บท
ตั้งค่า

จุดเปลี่ยน(2)

“พี่ว่า…”

ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ภาคินเดินไปที่มุมห้องก่อนจะล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดเล็กน้อยเพื่อทำความสะอาด ก่อนจะรีบรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของพยาบาลที่ช่วยดูแลพ่อของเขาอยู่ในตอนนี้

“สวัสดีครับ”

ภาคินทักทายแต่แล้วใบหน้าของเขาก็ซีดเซียว ความตื่นตระหนกฉายชัดจนทำให้หญิงสาวนั้นพลอยไม่สบายใจไปด้วย

“ครับ เดี๋ยวผมจะรีบไป”

ภาคินคิ้วเข้มขมวดแน่น เขาสบตาคนรักก่อนที่จะถอนลมหายใจยาวออกมา คุ้มขวัญเห็นเช่นนั้นจึงตรงเข้าไปสวมกอดอีกฝ่าย เธอเงยหน้ามองเขาก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“มีอะไรหรอคะ”

ชายหนุ่มนี่เงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยตอบ

“พยาบาลตามให้พี่ไปดูพ่อ ไปด้วยกันไหม”

หญิงสาวพยักหน้า นี่ก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว เธอคงไม่สามารถปล่อยอีกฝ่ายให้เดินทางไปยังโรงพยาบาลคนเดียวได้

ทั้งสองเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านพักมากนัก ทั้งสองหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้อง ICU ก่อนที่พยาบาลจะเชิญทั้งคู่เข้าไปด้านใน

สายระโยงระยางเต็มเตียง ชีพจรเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ พยาบาลสาวมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก หน้าที่บอกข่าวร้ายกับญาติผู้ป่วยคือสิ่งที่เธอไม่เคยคิดอยากจะทำ แต่เธอจำเป็นต้องแจ้งกับพวกเขาตามตรง

“คนไข้ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแล้วค่ะ”

คนเป็นลูกหลับตาลงก่อนจะสูดลมหายใจลึกเพื่อตั้งสติ คุ้มขวัญหันมองคนรักก่อนจะบีบกระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้น

พยาบาลสาวเดินออกไปทิ้งให้ทั้งสองได้ร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย ภาคินนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อเขาจับมือที่เหี่ยวย่นของอีกฝ่ายทาบลงบนแก้ม

“พ่อครับ ผมมาแล้วนะ พ่อไม่ต้องเป็นห่วงอะไรนะ พ่อพักผ่อนเถอะพ่อเหนื่อยมามากพอแล้ว”

คุ้มขวัญน้ำตาไหล เธอหันหลังก่อนแอบปาดหยาดน้ำที่ไหลอาบแก้มทิ้ง นี่ไม่ใช่เวลาแสดง ความอ่อนแอ เธอควรจะเป็นหลักพักพิงให้กับคนรัก

ทั้งคู่ยืนมองเจ้าหน้าที่กำลังถอดอุปกรณ์ออกจากร่างที่ไร้ลมหายใจของผู้เป็นพ่อ ภาคินดวงตาแดงก่ำเขาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน

“เดี๋ยวพี่ต้องไปติดต่อวัด ขวัญจะไปด้วยกันไหม”

นี่ก็ดึกมากแล้ว เขากลัวว่าหญิงสาวจะเหนื่อยจากงานมาทั้งวัน จึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอกลับไปนอนที่บ้านแต่คุ้มขวัญกับสายศีรษะ ในเวลาแบบนี้เธอจะข่มตานอนได้อย่างไร ภาคินกำลังทุกข์ใจ ความทุกข์ของเขาก็เปรียบเสมือนความทุกข์ของเธอเช่นกัน

“ขวัญจะไปกับพี่ค่ะ”

ภาคินยกยิ้มบางเบา ทั้งสองจับจูงกันก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน เพื่อเตรียมเอกสารต่างๆที่จำเป็นต้องใช้

“พี่พักผ่อนหน่อยไหมคะ”

คุ้มขวัญได้ยินว่าวันนี้เขาต้องทำงานคนเดียวทั้งวัน คงจะเหนื่อยกว่าเธอไม่รู้กี่เท่า หญิงสาวเห็นท่าทางเหนื่อยล้าของคนรักก็รู้สึกสงสารเขาจับใจ

ทั้งอีกฝ่ายยังสูญเสียผู้เป็นพ่อกะทันหัน เธอเองก็ไม่รู้จะปลอบใจอย่างไรนอกจากอยู่เคียงข้างเขาแบบนี้

ทั้งสองต้องรอจนกว่าจะเช้าถึงจะจองศาลาวัดได้ หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น ภาคินก็รีบมาเตรียมงานศพ โชคดีที่ได้ยศวินนั้นช่วยเหลือเรื่องเงินค่าจัดงาน ทำให้ช่วยลดภาระในส่วนนี้ไปได้บ้าง

งานศพเล็กๆถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้คนที่รู้จักกับพ่อของเขาเดินทางมาไม่ขาดสาย

คุ้มขวัญอยากอยู่ช่วยงาน แต่เพราะพนักงานลาหยุดกะทันหันถึงสามคน ทำให้เธอนั้นไม่สามารถที่จะลางานได้ หญิงสาวจำเป็นต้องกลับมาที่บ้านพักเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ทั้งที่เป็นห่วงภาคินแต่เธอก็ไม่มีทางเลือก

หญิงสาวเดินทางด้วยรถประจำทางก่อนจะลงที่ป้ายหน้าห้างสรรพสินค้า คุ้มขวัญรู้สึกหม่นหมอง เธอแทบจะไม่มีสมาธิทำงาน เพราะมัวแต่เป็นห่วงชายคนรัก ด้านภาคินยังคงอยู่ต้อนรับแขก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆของพ่อสมัยเรียนและเพื่อนที่ทำงานชายหนุ่มนั่งอยู่หน้าโรงศพคอยส่งธูปให้กับผู้ที่มางาน แต่ในขณะที่ผู้คนเริ่มบางตา จู่ๆก็มีชายใส่สูทคนหนึ่งเดินเข้ามา ภาคินไม่รู้สึกคุ้นหน้า คิดว่าเป็นเจ้านายของพ่อจึงรีบลุกขึ้นยืนและยกมือไหว้อีกฝ่าย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel