2
เช้าวันต่อมา...(ปัจจุบัน) ไร่สิรางประกรณ์
คนที่กระโดดสะพานแม่น้ำปิง เพื่อจะจบชีวิตอันแสนเจ็บปวด ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง ไปรอบๆ ห้องสีขาว แล้วจ้องมองโซฟาตัวใหญ่สีเทาอ่อนกับภาพวาดสีน้ำ แสนสวยอย่างมึนงง
“ไม่อยากจะเชื่อ! สวรรค์หน้าตาเป็นแบบนี้หรอกเหรอเนี่ย” เธอเอ่ยพึมพำเบาๆ อย่างรู้สึกสับสน ไม่คิดว่าชีวิตหลังความตายจะสวยงามถึงเพียงนี้ แถมยังได้นอนบนเตียงนุ่มๆ ในห้องที่ดูสะอาดตา
“อะฮึ่ม! อะไรทำให้คิดว่าการฆ่าตัวตายจะทำให้คุณได้ขึ้นสวรรค์” จอมพลเอ่ยถามหญิงสาวที่ตนกระโดดน้ำลงไปช่วยอย่างรู้สึกโมโหขึ้นมานิดๆ เมื่อคืน! ถ้าเขาไม่แวะเข้าไปดูร้านที่เพิ่งจะแต่งเสร็จ ป่านนี้ร่างของเธอคงจะลอยขึ้นอืดอยู่ในแม่น้ำปิง
“คะ...คุณเป็นใคร?” จีอาน่าขยับตัวลุกนั่งอย่างตกใจ ‘แม่เจ้า! นี่คงจะเป็น ผู้คุมวิญญาณสินะ? แต่ทำไมถึงใส่แค่เสื้อกล้ามกับกางเกงบ็อกเซอร์ล่ะ?’
“หึ! ผมเป็นเจ้าชายที่ขี่ม้าขาวไปช่วยคุณเอาไว้เมื่อคืนน่ะสิ” จอมพลกลอกตาเมื่อเห็นสาวเจ้าเอาแต่จ้องใบหน้าของตนด้วยสายตาแปลกๆ ‘ให้ตาย!ยัยเด็กนี่ เต็มหรือเปล่าวะ’
“คะ...คุณช่วยฉัน?” จีอาน่ารู้สึกชาตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ได้ยินคำบอกเมื่อครู่ ‘นี่แปลว่าเรายังไม่ตายงั้นเหรอ?’
“ก็ไม่ได้อยากจะช่วยหรอกนะ แต่กลัวศพของคุณจะขึ้นอืดบริเวณร้านอาหารของผม” จอมพลบังคับสายตาให้มองไปทางอื่น เพราะเมื่อคืนเขาใส่แต่ เสื้อยืดให้สาวตรงหน้าแค่ตัวเดียวเท่านั้น และดูเหมือนเธอจะไม่รู้ตัวว่าท่านั่งในตอนนี้ มันกำลังยั่วยวนสายตาของเขาขนาดไหน
“กรี๊ดดดดด” จีอาน่ากรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เมื่อรู้ว่าแผนที่วางไว้ ได้พังลงเพราะหนุ่มตรงหน้า
คนที่กำลังเคลิ้มนิดๆ หลังจ้องมองบริเวณต้นขาอ่อนของสาวเจ้า แต่พอได้ยินเสียงกรี๊ดเท่านั้น เส้นเลือดฝอยในสมองก็แทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เสียให้ได้
“รู้ไหมว่าการที่จะทำอะไรแบบนั้นมันต้องใช้ความกล้าขนาดไหน ฮือๆๆ แม่ง! เสียเที่ยวจริงๆ” จีอาน่าร้องไห้และสบถออกมาอย่างรู้สึกเจ็บใจ คิดว่าป่านนี้บิดาคงจะเข้าพิธีแต่งงานกับปารีณาไปแล้ว
“เสียเที่ยว?” จอมพลทวนคำอย่างไม่อยากจะเชื่อหู ‘พ่อแก้วแม่แก้ว! เกิดมาเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนสบถคำว่า ‘แม่ง’ ได้เจ็บขนาดนี้มาก่อน’
“ใช่!” จีอาน่ามองค้อนคนที่ทำลายแผนการของเธออย่างรู้สึกโกรธ
“งั้นไปกระโดดอีกรอบไหมล่ะ สาบานเลยว่ารอบนี้จะแค่ยืนดูเฉยๆ เท่านั้น” คนที่อุตส่าห์กระโดดว่ายน้ำลงไปช่วย เริ่มจะโมโหขึ้นมานิดๆ
“ขอบคุณ!” ด้านคนที่ยังตั้งมั่นในอุดมการณ์พยักหน้ารับทันใด แม้ว่าตอนนี้อารมณ์กล้าบ้าบิ่นจะไม่เต็มร้อยเหมือนเมื่อคืน แต่เดี๋ยวเธอไปบิ้วเอาที่หน้างานได้
“งั้นก็ลุกขึ้นเลยสิ” จอมพลบอกอย่างเหลืออด เมื่อเห็นสาวตรงหน้ายังมีความคิดบ้าๆ อยู่ในหัว
“...” จีอาน่าขยับลงจากเตียง เตรียมจะเดินไปที่ประตูห้อง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายรั้งแขนเอาไว้
“เดี๋ยว!”
“มะ...มีอะไร?” เธอถามพร้อมกับแกะมือหนาออกอย่างรู้สึกรังเกียจ แม้ว่าคนตรงหน้าเธอจะหล่อโคตรๆ ขนาดไหน แต่วินาทีนี้เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว นอกจากการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
“จะตายสภาพนี้จริงๆ เหรอ” จอมพลถามพลางจ้องมองสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ทะ...ทำไม?” คนที่เพิ่งจะรู้สึกเย็นๆ บริเวณช่วงล่าง คล้ายๆ กับว่าไม่ได้...
“ตอนนี้คุณใส่แต่เสื้อยืดตัวเดียว ลองนึกภาพตอนกู้ภัยไปเก็บศพดูสิคุณไม่อายเขาเหรอ?” จอมพลปล่อยหมัดเด็ดใส่หญิงสาวอย่างรู้สึกหมั่นไส้
“ละ...แล้วเสื้อผ้าของฉันอยู่ไหน?” จีอาน่าหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีทันใด โชคดีที่เสื้อยืดตัวที่ใส่อยู่ยาวเกือบถึงเข่า
“กองอยู่ในห้องน้ำ” จอมพลชี้ยังประตูที่อยู่ตรงมุมห้อง
จีอาน่ารีบเดินไปดูก็พบเสื้อผ้าของเธอใส่กองอยู่ที่อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ และพอหยิบขึ้นมาก็ถึงกับตกใจ “คุณตัดเสื้อกับกางเกงของฉันทำไม”
“ที่ต้องตัดก็เพราะว่าผมถอดมันออกไม่ได้น่ะสิ” จอมพลกลอกตาอย่างรู้สึกเซ็งๆ เธอไม่รู้หรอกว่ากว่าที่เขาจะก้าวจะผ่านเมื่อคืนมาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
“แล้วฉันจะใส่อะไรล่ะ?” เธอหันไปถามราวกับต้องการให้คนตรงหน้ารับผิดชอบ เพราะเธอตั้งใจจะฝากแผลเป็นให้บิดาได้จดจำไปตลอดชีวิตว่าวันแต่งงานครั้งใหม่ คือวันตายของเธอกับแม่ แต่ผู้ชายตรงหน้าก็ทำลายแผนของเธอพังจนยับเยิน
“ผมว่าช่างมันเถอะ! ไหนๆ คุณก็จะตายแล้ว จะแคร์ทำไม” จอมพลบอกพร้อมกับเข้าไปดึงแขนของสาวเจ้าให้ออกเดิน
“เดี๋ยวก่อน!” จีอาน่ารีบขืนตัวไว้ ‘บ้าจริง! ถ้าเราตายในสภาพที่ไม่ได้ใส่กางเกงแบบนี้ ตำรวจอาจจะลงประเด็นการตายผิด แล้วทุกๆอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ก็คงจะสูญเปล่า’
“ไปขึ้นรถ ผมจะพาไปคุณโดดให้มันจบๆ ไปซะ” จอมพลบอกด้วยสีหน้าติดรำคาญนิดๆ
“นี่คุณ! ฉันไม่ได้ใส่กางเกงนะ” จีอาน่าน้ำตาคลอหน่อยขึ้นมาอีกครั้ง ไม่อยากจะคิดว่าศพของตัวเองจะอนาถขนาดไหน แถมนักข่าวคงจะเขียนเมาท์กันสนุกปากว่าถูกข่มขืน หรือไม่ก็เมายาแล้วโดดน้ำตาย
“แล้วไง?” จอมพลเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้ากวนๆ
“คุณพอจะมีกางเกงเก่าๆ ให้ยืมสักตัวไหม?” จีอาน่าขอความเห็นใจ
“ไม่!” จอมพลรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“ทำไมล่ะ”
“ก็ผมกลัวตอนที่คุณเอามาคืนน่ะสิ อีกอย่าง! ถ้าเกิดตำรวจรู้ว่ากางเกงที่คุณใส่เป็นของผม ผมก็อาจจะซวยถูกจับโยงการตายของคุณ ดีไม่ดีอาจจะติดคุกฟรีอีกด้วย”
“ฮึก...ก็แล้วใจคอคุณจะให้ฉันตายทั้งที่ไม่ได้ใส่กางเกงเนี่ยนะ” เธอตัดพ้อทั้งน้ำตานองหน้า
“เฮ้อ...จะตายทั้งที ทำไมต้องสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นด้วยนะ” จอมพลถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยกับความยุ่งยากมากเรื่องมากราวของสาวตรงหน้า
“ฮือๆๆ ก็ใครใช้ให้คุณมาช่วยฉันล่ะ”
“เอางี้! บอกเหตุผลกับผมหน่อยว่าทำไมคุณถึงอยากจะตาย แล้วผมสัญญาว่าคุณจะได้ตายสมใจแน่นอน” จอมพลยื่นข้อเสนอ
“ฮึก...” จีอาน่าเงยหน้าขึ้นมองหนุ่มหล่อล่ำครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี
“โดนผู้ชายทิ้ง” จอมพลโยนเหรียญถามทาง
“...” จีอาน่าส่ายหน้าปฏิเสธ
“ท้อง?” จอมพลกัดฟันถามต่อ
“...” เธอหันกลับไปส่งค้อนวงใหญ่ให้อย่างเคืองๆ
“เฮ้อ...ถูกข่มขืนมาสินะ” จอมพลกลอกตาอย่างเซ็งๆ เมื่อหญิงสาวไม่ยอมเปิดปากบอกสาเหตุ
“ไอ้คนบ้า ฮือๆๆๆ” จีอาน่าปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บใจกับแต่ละคำถามที่ อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยออกมา
“งั้นก็ช่วยบอกเหตุผลมาสักทีสิ เวลาตำรวจเขาหาสาเหตุการตาย จะได้ไม่ต้องมานั่งเดาสุ่มสี่สุ่มห้า แค่เห็นศพคุณขึ้นอืดพวกเขาก็คงจะกินข้าวไม่ลงไปเป็นเดือนแล้ว” จอมพลบอกด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ฮือๆๆ” จีอาน่าร้องไห้หนักกว่าเดิม เกิดมาไม่เคยรู้สึกเกลียดใครเท่ากับหนุ่มตรงหน้ามาก่อน
“นี่คุณ! ลีลาอยู่นั่นแหละ ผมหิวข้าวนะ นี่ก็จะเที่ยงแล้ว ยังไม่มีข้าวตกถึงท้องผมเลยสักเม็ด” จอมพลต่อว่าด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
จีอาน่าหยุดร้องไห้แล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเป็นทางทิ้ง พยายามตั้งสติ เรียบเรียงประโยคต่างๆ เพื่อจะบอกเล่าถึงที่ไปที่มาให้อีกฝ่ายฟัง แต่อยู่ๆ ก็มีเสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ที่ดังจนแสบแก้วหู แล่นเข้ามาจอด ตามด้วยเสียงฝีเท้าหนักๆ ที่เดินขึ้นบันไดมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้อง
“นายครับ! ของที่สั่งผมวางไว้ที่หน้าประตูนะครับ” สมชายบอกด้วยน้ำเสียงที่ปนหอบนิดๆ
“ขอบใจมาก ไปดูงานในไร่ต่อเถอะ” จอมพลตะโกนบอกลูกน้องคนสนิทที่วานให้ไปซื้อของใช้เมื่อสองชั่วโมงก่อน
“ครับ” สมชายขานรับก่อนจะเดินลงบันไดกลับลงไปที่ชั้นล่าง
จอมพลลุกเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก้มลงหยิบถุงกระดาษที่วางอยู่บนพื้น มาส่งให้กับหญิงสาว “อ๊ะ! คุณน่าพอจะใส่ได้”
“อะไรคะ?” จีอาน่ารับถุงกระดาษมา แล้วหยิบของที่อยู่ข้างในออกมาดู
“ก็ผ้าถุงไง” จอมพลอมยิ้มอย่างขำๆ ที่ลูกน้องคนสนิทซื้อของมาให้ตรงตามที่บอกเป๊ะ! จีอาน่าจ้องมองผ้าซิ่นสีแดง อันเต็มไปด้วยลวดลายของดอกไม้อย่างมึนงง