ข้อตกลง(1)

ตอนที่ 3

ข้อตกลง

ไกรวีคิดทบทวนอยู่นานหลายวันก่อนที่เขาจะตอบตกลง สัญญาระหว่างพ่อลูกได้ถูกร่างขึ้นก่อนที่ทั้งสองจะเซ็นชื่อลงไป เจ้าสัวกิตติศักดิ์ไม่ได้รู้สึกกังวล ต่างกับลูกชายที่มีสีหน้าเคร่งเครียด แม้การแต่งงานปลอมๆในครั้งนี้จะทำให้เขาได้รับอิสระหลายๆอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ห่วงความรู้สึกของวันวิสา

“พ่อรับปากผมแล้ว อย่าผิดคำพูดนะครับ”

ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเตือนอีกฝ่าย หากผู้เป็นพ่อตุกติกไม่ยอมทำตามสิ่งที่สัญญาไว้ เขาก็จะไม่ยอมเช่นกัน

ชายวัยกลางคนพยักหน้า สายตานั้นทอดมองลูกชายเพียงคนเดียว เขามั่นใจว่าภายในหนึ่งปี ไกรวีจะมีความคิดเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

“ว่าแต่งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง”

คนเป็นพ่อเห็นว่าถ้าเอาแต่พูดเรื่องแต่งงาน จะทำให้ลูกชายเครียดจนหน้าทะมึนขึงเครียด ผู้เป็นพ่อจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน แต่ทว่ากลับกลายเป็นชายหนุ่มนั้นเคร่งเครียดหนักไปกว่าเดิม

ช่วงนี้ที่บริษัทของเขาบรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด แม้จะไม่มีกฏเกณฑ์เคร่งครัด แต่ถึงอย่างนั้นการที่ผู้บริหารมีผู้หญิงมาเดินตาม คอยแทรกแซงงานก็ทำให้หุ้นส่วนและพนักงานระดับสูงหลายคนไม่พอใจนัก

ไกรวีไม่รู้จะทำอย่างไร เขาสามารถจัดการทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ยกเว้นเรื่องของวันวิสา เพียงแค่เธอหน้าหม่นลงเขาก็ใจอ่อนไม่กล้าไล่เธอกลับ จำต้องทนสายตาคนทั้งบริษัทในขณะที่หญิงสาวควงแขนซบไหล่ไม่อายใครจนตอนนี้เขาแทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวในการทำงาน

“ก็ราบรื่นดีครับ”

เจ้าสัวกิตติศักดิ์พยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร หากลูกชายไม่ต้องการเอ่ยความจริง เขาก็ไม่คิดจะคาดคั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตักเตือนเพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นแบบไหน

“การผู้บริหารที่ดีต้องแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันให้ได้ และหากผู้หญิงที่อยู่ข้างกายสร้างปัญหาก็ควรตัดทิ้งไป อย่าได้เสียดาย”

สำหรับเจ้าสัวกิตติศักดิ์หลังเลิกรากับแม่ของไกรวี เขาก็คบหาผู้หญิงหลายคน แต่พวกเธอเหล่านั้นมักสร้างความวุ่นวายใจ ไม่หึงหวงก็ระราน รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว

เจ้าสัววัยกลางคนที่ผ่านผู้หญิงมาทุกประเภทมีหรือจะดูไม่ออกว่าวันวิสาเป็นคนแบบไหน เขามองทะลุปรุโปร่งไปถึงนิสัยใจคออีกฝ่าย

“เรื่องนั้นผมกำลังพยายามอยู่”

มักยากมากสำหรับไกรวี เขาแคร์ความรู้สึกของแฟนสาวมากกว่าอะไร ฉะนั้นแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้รับการแก้ไขเสียที เหล่าหุ้นส่วนหลายคนเริ่ม ติเตียนเรื่องความเหมาะสม เพราะวันวิสาเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจและเปิดเผย จึงเผลอทำอะไรไม่เหมาะไม่ควรไปบ้างแต่ชายหนุ่มมองว่าการกระทำของเธอนั้นดูน่ารักในสายตาของเขาต่างจากคนอื่นที่มองว่ามันน่ารังเกียจ

“ลูกโตแล้วก็ทำอะไรก็คิดเยอะๆ อย่าให้ ความลุ่มหลงมันบังตามากเกินไปจนทำให้เราต้องเสียตัวตนที่ควรจะเป็น”

ผู้เป็นพ่อเอ่ยด้วยความหวังดี เขายังหวังว่า สักวันลูกชายจะตาสว่าง มองเห็นดอกบัวเป็นกงจักรเสียที