บทย่อ
คำโปรย คุ้มขวัญไม่คิดไม่ฝันว่าผู้ชายที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา สุดท้ายแล้วจะหักหลังเธอเช่นนี้ หลังจากที่ภาคินรู้ความจริงว่าเป็นหลานชายมหาเศรษฐีก็กลัวว่าผู้เป็นย่าจะรับไม่ได้ที่เขานั้นมีคนรักอยู่แล้ว จึงได้ตัดสินใจยื่นข้อเสนอให้คุ้มขวัญเป็นเพียงภรรยาในเงามืดแลกกับการมีเขาอยู่ในชีวิต และทุกอย่างต้องถูกเก็บเป็นความลับ ห้ามเปิดเผยให้ใครรู้โดยเด็ดขาด! /*/*/*/*/ “เรื่องระหว่างเราให้จบแค่นี้เถอะนะคะ” เธอไม่อยากรั้งเขาไว้ บางทีหลังจากนี้เขาอาจได้เจอคนดีๆที่คู่ควรก็เป็นได้ หญิงสาวสูดลมหายใจลึกพยายามหลีกเลี่ยงไม่มองหน้าชายหนุ่มเพราะกลัวว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นเธอที่อ้อนวอนรั้งเขาเอาไว้ คุ้มขวัญรู้สึกเจ็บปวดใจ น้ำตาพาลจะไหลออกมา แต่เธอก็พยายามเข้มแข็งต่อหน้าภาคิน เพื่อที่เขาจะได้จากไปโดยไม่ต้องกังวล “ไม่มีทาง พี่จะไม่ยอมให้เรื่องของเราจบลงง่ายๆแบบนี้หรอก” “ฉันไม่ต้องการเป็นเมียเก็บใคร” น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้น สายตาเย็นชาจับจ้องใบหน้าหมดจดของภาคิน เธอรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ คงตั้งใจเก็บเธอไว้เป็นนางบำเรอ อยากมาหาเมื่อไหร่ก็มา อยากจะทิ้งขว้างอย่างไรก็ได้ ไม่ต้องผูกมัด ไม่ต้องเปิดเผย คิดเช่นนั้นแล้วน้ำตาหญิงสาวก็เอ่อคลอหรือแท้จริงแล้วเธอมีค่าเพียงเท่านี้
รักในวันที่ลำบาก
ตอนที่ 1
รักในวันที่ลำบาก
“คิน เดี๋ยวเช็คเครื่องให้ลูกค้าหน่อยนะ”
ภาคินปาดเหงื่อบนหน้าผากก่อนจะตะโกนตอบกลับไป
“คันไหนพี่”
“คันสีขาวตรงหน้าไง เช็คเครื่องด้วยเดี๋ยวพี่มา ไปหาข้าวกินก่อน”
อีกฝ่ายเอ่ยก่อนจะเดินลงมาจากชั้นลอย และยื่นเงินให้ภาคินลูกน้องหนุ่มที่ทำงานที่นี่มานานหลายปี
ยศวินเอ็นดูภาคินมากเพราะอีกฝ่ายอ่อนน้อมถ่อมตน ทั้งยังซื่อสัตย์สุจริต ยิ่งไปกว่านั้นยังทำงานเก่ง บวกกับใบหน้าหล่อเหลาทำให้มีหญิงสาวเข้ามาใช้บริการที่นี่บ่อยครั้งเพราะอยากเจอหน้าช่างหนุ่ม
ลูกค้ามากกว่าครึ่งนั้นมาใช้บริการที่นี่ก็เพราะภาคินซึ่งเขาก็ยอมรับว่าอีกฝ่ายมีเสน่ห์เหลือล้น เพียงแค่ยิ้มก็เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆได้ไม่ยาก
ยศวินเดินข้ามถนนไปยังร้านขายข้าวซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทิ้งให้ภาคินอยู่กับลูกค้าสาวเพียงลำพัง หญิงสาวนั่งไขว้ห้างอยู่ไม่ไกล พร้อมทั้งส่งสายตายยั่วยวนชายหนุ่มจนเขารู้สึกอึดอัด
“ช่างหล่อจังเลยนะคะ หล่อแบบนี้มีแฟนแล้วแน่เลย”
ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอีกฝ่ายว่าแท้จริงแล้วเขานั้นมีคนรักแล้วหรือยัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ตอบ หญิงสาวก็หลงคิดว่าเขาคงไม่มีใคร เธอลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาพร้อมทั้งก้มมองอีกฝ่ายจนหน้าอกอวบล้นทะลักออกมาอวดโฉมต่อหน้าภาคิน
ชายหนุ่มรีบถอยหนีก่อนที่เขาจะยกยิ้มจืดเจื่อน ภาคินไม่รอช้ารีบเช็คเครื่องยนต์เพื่อตรวจหาความผิดปกติก่อนจะรีบแจ้งลูกค้าว่ารถของเธอต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง และแนะนำให้อีกฝ่ายทิ้งรถไว้ที่นี่ก่อน
“ไปส่งหน่อยได้ไหม”
เธออ้อนพร้อมกับตรงเข้าไปควงแขนชายหนุ่ม ความนุ่มหยุ่นถูไถแขนแกร่งไปมา ภาคินรู้สึกอึดอัด ก่อนที่เขาจะค่อยๆดึงแขนหญิงสาวออกอย่างสุภาพ
“เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่ให้นะครับ”
หญิงสาวสะบัดตัวไปมารู้สึกขัดใจที่ชายหนุ่มนั้นไม่ยอมไปส่ง เธอเผลอแสดงความเอาแต่ใจออกมาและยังใช้ความเป็นลูกค้ากดดันอีกฝ่ายเพื่อความต้องการของตัวเอง
“อะไรกัน ไปส่งแค่นี้ก็ไม่ได้”
ขณะที่ภาคินนั้นคิดไม่ตกว่าควรจะทำอย่างไร ยศวินก็กลับเข้ามาในอู่ทันท่วงที เขาเห็นลูกค้าสาวมาเกาะแกะลูกน้องก็รีบเสนอตัวไปส่งอีกฝ่ายแทน แต่หญิงสาวกลับปฏิเสธพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ
“กลับเองก็ได้ค่ะ รถเสร็จเมื่อไหร่ก็โทรมาด้วยแล้วกัน”
หญิงสาวเอ่ยก่อนสะบัดหน้าเดินออกไปโบกแท็กซี่อยู่หน้าถนน ภาคินถอนหายใจยาวก่อนที่เขาจะเหลือบตามองเจ้านายหนุ่มที่ยื่นข้าวมาให้
“นี่บ่ายโมง เลยเวลากินข้าวแล้ว”
เจ้านายเอ่ยกับลูกน้องหนุ่มก่อนที่จะแยกตัวขึ้นไปชั้นบน ภาคินล้างมือล้างหน้าก่อนจะมานั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะหลังร้าน ที่นี่เป็นอู่ซ่อมรถขนาดกลาง มีช่างเพียงสามคนแต่เพราะวันนี้อีกสองคนลาหยุดกระทันหันทำให้ภาคินต้องรีบเร่งทำงานจนลืมเวลา
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนส่งข้อความหาแฟนสาว จากนั้นเขาจึงปิดโทรศัพท์และกลับไปงานต่อจนเสร็จสิ้น ก่อนเลิกงานเพียงสองชั่วโมง ยศวินลงมาคุยกับลูกน้องหนุ่ม ระบายปัญหาชีวิตให้ฟัง