน้า เขาเป็นประธานบริษัทจะให้หนีปัญหาตลอดไปคงไม่ได้ เขาควรจะแสดงสปิริตการเป็นผู้นำองค์กรที่ดี ไม่ใช้มัวแต่มานั่งเครียด

“เดี๋ยวผมจะส่งอีเมลไปให้ คุณเตรียมแผนงานการประชุมให้ผมด้วย”

ในวันพรุ่งนี้เขาต้องเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นไปก่อน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ถือหุ้น

“ได้ค่ะ”

หญิงสาวเอ่ยก่อนที่เธอนั้นจะนำจานไปวางด้านนอก รอเเม่บ้านมาเก็บ

ในวันประชุมพีรวัศถูกกดดันจากผู้ถือหุ้น ทุกคนเห็นว่าเขานั้นไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงพยายามที่จะโหวตเพื่อถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งประธานบริษัท

“ผมไม่ได้อยากจะปรามาสคุณนะ แต่ผมมองดูแล้วคนอายุน้อยๆอย่างคุณน่ะจะมาแบกรับบริษัทใหญ่แบบนี้ได้ยังไง คุณทำไม่ได้หรอก”

ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น เขาไม่เคยเห็นด้วยที่พีรวัศมานั่งเก้าอี้ประธานบริษัท หลายปีก่อนเขาเคยเสนอลูกชายให้เข้ามารับตำแหน่งนี้แต่กลับไม่มีใครเห็นค่า ทุกคนต่างก็เทคะแนนเสียงให้กับพีรวัศ

“อายุน้อยหรือมากไม่สำคัญหรอกนะคุณวันชัย ปัญหาเพิ่งเกิดขึ้น จะให้แก้ไขภายในวันสองวันคงเป็นไปไม่ได้”

หนึ่งในนั้นพยายามโต้แย้ง เพราะไม่เห็นด้วยที่อีกฝ่ายหยิบยกเรื่องอายุขึ้นมาเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการตัดชายหนุ่มให้พ้นจากตำแหน่ง เขามองว่าเรื่องนี้ไม่ยากเกินความสามารถพีรวัศ ฉะนั้นแล้วจึงอยากที่จะให้โอกาสชายหนุ่มได้หาวิธีแก้ไขปัญหาเสียก่อน ได้ไม่ได้อย่างไรค่อยมาพูดคุยกันอีกที

“ผมไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมคุณถึงเข้าข้างเขา เพราะเขามีบุญคุณกับครอบครัวคุณ”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบุญคุณหรอกนะ แต่ผมเป็นผู้ใหญ่ที่ใจกว้าง ไม่ได้ตัดสินความสามารถใครเพียงเพราะเขาอายุน้อยกว่า”

ทั้งสองโต้เถียงกันอย่างดุเดือด พีรวัศเห็นว่าบรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดี จึงได้เอ่ยแทรกขึ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel