บท
ตั้งค่า

บทที่6 เห็นแก่ตัว

"ทำไมแบงค์มองส้มแบบนั้น" ในที่สุดส้มก็ทนอยู่ในสถานการณ์อันน่าอึดอัดไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อเพื่อนชายเอาแต่นั่งมองหน้าเธอเป็นสิบ ๆ นาทีแล้ว

รวบรวมความกล้าข่มความตื่นเต้นเอาไว้เปล่งเสียงถามไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ มือที่ประสานกันบนหน้าตักบีบเข้าหากันแน่น

"แม่ส้มโทรมาถามแบงค์ว่ารู้จักแฟนส้มไหม ท่านบอกว่าส้มท้อง สรุปส้มท้องจริง ๆ ใช่ไหม" แบงค์หลับตาพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนปรือขึ้นถามเพื่อนสาวที่นั่งตรงหน้าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าในใจกลับลุ้นระทึกกับคำตอบเป็นอย่างมาก แอบภาวนาขอให้ทั้งหมดเป็นเรื่องไม่จริง

บอกตามตรงว่าวินาทีที่ได้ยินแม่ของส้มบอกว่าเธอท้องหัวใจของเขามันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไร

ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาส้มไม่เคยมีแฟนสักคน ไม่เคยข้องแวะ หรือยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนในเชิงชู้สาว หรือกระทั่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครนอกจากเขาที่มาจากความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น

แล้วแบบนี้ลูกในท้องเธอจะเป็นลูกใครไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่ลูกเขา

"ใช่ส้มท้องจริง ๆ"

ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายพลันกระตุกวูบกับคำยืนยันจากปากเพื่อนสาว 'อ่า..ให้ตายเถอะ' ได้แค่สบถในใจซ้ำ ๆ จ้องมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความรู้สึกหลากหลาย

เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับตัวเอง ตอนนี้มันสับสนงุนงงไปหมดไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไง แต่ที่แน่ ๆ คือเขาไม่ได้ยินดีหรือดีใจกับการมีลูกกะทันหัน

หนำซ้ำยังมาจากความผิดพลาดและผู้หญิงที่ไม่ได้รัก ยิ่งไปกว่านั้นคือแม่ของลูกดันเป็นเพื่อนสนิทอีก

เขาคงเป็นคนที่ซวยเอามาก ๆ เพราะพลาดมีอะไรกับเพื่อนสาวแค่ครั้งเดียวแต่ดันท้องเสียงั้น ขณะที่มีคู่สามีภรรยาตั้งมากมายพยายามทำทุกวิถีทางเพราะอยากมีลูกแต่กลับไม่มี

เขาส่ายหน้าไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อเปล่งเสียงถามอีกครั้งด้วยคำถามที่เขาเองก็รู้อยู่แกใจดีเพียงเพราะไม่อยากยอมรับ "ท้องได้ยังไงกัน ท้องกับใคร"

"ส้มพลาดมีอะไรกับแบงค์แค่คนเดียว แล้วคิดว่าส้มท้องกับใครล่ะ" ส้มส่ายหน้าเบา ๆ มองหน้าเพื่อนชายด้วยความผิดหวังนิด ๆ ไม่คิดว่าเพื่อนชายจะกล้าถามคำถามแบบนี้ออกมาราวกับว่าเขาไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาเธอเป็นยังไง และมีนิสัยยังไง หรือที่ถามแบบนี้เพียงเพราะไม่ต้องการรับผิดชอบลูกในท้องของเธอกันแน่ก็ไม่รู้

"แบงค์จะเอายังไงกับเรื่องนี้ว่ามาเลย" แม้จะรู้สึกกลัวกับคำตอบแต่เธอก็เลือกถามออกไปตรง ๆ จะได้รู้เรื่องกันไปเลยไม่ต้องมานั่งคิดเองเออเอง

"แบงค์จะรับผิดชอบลูกในท้องส้ม หากส้มไม่อยากเลี้ยงเขาคลอดเมื่อไรแบงค์จะรับมาเลี้ยงเอง แต่ถ้าส้มอยากจะเลี้ยงเองก็ได้ แบงค์จะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด และในระหว่างที่ส้มท้องแบงค์จะคอยดูแลจนกว่าจะคลอด" แบงค์นิ่งเงียบใช้ความคิดสักครู่ใหญ่ก่อนตอบ เขารู้ว่าที่ตัวเองพูดไปมันเห็นแก่ตัวสักหน่อย แต่จะให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักเขาทำไม่ได้แค่เรื่องลูกมันก็มากพอแล้ว

คำพูดของเพื่อนชายทำเอาส้มจุกในอกไม่น้อยเพราะเขาแสดงเจตนารมณ์ออกมาอย่างชัดเจนว่าต้องการรับผิดชอบแค่ลูก ไม่มีชื่อของเธอร่วมอยู่ในประโยคสักคำ

เธอควรจะดีใจที่อย่างน้อยเขาก็ยอมรับลูกในท้องพยายามตีหน้าเรียบนิ่งเก็บความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ย้อนถามให้แน่ใจว่าเธอเข้าใจถูก "หมายความว่าเราจะเกี่ยวข้องกันแค่ในฐานะพ่อแม่ของลูกใช่ไหม"

"ใช่"

"แล้วส้มจะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ยังไง หากท่านรู้คงไม่ยอมแน่ ๆ เกรงว่ามันจะไม่จบแค่ที่แบงค์ยอมรับน่ะสิ" เธอเอ่ยออกมาอย่างอ่อนใจ ลำพังแค่เธอคนเดียวไม่เป็นไรหรอกเพื่อนชายว่ายังไงเธอก็ว่าอย่างงั้น

เอาที่สบายใจกันเพราะเธอไม่อยากฝืนใจ หรือบังคับคนไม่มีใจให้มาอยู่กับตัวเอง มันคงจะไม่มีความสุขกันทั้งสองฝ่ายดีไม่ดีอาจทำให้เสียมิตรภาพดี ๆ ไปก็ได้

หากพ่อแม่เธอรู้ว่าแบงค์คือพ่อของลูกในท้องเธอท่านต้องมัดมือชกให้เขารับผิดชอบโดยการแต่งงานกับเธอแน่ ๆ เพราะพวกท่านชอบเพื่อนชายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เพื่อนชายเป็นถึงหมอ หนำซ้ำยังพ่วงด้วยตำแหน่งผู้บริหารบริษัทผู้จำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ และทางครอบครัวของเขายังทำธุรกิจอีกหลายอย่างเป็นตระกูลผู้ดีเก่าเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม

พวกท่านยังเคยสนับสนุนให้เธอลองหยอดเพื่อนชายดูเผื่อว่าจะได้เป็นมากกว่าเพื่อนสนิท แต่เธอก็ไม่ทำทั้งที่แอบรักเขาเพราะรู้ดีแก่ใจว่าเขารักใคร

"อย่าเพิ่งบอกพ่อกับแม่ของส้มว่าแบงค์คือพ่อของลูกในท้อง แบงค์ขอเวลากลับไปคุยกับพ่อแม่ให้เข้าใจก่อน" แบงค์เองก็เริ่มคิดหนักเหมือนกันเมื่อนึกถึงพ่อแม่ของตัวเองเพราะพวกท่านเองดูเหมือนจะชอบ และเอ็นดูเพื่อนสาวไม่น้อยถึงขั้นเคยเอ่ยปากบอกให้เขาจีบมาเป็นแฟน

เพื่อนสาวเพรียบพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นฐานะ การศึกษา หน้าตา นิสัยและชาติตระกูล ที่สำคัญคือเธอเป็นทายาทของบริษัทผลิตยาชั้นนำหากได้เกี่ยวดองกันเชื่อว่าจะเป็นการดีมาก ๆ

ดังนั้นเขาคงต้องกลับไปคุยกับพ่อแม่ให้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อไม่ให้พวกท่านมัดมือชกให้เขาแต่งงานกับเพื่อนสาว

"แต่พ่อกับแม่ให้เวลาส้มแค่สามวันนะ" ส้มก็อยากจะยืดเวลาให้เพื่อนชายอยู่หรอกแต่ติดที่พ่อแม่เธอขีดเส้นตายมาแล้ว แถมตอนนี้ผู้เป็นแม่ยังพยายามสืบอีกว่าพ่อขอลูกในท้องเธอคือใคร

"ช่วยยื้อเวลาให้แบงค์หน่อยนะ แบงค์ขอร้อง"

"ส้มจะพยายาม แต่ไม่รู้ว่าจะยื้อได้นานไหม" ทว่าสุดท้ายเธอก็ไม่อาจต้านทานสายตาเว้าวอน และน้ำเสียงนุ่ม ๆ ของเพื่อนชายได้ยอมตกปากรับคำง่าย ๆ แม้ตัวเองจะต้องลำบากก็ตามเพราะเข้าใจถึงความรู้สึกเขาดี

หากเพื่อนชายนึกถึงจิตใจเธอเหมือนที่เธอนึกถึงจิตใจเขาบ้างก็คงดี ทว่าก็คงจะไม่แปลกในเมื่อเขาไม่ได้รักเธอแล้วจะมานึกถึงจิตใจเธอได้ยังไงกัน

"อืม.." แบงค์เพียงพยักหน้าไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ และไม่คิดนึกถึงจิตใจเพื่อนสาวด้วยว่าจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ ไม่แม้แต่จะคิดถามไถ่ว่าเธอได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

ตอนนี้สมองและจิตใจของเขาคิดเพียงว่าจะหาเหตุผลอะไร หรือพูดยังไงให้พ่อแม่เข้าใจโดยที่ไม่ต้องโดนบังคับแต่งงานเพราะเขาจะไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก

และจะไม่มีวันให้เด็กเพียงหนึ่งคนที่เกิดมาจากความไม่ตั้งใจมาผูกมัดเขากับเพื่อนสาวไว้เด็ดขาด

จะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ไม่เถียงเพราะตอนนี้เขานึกถึงแต่ตัวเองจริง ๆ

ภายในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบอีกครั้งต่างคนต่างนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ผ่านไปเนินนานหลายนาทีแบงค์จึงเอ่ยขึ้น "งั้นแบงค์ขอตัวกลับก่อนนะ รู้สึกปวดหัว"

เขาอ้างว่าปวดหัวทั้งที่ความจริงไม่ใช่สักนิดแค่ต้องการปลีกตัวออกจากเพื่อนสาว ยอมรับตรง ๆ ว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้เขารู้สึกไม่สนิทใจกับเพื่อนสาวเหมือนเก่าจริง ๆ มันเหมือนเกิดกำแพงบางอย่างขึ้น

"อืม..ขับรถดี ๆ หากปวดหัวมากก็อย่าลืมหายาทานด้วยล่ะ" ส้มพยักหน้ารับพลางบอกกล่าวต่อให้สัมผัสได้ว่าเพื่อนชายไม่เหมือนเดิม และไม่คิดใยดีแต่เธอก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้อยู่ดี

ก็คนมันรักไปหมดใจแล้วจะให้ทำยังไง เจ็บก็ต้องกลำกลืนฝืนทน

"อึก.." หลังจากเพื่อนชายหายหลังไปน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ค่อย ๆ รินไหลออกจากตาคู่สวยหยดเผาะลงบนพวงแก้มนวลด้วยความรู้สึกมากมายที่จุกอยู่ในอกเพียงคิดว่าต่อจากนี้ไปทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม

มิตรภาพอันดีระหว่างเธอกับเพื่อนชายส่อแววว่าจะพังทลายลงแล้วเพราะท่าทีของเพื่อนชายที่แสดงออกมามันดูนิ่งจนน่าใจหาย การมีลูกกับเธอมันคงเป็นเรื่องที่แย่มากสำหรับเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel