บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

หากต้องจากลาโลกนี้ไปอยู่กับเพื่อนรักอย่างแม่นมสุ่ยเฟิงบนสวรรค์ชั้นฟ้า นางก็อยากจะมีความมั่นใจว่า ทุกคนเคารพเชื่อฟังเหม่ยฟางและไม่สร้างปัญหาใดๆ ให้กับบ้านต้าหวัง อย่างไรเสียคุณหนูบุญธรรมของบ้านก็คงจะต้องอยู่ที่นี่ไปชั่วชีวิต เพราะนางนั้นไร้วาสนา คงไม่มีคู่ครองเช่นสตรีอื่น

สาเหตุสำคัญนั้นก็คือดวงชะตาของนางเอง ใครเล่าจะยอมร่วมหอลงโลงกับสตรีที่มีดวงอัปมงคล มารดารูปโฉมงดงามราวกับเทพธิดาได้เสียชีวิตจากการให้กำเนิดเหม่ยฟาง ซินแสทำนายไว้ว่า หากทารกเป็นเพศชายจะยิ่งใหญ่เหนือผู้คนทั้งปวง แต่หากทารกเกิดมาเป็นเพศหญิง จะสร้างความฉิบหายให้บิดามารดาและคู่ครองในอนาคต

แม่นมสุ่ยเฟิงเคยได้ปรึกษากับซินแสเพื่อหาทางออกให้กับเรื่องนี้ แต่กลับได้คำตอบเพียงว่าเหม่ยฟางควรละทางโลกและถือพรหมจรรย์ หากแต่งงานออกเรือนก็ห้ามยุ่งเกี่ยวผูกสัมพันธ์ทางกาย

แต่ชายใดเล่าจะอดทนต่อความงามอันเย้ายวนของนางได้ ที่สำคัญคือไม่มีแม่สื่อคนใดกล้าพอที่จะจัดการเป็นธุระหาคู่ให้ เพราะหากตระกูลที่แต่งนางเข้าบ้านเกิดสิ่งใดก็ตามที่ไม่ใช่เรื่องมงคล บรรดาแม่สื่อที่กล้ารับงานก็คงจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง

ปัญหาเรื่องบิดามารดาของสาวงามประจำบ้านต้าหวังนั้นหายห่วงแล้ว เนื่องจากมารดาเสียชีวิตในวันที่เด็กทารกลืมตาดูโลก ฝ่ายบิดาที่หายสาบสูญก็พ้นเคราะห์ไปโดยปริยาย แต่เพื่อป้องกันเหตุยุ่งยากในอนาคต ซินแสจึงได้ประกาศว่าเหม่ยฟางนั้นเป็นเด็กกำพร้าและฝากฝังแม่นมสุ่ยเฟิงดูแลเสียให้หมดเรื่อง

หญิงชราถอนหายใจด้วยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงเวลาปล่อยวางเรื่องทุกอย่างได้เสียที นางส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเมื่อเหลือบไปเห็นสาวน้อยที่ตนกำลังเป็นห่วงสวมชุดทะมัดทะแมงแอบหนีออกจากบ้าน ด้วยรู้ดีว่าป่วยการที่จะห้ามปราม ตันหยงจึงเลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นให้หมดเรื่องไป

ร่างบางทิ้งตัวนอนลงบนผืนหญ้า ทุ่งกว้างบนภูเขาแห่งนี้เป็นของนาง ทุกครั้งที่เหนื่อยหรือไม่สบายใจ เหม่ยฟางมักจะปลีกตัวมาที่นี่ แม้ท่านเสนาบดีจะดุหรือห้ามอย่างไร นางก็แอบออกมาจนได้ ชายชราส่ายหน้าทุกครั้งที่เห็นนางหมดสภาพกลับมาบ้าน ท้ายที่สุดจึงต้องปล่อยเลยตามเลย

“เป็นสาวเต็มตัวแล้ว หัดรักษากิริยาบ้าง อย่าทำให้ข้าต้องอับอายที่เลี้ยงดูเจ้าจนเติบใหญ่ ให้ได้ครึ่งหนึ่งของคุณหนูผิงอันก็ยังดี” คำพร่ำสอนของแม่นมสุ่ยเฟิงยังคงดังก้องอยู่ในหู นางคิดถึงหญิงชราเหลือเกิน แม้จะแอบหนีออกมาเที่ยวบ่อยๆ ทว่าแม่นมก็ไม่เคยโกรธอะไรนางจริงจัง

เหม่ยฟางได้รับฟังข่าวลือว่าผิงอันนั้นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ด้วยไม่สามารถให้กำเนิดทายาทสืบสกุลได้ แม้ว่าองค์ชายใหญ่นั้นจะมีลูกเต็มบ้านเต็มเมือง ทว่ากลับไร้ซึ่งบุตรชาย ภาระหนักจึงตกอยู่ที่องค์ชายหวังจื่อเทียนและผิงอัน แต่ดูเหมือนว่าฟ้าเบื้องบนจะยังคงไม่ประทานของขวัญล้ำค่าให้ในเร็ววันนี้

“จะช่วยอย่างไรได้ นอกจากจะจัดขบวนพาไปขอพรที่วัดนอกเขตเมือง หวังว่าเหล่าเทพเซียนบนสวรรค์ชั้นฟ้าจะเมตตาต่อท่านพี่เสียที” เหม่ยฟางถอนหายใจยาว ชีวิตของนางช่างยุ่งยากเหลือเกินในช่วงนี้ คนรับใช้ก็ไม่ยอมทำตามที่นางสั่งหากไม่มีแม่บ้านอาวุโสอย่างตันหยงจับตามองอยู่ใกล้ๆ

ทุกคนที่มาใหม่พากับกระซิบกระซาบถึงเรื่องราวของเหม่ยฟาง หลายคนรู้ดีกว่าเจ้าตัวเสียอีก ไม่นานมานี้มีคนกล่าวหาว่านางเป็นภรรยาลับของท่านเสนาบดี แต่อ้างว่าเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อไม่ให้ใครติฉินนินทาเรื่องอายุที่แตกต่าง เมื่อเวลาผ่านไป ข่าวนี้ก็ถูกลืมเลือนจนสิ้น เหตุสำคัญคือเจ้าของบ้านสูงวัยนั้น ดูเป็นคนมีเมตตาและไม่น่าจะทำอะไรที่เสื่อมเสีย

บางคนก็ว่านางเป็นลูกหลานของอดีตแม่บ้านชราอย่างตันหยง แต่เมื่อเพ่งพินิจดูใบหน้าที่ไม่มีส่วนไหนคล้ายคลึง คำกล่าวอ้างนี้จึงเริ่มจางหายไป เปลี่ยนเป็นสันนิษฐานว่านางคือทายาททางสายเลือดของแม่นมสุ่ยเฟิงที่ลาโลกไปแล้ว นับโชคดีที่ทุกคนไม่ได้ปัญญาทึบไปเสียหมด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel