ตอนที่ 1 คนนี้แฟนฉัน (2)
“ของจริง” มัตสยามองอย่างไม่อยากจะเชื่อ แถมชื่อที่เพื่อนรักบันทึกไว้ ก็โคตรเลี่ยน
“แน่นอน แกไม่เชื่อก็ช่าง แต่หลังจากเรียนเสร็จเราไปฉลองกัน” ญารินดาบอกพลางเก็บโทรศัพท์ แล้วหยิบกระเป๋าเงินใบเล็กออกมาถือไว้
“ฉลองอะไร แล้วมีเงินเหรอ” มัตสยาถาม เพราะคนที่ไม่เหลือใครเลยอย่างญารินดาต้องประหยัดกินประหยัดใช้ขนาดไหนเธอรู้ดี แม้จะทำงานพาร์ทไทม์ไม่เคยขาดก็เถอะ
“วันนี้เงินเดือนออก พอให้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายได้นิดหน่อย”
“หมูกระทะ” มัตสยาเสนอเมนูสุดฮิต ที่อิ่มแต่ราคาสบายกระเป๋า
“จัดไปอย่าให้เสีย เริ่มจากตอนนี้ก่อนเลย จะกินอะไรเจ้เลี้ยงเอง” ญารินดาแกว่งกระเป๋าเงินไปมาพลางยักคิ้ว
“แม่เจ้า ฉันต้องเชื่อแกแล้วจริง ๆ ใช่ไหม” มัตสยาเริ่มจะไขว้เขว หลังจากที่ก่อนหน้ายังเชื่อหมดใจว่า ยังไงเพื่อนมันก็ต้องเพ้อเจ้อแน่ ๆ
“แล้วแต่เลยจ้ะ เอาที่สบายใจ ว่าแต่จะกินอะไรจะไปสั่งแล้วเนี่ย ชักช้าเดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทันกันพอดี” ญารินดาหันมาชักสีหน้าใส่เพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก
“งั้นก็เหมือนเดิมละกัน”
ญารินดาพยักหน้ารับ เพราะเหมือนเดิมของเพื่อนรักก็คือข้าวผัด ซึ่งจะข้าวผัดอะไรก็ได้ นางกินได้หมด แล้วเดินไปสั่งอาหาร ส่วนมัตสยาก็รับหน้าที่ซื้อน้ำแล้วกลับมานั่งจองโต๊ะรอ
หลังจากเรียนเสร็จ ทั้งสองสาวที่พักอยู่ด้วยกันก็กลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะออกมาร้านหมูกระทะเจ้าประจำที่อยู่ไม่ไกลจากห้องพักมากนัก
“ทำไมจู่ๆ พี่แดนถึงมาขอแกเป็นแฟนวะ” มัตสยาเอ่ยขึ้นขณะนั่งรอหมูในกระทะสุก
“อืม...” ญารินดาเงยหน้าคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมายิ้มเผล่ให้เพื่อน “ไม่รู้สิ ก็ต้องใจตรงกับฉันหรือเปล่าวะ ทำไม หน้าตาอย่างฉันมีผู้ชายมาชอบมันแปลกนักหรือไง”
“ก็เปล่า แต่นี่มันออกจะเหลือเชื่อเกินไปหน่อยไหม ดาวเด่นคณะบริหารเชียวนะแก” ที่ถามไม่ใช่ว่ามัตสยาอิจฉา แต่กลัวว่าอีกฝ่ายจะมีอะไรแอบแฝงมากกว่า เพราะถ้าแดนไทแอบมีใจให้เพื่อนของเธอ มันก็น่าจะมีการแสดงออกให้เห็นมากกว่านี้ไหม แต่นี่ ทั้งคู่แทบจะไม่เคยเจอหน้ากันแบบตรง ๆ เลยด้วยซ้ำ เพราะตอนเอาของขวัญในวาระต่างๆ ไปให้ ก็เธอนี่แหละที่ออกหน้า
“พี่เขาอาจจะแอบมองและชอบฉันเหมือนที่ฉันแอบมองและชอบพี่เขาไง” ญารินดาให้เหตุผล
มัตสยาพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะคีบผักที่สุกใส่ปาก “ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็ดี แต่พักนี้ได้ข่าวว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งตามตื๊อพี่เขาหนักมาก ไม่ใช่ว่าจะให้แกไปเป็นไม่กันหมาให้หรอกนะ”
มือที่จับตะเกียบกำลังจะคีบชิ้นหมูของญารินดาถึงกับชะงัก “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าพี่เขาก็ต้องสนใจฉันอยู่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ เพราะคนที่ชอบพี่เขาเยอะจะตายไป” หญิงสาวแย้งแม้จะรู้สึกตงิด ๆ นิดหน่อยก็เถอะ
“อืม...มันก็จริง ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอฉลองให้กับความรักของแกละกัน” พูดจบมัตสยาก็ยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นมาชนกับแก้วของเพื่อนรัก
“ขอให้รักนี้ยืนยาวตลอดไป” พูดจบญารินดาก็ปิดปากหัวเราะแก้เขิน
“นี่ ๆ ถ้ารักนี้ยืนยาวจนถึงขั้นแต่งงาน แกต้องเลี้ยงฉันชุดใหญ่กว่านี้ด้วย”
“สาธุ” ญารินดายกมือไหว้ท่วมหัว “ถ้าเป็นจริง จะพาไปเลี้ยงร้านหรูๆ เลย” หญิงสาวบอกอย่างใจป้ำ
“พูดแล้วนะ ห้ามลืม” มัตสยาย้ำยิ้ม ๆ
ญารินดาพยักหน้าเขิน ๆ แล้วถอนหายใจให้กับความเพ้อเจ้อของตัวเองเล็กน้อย เพิ่งจะคบเป็นแฟนกับชายหนุ่มแค่วันเดียว แต่กลับคิดไปไกล เอาให้ผ่านอาทิตย์หนึ่งหรือเดือนหนึ่งก่อนเถอะ
และที่มัตสยาพูดเรื่องไม้กันหมาใช่เธอจะไม่คิด แต่ถ้ามันเป็นจริงแล้วไง ถ้าเป็นไม้กันหมา เธอยินดีกันให้ตลอดชีวิตเลยก็ยังได้
แต่ เอะ! การขอเป็นแฟนในครั้งนี้เหมือนมันขาดๆ อะไรสักอย่างไปหรือเปล่านะ ทำไมเธอเพิ่งมารู้สึก ญารินดานั่งกินไปคิดไป ในหัวลำดับเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์เมื่อตอนเที่ยงนี้แล้วชะงัก
เขาขอเป็นแฟนทั้งที่ไม่ได้บอกรักเธอนี่นา!