บท
ตั้งค่า

บทที่4 พ่อของลูก?

"ส้มรู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะพี่เบส ไม่ต้องให้หมอมาตรวจหรอก" ส้มบอกกล่าวกับผู้เป็นพี่ชายที่นั่งอยู่ริมเตียงข้าง ๆ เธอพลางหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงหลังจากได้นอนพัก และได้ยาดมมาดมจนรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว

"ตรวจดูนั่นแหละดีแล้วจะได้รู้ว่าเป็นอะไร หากป่วยจะได้รักษาทัน" ไม่ทันที่เบสจะได้ตอบอะไรอัปสรที่ยืนอยู่ริมเตียงอีกฝั่งกับสามีก็เอ่ยแทรกขึ้น สายตาจ้องมองหน้าบุตรสาวด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดาได้

"พี่ก็เห็นด้วยกับแม่นะ เกิดเป็นขึ้นมาอีกจะทำยังไง" ข้อนี้เบสเห็นด้วยกับผู้เป็นแม่ถึงแม้น้องสาวจะบอกว่าดีขึ้นแล้วแต่เขาก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ให้หมอตรวจดูจะได้รู้ชัดเจนไปเลยว่าเป็นอะไร

"ก็ได้ค่ะ" ส้มพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายไม่คิดเอะใจสักนิดถึงความผิดปกติในร่างกาย คิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองชอบนอนดึก และไม่ค่อยทานข้าวจึงเกิดอาการแบบนี้ เพื่อความสบายใจของทุกคนตรวจดูหน่อยก็ไม่เสียหาย

ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีหมอประจำตระกูลก็เดินทางมาถึง

"ช่วยตรวจดูลูกสาวฉันให้หน่อยค่ะว่าเป็นอะไร เมื่อกี้พอได้กลิ่นอาหารก็เหม็นจนต้องวิ่งไปอาเจียน ช่วยตรวจดูหน่อยค่ะว่าเป็นอะไร" ทันทีที่หมอหญิงวัยสามสิบแปดปีเดินเข้ามาถึงในห้องอัปสรก็บอกกล่าว มองสบสายตาหมออย่างสื่อความหมาย ซึ่งแน่นอนว่าหมอพอจะเข้าใจว่าอัปสรต้องการสื่ออะไรเพียงฟังอาการคร่าว ๆ เธอก็พอเดาได้บ้างแล้ว

"ได้ค่ะ" เธอพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แล้วเดินไปยืนริมเตียงข้าง ๆ หญิงสาว เริ่มทำการถามไถ่อาการเบื้องต้น "อาการเกิดขึ้นมานานหรือยังคะ"

"เพิ่งสองสามวันนี้เองค่ะ" ส้มตอบไปตามความจริง

"นอกจากอาการเหม็นอาหาร และอาเจียนแล้วมีอาการอื่นร่วมด้วยอีกไหมคะ เช่นวิงเวียนศีรษะ เหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย"

"มีแค่ปัสสาวะบ่อยค่ะ แล้วก็วิงเวียนศีรษะเป็นบางครั้งค่ะ"

"แล้วประจำเดือนมาปกติไหมคะ"

"ก็ปกตินะคะ แต่เดือนนี้ยังไม่มาเลยน่าจะมาก่อนสิ้นเดือนเพราะชอบมาแบบนั้นตลอด" เธอยังคงตอบคำถามหมอตามปกติเรื่องประจำเดือนก็ไม่คิดเอะใจสักนิดเพราะประจำเดือนเธอมักมาปลาย ๆ เดือน

ซึ่งนี่ก็ยังเหลือเวาอีกตั้งสี่ห้าวัน ทว่าอีกใจก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีว่าทำไมหมอถึงถามเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับอาการที่เธอเป็นอยู่ยังไงกัน "หมอถามทำไมเหรอคะ"

"จากอาการเบื้องต้นที่บอกมาหมอคิดว่า คุณหนูส้มน่าจะตั้งครรภ์ค่ะ ถ้าให้มั่นใจต้องซื้อที่ตรวจครรภ์มาทำการตรวจ หรือไม่ก็ตรวจเลือดค่ะ"

"วะ..ว่ายังไงนะคะ" ราวกับฟ้าผ่าลงกลางศีรษะของส้มกับคำบอกกล่าวจากปากหมอ ใบหน้าเรียวสั่นส่ายไปมาเบา ๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน พยายามเค้นเสียงสั่นระริกถามย้ำอีกครั้งให้แน่ใจ มันจะเป็นไปได้ยังไงกันในเมื่อเธอมีอะไรกับเพื่อนชายอย่างแบงค์แค่ครั้งเดียว

แล้วเธอก็ซื้อยาคุมกำเนิดทานแล้วด้วยถึงแม้จะทานช้าไปหน่อยก็ตาม

ไม่ใช่แค่ส้มที่ช็อกทั้งพ่อแม่ และพี่ชายก็พากันช็อกไม่ต่างกัน ทุกสายตาจับจ้องใบหน้าเรียวด้วยความสงสัยระคนตกใจ

"หมอคิดว่าคุณหนูส้มน่าจะท้องค่ะ" หมอวัยกลางคนย้ำเสียงดังฟังชัด "อาการที่คุณหนูส้มเป็นคืออาการของคนแพ้ท้องค่ะ"

"ท้องงั้นเหรอ" อภิสิทธิ์ถึงกับกัดกรามกรอดจ้องหน้าบุตรสาวด้วยแววตาวาวโรจน์บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้เขาโกรธบุตรสาวมากแค่ไหน แต่กระนั้นก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้เพราะอยู่ต่อหน้าหมอ

กำหมัดแน่นหลับตาพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ ระบายความคุกรุ่นในกาย ก่อนปรือตาขึ้นเอ่ยกับหมอประจำตระกูลอย่างใจเย็นที่สุด "เรื่องวันนี้หมอช่วยเก็บไว้เป็นความลับด้วยนะครับ"

เขาจะให้เรื่องที่บุตรสาวท้องเพ่งพรายออกไปสู่หูคนภายนอกไม่ได้ เขากับภรรยาเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม และที่ผ่านมาก็เอาบุตรสาวไปเยินยอให้เพื่อนฝูงฟังว่าบุตรสาวดีอย่างนู่นดีอย่างนี่ตลอด

หากคนเหล่านั้นรู้ว่าบุตรสาวของเขาท้องป่องทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานคงถูกหัวเราะเยาะ และเป็นที่ติฉินนินทาในแวดวงไฮโซสนุกปากแน่ ๆ เพราะฉะนั้นเขาจะเสียหน้ากับเรื่องนี้ไม่ได้

"ค่ะ ฉันไม่เอาไปเพ่งพรายแน่นอน" หมอวัยกลางคนยืนยันเสียงหนักแน่น จากนั้นก็เดินออกจากห้องไปอย่างรู้งาน

ทันทีที่แน่ใจว่าหมอไปแล้วอภิสิทธิ์ก็หันกลับมาจ้องหน้าบุตรสาวอย่างเอาเรื่อง กดเสียงถามจนเอ็นคอขึ้นด้วยความโกรธจัด "แกท้องกับใครส้ม บอกพ่อมาเดี๋ยวนี้"

ส้มที่ยังอยู่ในอาการช็อกได้แต่สั่นส่ายหน้าไปมาเพราะพูดอะไรไม่ออก แววตาไหวระริกเคลือบไปด้วยน้ำสีใส เธอตั้งรับไม่ทันจริง ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง

ความรู้สึกมันตีกันมั่วไปหมดในสมองเต็มไปด้วยคำถามมากมาย

"ส่ายหน้าหมายความยังไงห๊ะ แกตอบฉันมาสิยัยส้ม" การนิ่งเงียบของบุตรสาวยิ่งทำให้อภิสิทธิ์มีน้ำโหมากกว่าเดิม เดินเข้าไปจับไหล่บุตรสาวแล้วใช้มือเขย่าตัวเธออย่างแรง ๆ จนศีรษะเล็กสั่นคลอน "ทำไมแกทำตัวเหลวแหลกขนาดนี้ แบบนี้ฉันกับแม่แกจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนห๊ะ"

"ฮึก!..ส้มขอโทษ ๆ" ส้มที่พยายามสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหลถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น ใบหน้าที่เจิ่งนองด้วยสายธารน้ำตาสั่นส่ายไปมาพัลวัน พร่ำขอโทษซ้ำ ๆ ด้วยความรู้สึกผิด

ต่อให้รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองท้องกับใครเธอก็ไม่สามารถบอกได้จริง ๆ เพราะถ้าบอกทั้งพ่อ และแม่ของเธอคงจะไม่ยอม และตามไปเอาเรื่องแบงค์แน่ ๆ ต้องบังคับให้เขารับผิดชอบ ซึ่งเธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาจะตอบกลับมายังไง

"ขอโทษแล้วมันได้อะไรขึ้นมา บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าแกท้องกับใคร"

"พอเถอะครับพ่อ แค่นี้น้องก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว และบางทีน้องอาจจะไม่ท้องก็ได้ครับเรายังไม่ได้ตรวจกันเลย แค่หมอสันนิฐานเอง" เบสทนดูไม่ได้อีกต่อไปเอ่ยขึ้นพร้อมกับแกะมือผู้เป็นพ่อออกจากไหล่มน แล้วรั้งน้องสาวเข้ามากอดปลอบประโลม "ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร"

"จะไม่ท้องได้ยังไงกันอาการที่น้องสาวแกแสดงออกมาเหมือนตอนที่ฉันท้องแกสองคนไม่มีผิด" อัปสรที่ยืนเงียบเพราะกำลังตั้งสติกับเรื่องที่เกิดขึ้นแย้งเสียงแข็งพลางมองหน้าบุตรสาวด้วยความโกรธระคนผิดหวัง ก่อนอภิสิทธิ์จะชี้หน้าต่อว่าต่อเมื่อคนเป็นภรรยาพูดจบ

"มันจะรู้สึกแย่อะไร คนที่ต้องรู้สึกแย่มันต้องเป็นฉันกับแม่แกต่างหาก ถ้าคนอื่นรู้พวกฉันสองคนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"

"ฮึก! ฮื่อ!"

ส้มได้แต่ร้องไห้ออกมาจนตัวโยนซบหน้ากับบ่าแกร่ง โอบกอดผู้เป็นพี่ชายไว้แน่นทั้งรู้สึกผิดต่อพ่อแม่ทั้งกดดันทั้งเครียดไม่รู้เลยว่าเธอควรจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี

มันอัดอั้นอยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านความรู้สึก

"บอกแม่มาเดี๋ยวนี้ส้ม ลูกท้องกับใคร" อัปสรเค้นเสียงถามบุตรสาวอย่างใจเย็นที่สุดทั้งที่ในใจลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ อีกทั้งยังกลัวกลัวว่าบุตรสาวจะท้องกับผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า

"..."

"หรือที่บอกไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้องห๊ะ" อภิสิทธิ์ตวาดอย่างเหลืออดเมื่อบุตรสาวเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ส่ายหน้าแทนคำตอบพ่นคำพูดร้ายกาจออกไปโดยไม่คิดสักนิดว่าบุตรสาวจะรู้สึกยังไง

ส้มเสียใจเป็นที่สุดกับคำพูดของผู้เป็นพ่อยิ่งร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิมไม่คิดว่าท่านจะห่วงแต่หน้าตาตัวเองจนไม่สนใจความรู้สึกของคนเป็นลูกอย่างเธอขนาดนี้

สำหรับพวกท่านแล้วเกียรติยศ และชื่อเสียงคงสำคัญกว่าลูกสินะ

"แกเลิกร้องไห้สักทียัยส้ม ตอนทำไม่ร้องตอนนี้จะมาร้องทำไม" อภิสิทธิ์ยังคงพ่นคำพูดร้ายกาจใส่บุตรสาวไม่หยุดหย่อน

ยิ่งบุตรสาวร้องไห้ออกมาหนักเท่าไรก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด และหัวเสียมากขึ้นเท่านั้น "งามไส้สิ้นดี แทนที่จะรักนวลสงวนตัวกลับท้องไม่มีพ่อ"

"พอเถอะค่ะคุณ" อัปสรรีบใช้มือลูบไหล่คนเป็นสามีเบา ๆ หวังให้เขาใจเย็นลงเพราะเริ่มรู้สึกว่าเรื่องมันจะบานปลาย

ต่อให้เธอโกรธบุตรสาวยังไงแต่ก็คิดว่าคำพูดของสามีที่พูดกับบุตรสาวแรงเกินไป "ฉันว่าคุณออกไปสงบสติอารมณ์ก่อนดีกว่าค่ะ ฉันจะคุยกับลูกต่อเอง"

อภิสิทธิ์ไม่ตอบอะไรเพียงพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะหันหลังเดินผลุนผลันออกไปจากห้องด้วยอารมณ์คุกรุ่น ขืนอยูต่อเขาคงได้ทะเลาะกับบุตรสาวมากกว่านี้แน่ ๆ

"คราวนี้พ่อออกไปแล้ว ลูกจะบอกแม่ได้รึยังว่าท้องกับใคร" อัปสรเอ่ยถามบุตรสาวอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลหลังจากผู้เป็นสามีเดินออกไปพ้นห้องแล้ว เลือกเอาน้ำเย็นเข้าลูบหวังว่าบุตรสาวจะยอมปริปากบอก

และเหมือนมันจะได้ผลทำให้ส้มผงกหน้าขึ้นจากบ่าแกร่งมองผู้เป็นแม่ด้วยแววตาไหวระริก พยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกลวก ๆ แล้วเค้นเสียงบอกผู้เป็นแม่ไปอย่างหนักแน่น "หนูขอจัดการเรื่องนี้เองนะคะแม่ หนูสัญญาว่าจะไม่ทำให้พ่อกับแม่อับอายขายหน้าใคร"

"ได้ แม่จะให้โอกาสลูกจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ภายในเวลาสามวันลูกต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเพราะไม่อย่างนั้นแม่กับพ่อจะจัดการเอง" อัปสรยอมรับคำขอของบุตรสาวโดยง่ายเพราะรู้ว่าบุตรสาวคงจะไม่ยอมปริปากบอกแน่นอนถ้าพูดออกมาแบบนี้แล้ว ต่อให้เอาปืนมาขู่ก็คงไม่สามารถง้างปากได้

"ขอบคุณมากนะคะแม่" ส้มมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยความซาบซึ้งอย่างน้อยในตอนนี้ท่านก็ยังใจดีกับเธออยู่บ้างไม่เหมือนที่คิดไว้

ทว่าเธอกลับไม่รู้เลยว่าอัปสรเพียงรับปากสง ๆ เท่านั้นเพราะจริง ๆ แล้วเธอจะแอบตามสืบเรื่องนี้เงียบ ๆ ต่างหาก ต่อให้บุตรสาวบอกว่าขอจัดการเองก็ตามเถอะ

เรื่องใหญ่ขนาดนี้เธอไม่ปล่อยไปแน่ ๆ หากรู้ว่าพ่อของลูกในท้องบุตรสาวเป็นใครมาจากไหนจะได้จัดการถูก

ถ้าผู้ชายคนนั้นฐานะยากจน หรือไม่มีหัวนอนปลายเท้าเธอก็ไม่ยอมรับมาเป็นลูกเขยหรอกต่อให้ลูกของเขาจะคาท้องบุตรสาวอยู่ก็ตาม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel