บท
ตั้งค่า

บทที่ 16

“ให้เป็นไปตามนั้น! ต่อให้นางมีเสน่ห์ยั่วยวนราวกับนางสรรค์ ข้าก็อดใจได้หากรางวัลนั้นคือการได้หย่าขาดและเป็นอิสระจากความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง ขอบคุณสวรรค์ที่ดลใจให้เจ้าเสนอทางออกที่ตรงกับใจของข้า”

หวังจื่อเทียนดีใจอยู่ได้ไม่นานก็เริ่มเสียกิริยาอีกครั้ง ห่างออกไม่ไกลนักปรากฏร่างเล็กสวมชุดบุรุษสีน้ำตาลเข้มดูคุ้นตา ลำคอของเขาแห้งผากราวกับคนขาดน้ำ เมื่อนางโอบกอดคนตัวโตที่เพิ่งลงจากม้าได้เพียงอึดใจเดียว

แม้มองจากระยะที่อยู่ไกลพอสมควร ยังรู้สึกได้ว่าเหม่ยฟางและลู่เหวินเจี๋ยมีความสนิทสนมกันอยู่มาก อารมณ์โกรธแล่นริ้วไปทั่วใบหน้า คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเผยความรู้สึกขุ่นเคืองที่มิอาจหลบซ่อนต่อไปได้อีก รอยยิ้มเยาะเย้ยหยันของผิงอันช่วยทวีความโกรธให้เพิ่มพูนจนเกินกว่าขีดจำกัดที่เขาจะรับไหว

หวังจื่อเทียนได้ตัวสาวใช้โฉมงามอย่างอาโปมาตามต้องการก็จริง แต่นางก็พ่วงสตรีที่เขารังเกียจอย่างเหม่ยฟางมาด้วย ผิงอันเลิกล้มความพยายามที่จะให้พบกับน้องสาวของนางทันทีที่เขาได้เอ่ยปากขออาโปกลับเมืองหลวง นับเป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องทนมองนางผู้ที่จะทำให้เขาผิดต่อหลักการของตนเอง

“เหม่ยฟางเป็นนายของสาวใช้อาโป หากท่านยังสนใจในตัวของนางอยู่ก็ควรรักษาน้ำใจของผู้เป็นนายด้วย ข้าไม่เข้าใจเลยว่าท่านเห็นดีอะไรในตัวนาง ร้อยวันพันปีมิเคยเอ่ยปากคุยกับข้าก่อน แต่กลับยอมฝืนใจตนเองเพื่อขอให้สตรีต่ำศักดิ์เดินทางกลับเมืองหลวงด้วยกัน”

ผิงอันฝืนเอ่ยถ้อยคำที่บาดหูเพื่อให้ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผน หวังจื่อเทียนยังไม่ควรทราบในตอนนี้ว่าแท้จริงแล้วสตรีรูปงามผู้นั้นไม่ใช้สาวใช้ธรรมดา

ผิงอันไม่คิดแก้ไขความจริงและปล่อยให้ทุกคนในบ้านต้าหวังเข้าใจผิด คิดไปเองว่าองค์ชายรองปรารถนาในตัวสาวใช้ แม่บ้านตันหยงเองก็เห็นดีด้วยเพราะไม่ต้องการให้เรื่องนี้ไปถึงหูของเสนาบดีเจิ้งอี้เหยียน หากประมุขของบ้านเกิดระแคะระคายเข้า แผนที่วางก็คงจะล้มไม่เป็นท่า เพราะชายชราเอ็นดูเหม่ยฟางราวกับเป็นเลือดเชื้อไขของตน

หวังจื่อเทียนตระหนักว่าตนมิสามารถระงับความโกรธที่กำลังปะทุขึ้นได้ นอกจากวาจาส่อเสียดของผิงอันแล้ว ยังมีภาพตำตาของอาโปและชายผู้หนึ่งที่อาจดำรงสถานะคนรักของนาง

เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ตนเองเดือดดาลจนใช้อารมณ์เหนือเหตุผล องค์ชายรองจึงได้ตัดสินใจขี่ม้าล่วงหน้าไปยังเมืองหลวงทันทีโดยไม่รอให้ขบวนพร้อมออกเดินทาง เขาเลือกกลับไปสงบสติอารมณ์ที่ตำหนักเหลียนฮวาและภาวนาให้ช่วงเวลาแห่งการรอคอยจบสิ้นลงเสียที

“ดีใจนักที่ท่านอามาถึงก่อนที่ข้าจะออกเดินทาง”

เหม่ยฟางดีใจท่วมท้นที่ลู่เหวินเจี๋ยเดินทางมาทันได้เวลา นางฝากฝังให้อดีตแม่ทัพช่วยดูแลบิดาตามโอกาสอำนวย เนื่องจากตนเองต้องเดินทางไปยังเมืองหลวงกับพี่สาว

เขาส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย เสนาบดีเจิ้งอี้เหยียนชรามากแล้วและต้องการการดูแลจากคนในครอบครัว ร่างสูงถอนหายใจยาวเมื่อสำนึกได้ว่าผิงอันยังคงทำอะไรโดยไม่คิดให้รอบคอบเช่นเดียวกับเจ็ดปีที่ผ่านมา

“ข้ามีเรื่องสำคัญต้องสนทนากับคุณหนูผิงอัน ไปบอกนางว่าข้าต้องการพบเดี๋ยวนี้”

อดีตแม่ทัพลู่เหวินเจี๋ยเอ่ยสั่งคนสนิทเสียงเข้ม ก่อนจะหันไปกำชับอาโปเรื่องดูแลเหม่ยฟางมิให้ขาดตกบกพร่อง ทั้งยังบอกถึงช่องทางการติดต่อหากต้องการความช่วยเหลือในอนาคต

“เจ้านี่ยังเห็นแก่ตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะผิงอัน”

ลู่เหวินเจี๋ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดเมื่อคุณหนูใหญ่แห่งบ้านต้าหวังปรากฏตัวขึ้น นางมองปราดเดียวก็พบว่าเขาเองก็มิได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย รูปร่างสูงใหญ่กำยำยังคงหนาแน่นด้วยมัดกล้าม ใบหน้าหล่อเหลาถูกปกคลุมด้วยหนวดเคราครึ้มเช่นเดิม และเมื่อฟังด้วยหูก็ถึงกับต้องกลั้นหายใจ เมื่อพบว่าฝีปากของเขาก็ยังคงความคมไว้ราวกับมีดแล่เนื้อชั้นดี

“ท่านแม่ทัพโปรดระวังคำพูด ตอนนี้ข้าไม่ใช่คุณหนูผิงอันแห่งบ้านต้าหวังอีกแล้ว แต่เป็นถึงคู่ชีวิตขององค์ชายหวังจื่อเทียน ต่างจากเจ็ดปีก่อนที่เราพบกันโดยสิ้นเชิง”

ผิงอันข่มความไม่พอใจและกล่าวเตือนคู่สนทนาให้เลือกใช้วาจาที่เหมาะสม ทว่าลู่เหวินเจี๋ยกลับไม่ใส่ใจคำขู่นั้น ทั้งยังเดินตรงเข้ามาจับร่างบางก่อนจะเขย่าตัวนางอย่างแรง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel