ตอนที่ 3
ฤทธิกดรหัสหกตัวตรงแป้นบริเวณลูกบิดก่อนจะเปิดประตูห้องเดินนำเข้าไป
“ห้องน้ำอยู่ทางนั้น” เขาชี้ไปทางห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ “เข้าไปอาบน้ำสระผมก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปหาชุดมาให้ ส่วนชุดที่เปียก...เดี๋ยวเอาเข้าเครื่องซักแล้วก็ปั่นแห้ง สักสองชั่วโมงก็น่าจะเสร็จ”
ฤทธิพาเดินไปที่ห้องนอนแล้วเปิดประตูห้องน้ำให้เด็กสาว ก่อนที่ตัวเขาจะเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดลิ้นชักหาเสื้อผ้าที่จะให้เด็กสาวใส่ชั่วคราว ได้ชุดนอนผ้าฝ้ายสีขาวลายทางฟ้ามาหนึ่งชุด เป็นเสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาว
ชายหนุ่มเดินไปที่ห้องน้ำ เคาะประตูบอกคนข้างใน แล้วยืนรอครู่หนึ่ง
ทว่าข้างในกลับเงียบ...ไม่ขานและไม่มาเปิดประตู อารามเป็นห่วงฤทธิจึงบิดลูกบิด พบว่าไม่ได้ล็อก เขาจึงเปิดเข้าไป
แต่แล้วก็ต้องชะงักยืนตัวแข็งอยู่กับที่เมื่อมองเข้าไปเห็นร่างที่ยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้า ทว่าหันหลังให้กับประตูห้องน้ำ
ร่างอ้อนแอ้นนั้นกำลังเปลื้องเสื้อผ้าเปียกโชกออกจากตัว เสื้อนักศึกษาถอดวางข้างอ่างล้างหน้าแล้ว เจ้าตัวกำลังรูดซิปกระโปรงแล้วปล่อยให้เลื่อนหลุดจากร่างลงไปกองอยู่บนพื้น
เรือนร่างเกือบเปลือยนั้นขาวผ่องเป็นยองใยทั้งยังมีสัดส่วนงดงามจนฤทธิหายใจไม่ทั่วท้อง เอวคอดกิ่วเล็กจนคนมองนึกสงสัยว่าสองมือของเขาน่าจะโอบรอบได้พอดี
ต่ำลงมาคือสะโพกที่ผายออกและบั้นท้ายกลมกลึงน่ามอง แม้จะไม่เห็นทรวงอกชัดเจน แต่ยามเจ้าตัวเคลื่อนไหวเขาก็เห็นความอวบอิ่มกระเพื่อมตามการขยับเขยื้อน
รูปร่างราวนาฬิกาทรายเป็นเช่นนี้เอง ไม่น่าเชื่อว่าความอรชรอ้อนแอ้นที่เห็นภายนอกนั้นช่างซ่อนรูปเสียจริง
เลือดในกายชายหนุ่มสูบฉีดแล่นพล่านจนต้องผ่อนลมหายใจออกมา เส้นเลือดในกายทุกสายดูเหมือนจะพร้อมใจกันส่งไปยังสิ่งที่นอนสงบอยู่ในเป้ากางเกงของเขา
ฤทธิไม่แน่ใจว่านานเท่าไรแล้วที่เจ้าสิ่งนั้นไม่ได้สัมผัสเนื้อนุ่มนิ่มของเพศตรงข้าม
เขาไม่เคยนับ ไม่คิดจะนับ เพราะถ้าหากทำ เขานั่นแหละที่จะทนไม่ได้!
ชายหนุ่มถอยออกมาจากประตูก่อนจะปิดมันลงอย่างเบามือ แล้วเดินไปที่ปลายเตียงวางชุดในมือไว้ตรงนั้น คนที่ออกมาจากห้องน้ำคงเห็นได้ไม่ยาก ส่วนตัวเขาก็เดินออกจากห้องนอนทันที
ฤทธิตรงไปที่ตู้เย็น นาทีนี้เขาอยากดื่มน้ำเย็นจัดๆ เผื่อว่าความเย็นจะดับความร้อนของแรงปรารถนาที่กำลังก่อตัวลงได้บ้าง
‘บ้าจริง!’
เขาสบถในใจเมื่อน้ำเย็นจัดล่วงเข้าคอแล้ว ทว่าพอหลับตาลงภาพเรือนร่างขาวขาวผ่องนั้นกลับวาบขึ้นมาในความคิด!
ไม่นานนักเด็กสาวก็เดินออกมา สวมชุดที่เขาวางทิ้งไว้ให้ ชุดหลวมโคร่งนั้นพรางรูปร่างได้เป็นอย่างดีก็จริง ทว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิดเมื่อสมองของเขาจดจำภาพที่เห็นเอาไว้หมดสิ้น แค่เห็นเจ้าหล่อนเดินออกมาลมหายใจก็พาลสะดุด ภาพที่อยากจะลืมกลับแจ่มชัดขึ้นมาอีกหน
‘หยุดคิดบ้าๆ เสียทีเถอะวะ’
บอกตัวเองเช่นนั้น ทว่าที่หลุดจากปากกลับเป็นคำถามเมื่อสาวน้อยที่เดินมาหยุดยืนไม่ไกล
“ดื่มอะไรอุ่นๆ ไหม...ชา กาแฟ โกโก้”
“เอ่อ...น้ำเปล่าก็ได้ค่ะ” หล่อนตอบเมื่อเหลือบเห็นในมือเขาแก้วน้ำเปล่า
ฤทธิก้มมองตามสายตาอีกฝ่าย ก่อนจะชูแก้วน้ำเย็นในมือขึ้นมา
“มันอุ่นที่ไหน ตากฝนมาเปียกๆ ดื่มน้ำเย็นเดี๋ยวก็ป่วยกันพอดี โกโก้ไหม...มาฉันชงให้”
พูดจบเขาก็จัดการเปิดตู้แล้วหยิบถ้วยออกมาวาง หยิบซองโกโก้แบบทรีอินวันมาหนึ่งซอง ฉีกเทแล้วก็กดน้ำร้อนจากกระติกที่ต้มเอาไว้ เสียงช้อนกระทบแก้วดังกรุ๊งกริ๊ง
ครู่ต่อมาเขาก็ยื่นถ้วยโกโก้ที่มีควันสีขาวลอยกรุ่นให้เด็กสาว เจ้าหล่อนสูดลมหายใจดอมดมกลิ่นช็อกโกแล็ตเข้มข้นของโกโก้ชงใหม่ๆ
ก่อนจะเอื้อมมารับสาวน้อยกระพุ่มมือไหว้พลางเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ
“ขอบคุณค่ะ”
วินาทีนั้นภาพเด็กหญิงตัวผอมบางที่คุ้นตาคล้ายทาบทับกับภาพเด็กสาววัยนักศึกษาตรงหน้า เพราะภาพนั้นเอง ฤทธิจึงดึงสติที่คิดอะไรเลยเถิดกลับคืนมา
หล่อนยังเด็ก...เด็กมาก อายุห่างจากเขากี่ปีกันนะ...สิบ...ไม่สิ!
“เรียนปีไหนแล้วล่ะ” คำถามเหมือนที่ผู้ใหญ่คนหนึ่งพึงถามถึงความเป็นไปของเด็กที่ไม่ได้พบเจอกันหลายปี
คนถามเดินไปทรุดนั่งตรงโซฟา ขณะคนถูกถามยังคงยืนที่เดิม ในมือถือถ้วยโกโก้เอาไว้แต่ยังไม่ได้ยกขึ้นดื่ม
“ปีสองค่ะ”
“ปีสอง? อายุ...” เขาหยุดไปนิด คล้ายกำลังคิดเลขในใจ “สิบเก้า?”
“ค่ะ”
สิบหกปี!...ห่างกันสิบหกปีเชียวหรือ...
ฤทธิถอนใจเบาๆ พลางยกแก้วในมือขึ้นดื่มรวดเดียวก่อนวางแก้วเปล่าไว้บนโต๊ะกลางหน้าโซฟา
“ให้หนูรินเพิ่มไหมคะ?” เด็กสาวถามทำท่าจะหันไปเปิดตู้เย็น แต่ฤทธิโบกมือห้ามเสียก่อน
“ไม่ต้องๆ ไม่เป็นไร แล้วเสื้อผ้าเธอล่ะอยู่ไหน เอามาสิ เดี๋ยวฉันจะสอนวิธีใช้เครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้าให้ แล้วก็รีบดื่มโกโก้นั่นให้หมดเสียที ก่อนมันจะเย็น”
“ผึ่งไว้ในห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวหนูไปหยิบมาก่อนนะคะ”
เด็กสาวตอบพลางยกแก้วโกโก้ในมือขึ้นจรดริมฝีปาก ลืมไปสนิทว่ามันยังร้อนจึงลวกปากเข้าเต็มๆ
“โอ๊ย!” หล่อนร้อง...ปากลิ้นพองไปหมดแล้วแน่ๆ อารามตกใจโกโก้ในถ้วยจึงกระฉอกเลอะอกเสื้อที่ใส่จนเป็นรอยด่างดวง
ฤทธิผุดลุกขึ้นแล้วก้าวพรวดเดียวถึงตัวเด็กสาว เปิดลิ้นชักตรงเคาน์เตอร์ด้วยความว่องไว คว้าผ้าเช็ดปากสีขาวที่พับวางไว้อย่างเป็นระเบียบขึ้นมาผืนหนึ่ง ซับคราบโกโก้ที่เลอะให้เด็กสาวอย่างลืมตัว
“เป็นอะไรไหม? เจ็บตรงไหน?”
“เอ่อ...ม ไม่เป็นไรค่ะ” น้ำเสียงกระอักกระอ่วนพร้อมกับเจ้าตัวพยายามยกมือขึ้นมาปัดป้องเรียกสติอีกฝ่าย
ฤทธิผงะถอยหลัง ยืนนิ่งงันไปครู่ก่อนจะเอ่ยคำขอโทษ
“ฉัน...ฉันขอโทษ ลืมไป...” เสียงเขาขาดหาย ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดไปด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า “เธอไม่ใช่เด็กแล้ว”
“...” รอยยิ้มจืดเจื่อนทำให้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกผิดที่ทำตัวรุ่มร่ามใส่เจ้าหล่อน
“ไปหยิบเสื้อผ้าที่จะซักมาสิ” เขาเอ่ยเสียงเคร่งขรึม