บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

“ดอกไม้เหล่านี้ช่างดูไร้ชีวิตชีวาเสียเหลือเกิน ถ้าหากพวกเจ้าหาที่ดีกว่านี้ไม่ได้ ข้าจะไปเก็บเองเสียให้หมดเรื่อง”

เสียงบ่นของคุณหนูเล็กผู้ทำหน้าที่ดูแลบ้านต้าหวังเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรง คนรับใช้หน้าใหม่จำนวนหนึ่งทำงานอย่างขอไปที ทำเอาเหม่ยฟางอดชักสีหน้าไม่ได้

“ไม่เอาน่าเหม่ยฟาง อย่าทำสีหน้าเช่นนั้น ถ้าแม่นมสุ่ยเฟิงเห็นเข้าละก็ คงรีบลงจากสวรรค์มาดึงหูเจ้าจนยานแน่ๆ เป็นถึงคุณหนูเล็กแห่งบ้านต้าหวัง ควรต้องสำรวมให้มากกว่านี้”

ท่านเสนาบดีเจิ้งอี้เหยียนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี โดยปกติแล้วหญิงสาวนับเป็นกุลสตรีที่ดีอย่างหาใครเปรียบมิได้ แต่วันนี้กลับมีอาการร้อนรนและควบคุมตนเองได้ยาก

ความตื่นตระหนกในวันนี้เกิดขึ้นเพราะคนในครอบครัวที่จากไปนานแสนนานกำลังจะกลับมาเยือนบ้านเป็นครั้งแรก หลังจากที่ออกเรือนไปนานกว่าห้าปี เสนาบดีชราเองก็แทบจะข่มความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ นานมากแล้วที่ไม่ได้พบผิงอัน ลูกสาวผู้อับโชค ไร้ซึ่งทายาทสืบสกุล

“ต้องขออภัยท่านพ่อด้วยที่มิได้สำรวมกิริยา สองสามวันมานี้เหนื่อยเหลือเกิน ท่านพี่ผิงอันแจ้งเรื่องการเดินทางอย่างกะทันหันเช่นนี้ เกรงว่าจะเตรียมตัวต้อนรับได้ไม่ดีพอ ข้าเพียงต้องการให้ท่านพี่ได้รับความสะดวกสบายหลังจากการเดินทางที่ยาวนานก็เท่านั้นเอง”

หญิงสาวบ่นเสียงอ่อนขณะประคองชายชราเข้าห้องพัก ก่อนจะขอตัวไปสั่งงานอีกเล็กน้อยเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้

เสียงหวานราวกับน้ำผึ้งออกคำสั่งต่อคนรับใช้และคนงานในบ้านให้ปรับปรุงและเติมแต่งสิ่งต่างๆ ให้งดงามราวกับเวลาไม่ได้ล่วงผ่านไปกว่าห้าปี เหม่ยฟางอยากให้คุณหนูผิงอันหรือพี่สาวบุญธรรมของนางมีความสุข หลังจากที่ต้องไปอยู่โดดเดี่ยวต่างบ้านต่างเมืองอยู่นาน

“ทุกอย่างพร้อมแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนได้ พรุ่งนี้ยามสายขบวนของคุณหนูใหญ่คงจะมาถึง จงนอนหลับเอาแรงกันให้เต็มที่ เพราะหลังฟ้าสางเรายังมีงานรออยู่อีกมาก” เหม่ยฟางยังคงสั่งการอีกหลายอย่าง ก่อนจะอนุญาตให้ทุกคนกลับไปพักผ่อนหลังจากตระเตรียมงานมาแล้วทั้งวัน

“เดี๋ยวนะ แจกันใบโตนั่นเปลี่ยนไปวางข้างโต๊ะยาวน่าจะดูเหมาะสมกว่า” บ่าวใหม่หลายคนดูเอือมระอาในความละเอียดถี่ถ้วนนี้ ต่างกับบ่าวชราหลายคนที่ยิ้มอย่างเอ็นดู

เหม่ยฟางโล่งอกที่จัดการทุกอย่างได้ทันเวลา ใบหน้าเรียวงามนั้นดูอ่อนล้าอยู่ไม่น้อย นี่เป็นงานใหญ่งานแรกที่นางต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากคุณแม่บ้านชราต้องการฝึกฝนให้นางมีความชำนาญ

“ข้าได้ยินมาว่านางก็เป็นแค่เด็กกำพร้าที่ถูกรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ท่านเสนาบดีสั่งให้ทุกคนเรียกนางว่าคุณหนูเหม่ยฟาง สะสวยอยู่ก็จริงแต่เบ่งอำนาจเก่งเสียเหลือเกิน”

อาหลง บ่าวชายใจหญิงตั้งใจบ่นเสียงดังเพื่อให้คนงานและสาวใช้หน้าใหม่หลายคนได้ยิน ทว่านั่นรวมไปถึงคุณแม่บ้านอาวุโสที่นั่งชมผลงานของเหม่ยฟางอยู่ไม่ไกลนัก

คุณแม่บ้านตันหยงเฝ้ามองเหตุการณ์ทุกอย่างมาโดยตลอด แม้มีสายฝ้าฟาง แต่หูนั้นยังใช้การได้ดีกว่าคนรุ่นหนุ่มสาวเสียอีก ไม้เท้าประดับหยกราคาแพงที่ท่านเจ้าของบ้านให้เป็นรางวัลหลังจากรับใช้มานานกว่าแปดทศวรรษ ขยับอยู่ในองศาพอเหมาะสำหรับการพยุงตัวให้ลุกขึ้น สาวใช้คนหนึ่งตรงเข้าประคอง แต่มือเหี่ยวย่นนั้นยกห้ามไว้อย่างถือตัว

“เจ้าชื่ออาหลงใช่หรือไม่”

เสียงแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยอำนาจกล่าวขึ้น แม่บ้านชราไม่เสียเวลารอคำตอบจากชายหนุ่มผู้โชคร้าย นางสั่งการให้คนรับใช้เก่าแก่หิ้วปีกอาหลงออกจากบ้านต้าหวัง การกระทำนี้สร้างตัวอย่างให้กับคนที่เหลือได้เป็นอย่างดีว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรเอ่ย

“ไหนมีใครอยากจะพูดจาออกความเห็นที่ไม่เข้าหูคนแก่อย่างข้าอีกก็ว่ามา...ข้าก็ว่าอย่างนั้นแหละ ทุกคนแยกย้าย!”

คุณแม่บ้านตันหยงยิ้มมุมปาก แม้ปัญหาจะคลี่คลายไปแล้วก็ตาม แต่นับวันพวกเด็กรับใช้ที่เข้ามาทดแทนคนที่เกษียณหรือแก่ชราดูจะควบคุมยากมากกว่าสมัยก่อน ยังดีที่ตอนนี้นางยังคอยระวังหลังให้กับเหม่ยฟางได้อยู่บ้าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel