บทย่อ
สิบนาทีต่อมา...หลังจากที่เธอถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นในสีขาว ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า รีบหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามเนื้อตัวที่แสนจะเพอร์เฟกต์ไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ “อืม...จะทำอะไรพี่” คนเมาครางเบาๆ พร้อมกับลืมตาขึ้นมอง “ชะ...เช็ดตัวค่ะ” จีอาน่าบอกเสียงสั่นอย่างรู้สึกอาย “ไม่รักพี่ ก็ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงพี่หรอก” จอมพลบอกด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ก่อนจะเบือนหน้าหนี ‘ชิ! ก็ถ้าไม่ห่วงพี่แล้วจะให้ห่วงหมาที่ไหนล่ะ คนบ้า!’ จีอาน่าต่อว่าในใจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเช็ดตัวให้อีกฝ่ายต่อ จอมพลกลอกตาที่สาวเจ้าไม่ยอมหยุดจึงพลิกตัวนอนคว่ำหน้า เพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าบางของเขามันกำลังดีดตัวลุกขึ้นมาประกาศศักดาพร้อมรบ จีอาน่าถอนหายใจกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่ก็ยังคงเอาผ้าขนหนูเช็ดตามแผ่นหลังกว้างให้ พอเช็ดเสร็จก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป คลิก! ทันทีที่จอมพลได้ยินเสียงประตูห้องนอนปิดลง ก็รีบลุกขึ้นมองอย่างมึนๆ งงๆ “อะไรกันวะ! ง้อเราแค่นี้เนี่ยนะ?” ด้านจีอาน่ากลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเองเสร็จ ก็รีบตรงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที เพราะกลัวว่าหากอาบนานๆ แล้วเกิดไฟดับเหมือนเมื่อคืน คราวนี้เธอคงจะสติแตกจนเป็นบ้าไปเลยแน่ๆ ห้านาทีต่อมา...คนแกล้งเมานอนรออย่างกระสับกระส่ายก็ไม่เห็นสาวเจ้ากลับมาสักที จึงลุกเดินไปที่ประตูเพื่อจะแอบดูว่าสาวเจ้ากำลังทำอะไรอยู่ แต่พอได้ยินเสียงเปิดประตูที่ห้องนอนฝั่งตรงข้าม และเสียงฝีเท้าที่เดินตรงมายังประตูห้องนอนของตน ก็รีบหันหลังกระโดดม้วนตัวบิดเกลียวสามตลบ ประหนึ่งแชมป์นักกีฬากระโดดสูง ทิ้งตัวลงบนเตียงในท่าคว่ำหน้า โดยหลงลืมไปว่าบางอย่างของตนนั้น ผงาดง้ำทำมุม 90 องศามาตั้งแต่ตอนที่สาวเจ้าเช็ดตัวให้ ปลั๊ก! ‘ซี้ดดดดด...หักหรือเปล่าวะ?’ คนลงผิดท่าครางเบาๆ ขณะที่หยดน้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมา ทั้งเจ็บและจุกจนอยากจะลุกไปถลกกางเกงลง แล้วควักของรักของหวงออกมาดูและปลอบใจ จีอาน่าเปิดประตูเข้ามา ก็เห็นอีกฝ่ายนอนนิ่งอยู่ คิดว่าคงจะเมาหลับไปแล้ว จึงดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้ แล้วเดินไปเปิดไฟในห้องน้ำทิ้งไว้ และแง้มประตูให้พอมีแสงไฟสาดส่องเข้ามาในห้องนอนนิดๆ จากนั้นก็ปิดไฟในห้องนอน แล้วขยับขึ้นไปนอนบนเตียงกับหนุ่มขี้งอน พร้อมกับสอดมือเข้าไปกอดเอวหนาของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น “อื้อ!” จอมพลครางเสียงขัดใจ ก่อนจะจับข้อมือบางของสาวเจ้าออก “ขอกอดหน่อย” คนขี้กลัวผีอ้อนและขยับตามเข้าไปกอดเช่นเดิม “ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ต้องมากอด” จอมพลบอกจุดยืนเสียงแข็ง “เป็นสิ พี่จอมเป็น...เอ่อ...” จีอาน่าเอ่ยค้างไว้อย่างรู้สึกเขินอาย “เป็นอะไร?” จอมพลถามย้ำ ต้องการให้สาวเจ้าระบุสถานะของตนให้ชัดเจน “เป็นคนที่จีอาชอบค่ะ” จีอาน่ากัดฟันง้อหนุ่มขี้งอน “ปล่อย!” คนที่ยังไม่ได้คำตอบที่ใช่ ดึงมือของสาวเจ้าออกจากเอวทันที “พี่จอม!” จีอาน่าเริ่มจะไม่พอใจกับการกระทำของอีกฝ่าย ที่เอาแต่ผลักไสเธอ ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่ว่าค่ำๆ มืดๆ แบบนี้เธออยู่คนเดียวไม่ได้ “จะกอดพี่ได้ ก็ต้องยอมรับมาก่อนว่าพี่เป็นผัวของจีอา ไม่งั้นก็นอนแยกห้องกันไปเลย” จอมพลยื่นคำขาด “...” จีอาน่าได้ฟังก็ถึงกับสตั๊นไปทันใด ‘สรุป! อีตาบ้านี่เมาจริงๆ หรือว่าแกล้งเมากันแน่เนี่ย? คิดยังไงถึงมาถามคาดคั้นเอาคำตอบกับเธอตอนนี้’ “โอเค! ถ้ามันยากนัก เดี๋ยวพี่จะไปนอนอีกห้องแล้วกัน” คนที่ถือไพ่เหนือกว่า บอกพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว “พี่จอม” จีอาน่ารีบขยับลุกตามเข้าไปกอดเอวของอีกฝ่ายเอาไว้มั่น “สรุปพี่เป็นอะไร?” คนเจ้าเล่ห์ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นนิดๆ
1
ซีรีส์ ‘หลอกเด็ก’ ประกอบด้วย...
1 อุ้มรักอสูรเถื่อน
เรื่องราวของหนุ่มเสน่ห์แรงอย่าง...จอมพล สิรางประกรณ์ ที่เรียนจบบริหารธุรกิจ แต่ดันหลงใหลในวิถีชีวิตแบบชาวสวน ปลูกผักออแกนนิคกับผลไม้หลากหลายสายพันธุ์บนที่ดินหลายร้อยไร่ และยังเป็นเจ้าของคอนโดหรูใจกลางเมือง รวมไปถึงหอพักที่อยู่ใกล้กับมหาลัย. ดัง อีกหลายแห่ง
เขาเป็นหนุ่มฮอตที่มีข่าวฉาวเรื่องสาวๆ นัดตบตีกันออกสื่อมากที่สุดในกลุ่ม แต่กระนั้น...ก็หาได้แยแสไม่ เพราะชีวิตทั้งหมดของเขา ทุ่มเทให้กับผักและผลไม้ในไร่เพียงอย่างเดียว
2 อุ้มรักจอมบงการ
เรื่องราวของหนุ่มหล่อมาดผู้ดีอย่าง...ขุนพัน ดิลกสาร ที่ร่วมหุ้นเปิดบริษัทขนส่งเอกชนภายในประเทศกับเพื่อนรัก และยังทำธุรกิจเนื้อหมัก (โคขุน) รวมไปถึงการเปิดร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่างที่มีสาขามากมายอยู่ทั่วประเทศ
เขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อ รวย และหวงแหนอิสระภาพจัด! ถึงขั้นจับสาวที่จะขึ้นเตียงด้วยมาเซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยความสัมพันธ์ เพื่อแลกกับค่าตอบแทนราคาแพง
3 อุ้มรักซาตานลวง
เรื่องราวของหนุ่มเพลย์บอยตัวพ่ออย่าง...แม่ทัพ อินธิรากรณ์ เสี่ยใหญ่ใจป้ำ เจ้าของค่ายมวยดังและเป็นเจ้าของมีฟาร์มโคขุนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังร่วมหุ้นทำบริษัทขนส่งภายในประเทศกับขุนพันจนขึ้นมาติด TOP 10 หนุ่มหล่อรวยแห่งปี ทำให้เหล่าดารา-นางแบบในวงการต่างพากันถวายตัวให้อย่างไม่ขาดสาย แต่เขาก็ไม่เคยยอมให้สาวคนไหนเข้ามามีอิทธิพลในชีวิต
1
จีอาน่า พิสุทธิ์ธารากรณ์ อายุ 23 ปี สูง 161 ซม. รูปร่างผอมบาง แต่ทว่า...กลับเต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งที่น่าทึ่ง กำลังยืนเหม่อลอยอยู่บนสะพาน ดวงตาสีเทาอ่อนจ้องมองไปยังแม่น้ำอันกว้างใหญ่ด้วยหัวใจที่แหลกสลาย เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้คนถึงได้ดิ้นรนอยากมีความรัก ทั้งที่สุดท้ายแล้วต่างก็เห็นแก่ตัว
บิดาของเธอ...พบรักกับมารดาเมื่อ 24 ปีก่อน พอแต่งงานก็มีเธอเป็น พยานรัก ทุกอย่างดำเนินมาเรื่อยๆ เฉกเช่นครอบครัวที่แสนสุข
กระทั่งมารดาของเธอจากไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน ช่วงเวลาที่แสนสุขก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นช่วงเวลาที่เลวร้าย เพราะบิดาของเธอเตรียมจะแต่งงานใหม่กับหญิงสาววัย 36 ปี หลังจากที่แอบคบชู้กันมานาน
ความรัก ความอบอุ่น ความไว้ใจ และคำว่าครอบครัว มันแหลกละเอียดเหมือนแก้วที่โดนเหวี่ยงกระทบหิน เมื่อบิดาที่รักกลับกลายเป็นใครอีกคนที่ไม่รู้จัก และเธอก็ไม่สามารถจะจ้องมองท่านด้วยสายตาแบบเดิมได้อีกต่อไป...
หญิงสาวยืนมองดวงตะวันที่ลาลับขอบฟ้า กระทั่งเวลาผ่านล่วงเลยไปหลายชั่วโมง จึงถามกับตัวเองว่า..พรุ่งนี้ยังมีอะไรให้เธอรู้สึกเสียดาย หากยังไม่ได้ลงมือทำ? คำตอบคือไม่ ไม่มีอะไรแล้วที่จะต้องเสียดาย ทุกๆ อย่างมันว่างเปล่า
จีอาน่าสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะถอดรองเท้าราคาแพงออก แล้วปีนขึ้นไปนั่งบนขอบสะพาน พร้อมกับแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าอันมืดมิดที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวมากมาย เพื่อจดจำมันเป็นภาพสุดท้ายของชีวิต
จากนั้นก็หลับตาลง แล้วขยับโน้มตัวเอียงไปข้างหน้า ปลดปล่อย จิตวิญญาณให้ล่องลอยไปตามแต่กระแสทิศทางที่จะนำพา
ตูม!!!
ย้อนไปเมื่อ 6 วันก่อน...
หลังจากที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยฯ. ดัง ของอังกฤษ จีอาน่าก็รีบเดินทางกลับมาประเทศไทยก่อนกำหนดเดิม 10 วัน เพราะอยากจะมาร่วมทำบุญในวันครบรอบการจากไปของมารดา ที่จะมีขึ้นในอีก 5 วันข้างหน้า
แต่พอมาถึงเธอก็ต้องช็อกจนตั้งตัวไม่ทัน เมื่ออยู่ๆ บิดาก็ประกาศว่าจะแต่งงานครั้งใหม่กับหญิงสาวที่เคยเป็นอดีตผู้ช่วยเลขาของมารดา ซึ่งก็ตรงกับวันครบรอบการจากไปของท่านพอดี
จีอาน่าทะเลาะกับบิดาเสียงดัง ในขณะที่ปารีณาเอาแต่ทำหน้าเศร้า สวมวิญญาณของนางเอกผู้น่าสงสาร แต่ก็ยังยืนยันที่จะแต่งงานตามกำหนดเดิม ด้วยความโมโห เธอจึงลุกขึ้นและกระโจนเข้าไปตบหน้าของอีกฝ่ายถึงสองครั้งติดๆ กัน ก่อนจะถูกคนของบิดาจับแยกออก
“ปล่อย! ฉันบอกให้ปล่อย” จีอาน่าร้องตะโกนอย่างไม่พอใจ
ทัศเทพรีบพยักหน้าให้บอดี้การ์ดของตนปล่อยตัวบุตรสาว ก่อนจะหันมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “จีอา พ่อขอร้องเถอะ พ่อไม่ได้ลืมแม่ของลูกนะ แต่ชีวิตมันต้องเดินต่อไป และพ่ออยากจะมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง”
“ที่ผ่านมา...พ่อเคยรักหนูกับแม่บ้างไหม?” จีอาน่าเอ่ยถามขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทาง รู้สึกน้อยใจและผิดหวังในการกระทำของบิดาเป็นที่สุด
“รักสิ! ลูกและแม่ของลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของพ่อ” ทัศเทพบอกพลางขยับเข้าไปหา หวังจะคว้าตัวของบุตรสาวเข้ามากอดปลอบ เหมือนเช่นทุกครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับขยับตัวหนี
“ถ้าพ่อยืนยันที่จะแต่งงานกับมัน หนูจะฝากแผลที่ไม่มีวันจางหาย แม้กระทั่งวินาทีสุดท้ายที่พ่อจะหายใจ” จีอาน่ายื่นคำขาดก่อนจะคว้ากระเป๋าถือแล้ววิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
“จีอา! จีอา!” ทัศเทพตะโกนเรียกและเตรียมจะออกวิ่งตามบุตรสาว
ปารีณารีบเข้ารั้งแขนเอาไว้ “ปล่อยไปก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวเย็นลงแล้วคุณจีอาก็คงจะกลับมาเอง”
“แต่...” ทัศเทพพยายามค้าน กลัวว่าบุตรสาวจะทำอะไรบ้าๆ ขึ้นมา และตนยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้
“อุ้ย! ณาเจ็บจังเลยค่ะท่าน” ปารีณาอุทานด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด พร้อมกับยกมือลูบที่แก้มเบาๆ
ทัศเทพหันไปมองแล้วเห็นรอยแดงๆ ปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังจะมาเป็นคู่ชีวิต ก็รู้สึกสงสาร เตรียมจะเข้าไปปลอบ แต่พอได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่แล่นออกไปด้วยความเร็ว ก็ทำให้เขารีบหันกลับไปมองที่ประตูหน้าบ้านอีกครั้ง
“ท่านครับ คุณหนูขับรถออกไปเองครับ” คมสันที่เพิ่งจะกลับจากทำงานวิ่งเข้ามาบอกด้วยสีหน้าตื่นๆ เพราะปกติตนจะเป็นคนขับรถให้กับบุตรสาวของเจ้านายตลอด
“รีบตามจีอาไปอย่าให้คลาดสายตา” ทัศเทพบอกลูกน้องคนสนิทที่เคยเป็นอดีตทหารในสังกัดหน่อยรบพิเศษมาก่อนอย่างร้อนใจ
“จะตามทำไมคะ คุณจีอาไม่ใช่เด็กๆ แล้วสักหน่อย” ปารีณาเอ่ยท้วงด้วย น้ำเสียงตึงๆ
“คุณไปใส่ยาที่ห้องก่อนนะ เดี๋ยวสั่งงานเสร็จแล้วผมจะตามไป” ทัศเทพเอ่ยตัดบทเสียงเย็น
“กะ...ก็ได้ค่ะ” ปารีณาจำใจรับคำ แล้วเดินจากไปเงียบๆ เพราะรู้ว่าคนอย่างทัศเทพไม่ชอบให้ใครขัดใจ
ทัศเทพเรียกบอดี้การ์ด 5 คน ให้เข้าไปในห้องทำงาน ด้วยสีหน้าตึงเครียด เป็นห่วงบุตรสาวจับใจ เพราะจีอาน่าเพิ่งจะเดินทางกลับมาถึงบ้านได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็ต้องมาทะเลาะกันเรื่องแต่งงาน ซึ่งเขาน่าจะรอให้ผ่านวันครบรอบการจากไปของ ฮาน่าเสียก่อน แต่ที่ทุกอย่างก็เร่งรีบเพราะปารีณาขอร้องให้ตนจัดงานแต่งตามกำหนดที่เกจิอาจารย์ดังบอก
จีอาน่าขับรถไปขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทาง ไม่คิดว่าการกลับมาครั้งนี้ ทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไปอย่างที่คาดไม่ถึง สีหน้าถือดีของปารีณา และรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากนั้น ทำให้เธอรู้สึกเกลียดจนอยากจะวิ่งไปหาปืนสักกระบอกมายิงอีกฝ่ายให้ตายๆ ไปซะ
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงเรียกเข้าของมือถือที่ดังขึ้น เรียกสติที่กำลังกระเจิดกระเจิง ให้กลับมา จีอาน่าเหลือบมองที่หน้าจอ พอเห็นชื่อคนสนิทของมารดา เธอก็รีบจอดรถที่ข้างทาง แล้วกดรับสายของอีกฝ่ายทันที
[สวัสดีค่ะคุณวา]
[สวัสดีค่ะคุณจีอา กลับมาถึงไทยแล้วใช่ไหมคะ]
[ใช่ค่ะ]
[วาคิดว่าตอนนี้คุณจีอาคงจะทราบเรื่องที่คุณทัศเทพจะแต่งงานกับณาแล้ว วามีสิ่งหนึ่งที่จะมอบให้คุณจีอาค่ะ] วารินบอกพร้อมกับลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ
[อะไรเหรอคะ?] จีอาน่าถามอย่างรู้สึกมึนๆ
[วันนั้น...วันที่คุณฮาน่าจากไป วาเก็บเรื่องนี้เอาไว้กับตัวมาตลอด และตอนนี้คงถึงเวลาแล้วที่คุณจีอาจะได้รู้ความจริง]
[คะ...ความจริงอะไรคะ] จีอาน่าถามยังไม่ทันขาดคำ ปลายสายก็กดวางไปดื้อๆ แต่จากนั้นไม่ถึงสามวินาที ก็มีเสียงข้อความไลน์ดังขึ้น
จีอาน่ามองคลิปที่อีกฝ่ายส่งมามือไม้สั่น อยากจะรู้ว่าวารินเก็บงำความลับอะไรเอาไว้จึงกดเข้าไปดู เธอถึงกับชาวาบไปทั้งตัวที่เห็นปารีณาเข้าไปสวมกอดบิดาจากด้านหลัง
{ณา! อย่า เดี๋ยวคุณหญิงมาเห็นเข้า} ทัดเทพพยายามแกะมือของหญิงสาวออกจากตัว
{คุณหญิงออกไปแล้วค่ะ ตอนนี้เหลือแค่ท่านกับหนูเท่านั้น} ปารีณากระซิบอ้อน
{แต่มัน...}
{ณาคิดถึงท่านค่ะ อยากจะนอนกอดท่านทุกคืนๆ แต่ก็ทำไม่ได้}
{ณา! ไม่ใช่ที่นี่} ทัดเทพบอกอย่างเป็นกังวล เพราะนี่คือห้องพักของตนกับภรรยา
{ครั้งนี้ท่านสั่งณาไม่ได้ค่ะ} ปารีณาบอกพร้อมกับถอดชุดเดรสที่สวมออก แล้วดึงหนุ่มใหญ่ไฟแรงสูงเข้ามาจูบเปิดเกมรักที่เร่าร้อน
{ฮึก...ฮึก...}
จีอาน่าได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของแม่ แม้จะไม่เห็นหน้า แต่เธอก็เห็นทุกก้าวที่แม่เดิน เห็นพนักงาน และผู้คนที่เดินผ่านไปมา รวมไปถึงวารินที่วิ่งตรงดิ่งเข้ามาหา
{กะ...เกิดอะไรขึ้นคะคุณฮาน่า}
{เธอไปพักเถอะวา}
{แต่...} วารินรีบเดินตามไปอย่างรู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่เคยเห็นบุคคลที่รักและเคารพดุจมารดา ร้องไห้แบบนี้มาก่อน
{ฉันอยากจะอยู่คนเดียว} ฮาน่าหันไปบอก ก่อนจะเดินตรงไปยังรถส่วนตัว แล้วขับออกไปด้วยความเร็ว
จีอาน่าน้ำตาไหลเป็นทาง ได้ยินเสียงร้องไห้ของมารดาดังขึ้นอยู่ตลอด จนกระทั่งรถของท่านเสียหลักพุ่งเข้าชนกับรถอีกคันที่อยู่บนสะพานเสียงดังสนั่น จากนั้น...ภาพทุกอย่างก็ตัดไป
“กรี๊ดดดด แม่! แม่! ฮือๆๆๆ” จีอาน่ากรีดร้องสุดเสียง และทุบพวงมาลัยอย่างบ้าคลั่ง
คมสันที่ขับรถตามมาแล้วเห็นรถของบุตรสาวเจ้านายจอดอยู่ข้างทาง จึงสั่งให้ลูกน้องจอดรถ แล้วรีบวิ่งเข้าไปดู เขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังเล็ดลอดออกมาจากด้านใน จึงล้วงรีโมทกุญแจสำรองมาปลดล็อคประตูรถ แล้วดึงร่างบางที่สั่นเทาเข้ามากอดปลอบ “คุณหนูครับ ผมอยู่นี่แล้ว”
“ฮือๆๆ อาคม แม่...แม่...” จีอาน่ากอดซบร่างสูงของคนสนิทได้เพียงครู่ ก็วูบหมดสติไป
“ศร! มาขับรถคุณหนูเอาไปจอดทิ้งไว้ใกล้ๆ กับสนามบิน แล้วเช็ดรอยนิ้วมือของตัวออกให้หมด อ้อ! ไม่ต้องบอกใครนะว่าเจอคุณหนูที่นี่” คมสันสั่งการเสร็จ ก็อุ้มบุตรสาวของเจ้านายเข้าไปในรถตู้ จากนั้นก็ขับตรงไปยังบ้านพักตากอากาศของตัวเองที่อยู่นอกเมือง