บทย่อ
ญารินดาเงยหน้าขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเงียบไป แล้วเธอก็เห็นเขายืนจ้องนาเดียร์ และไอ้ท่าทางที่เหมือนมันจะถ่ายทอดมากับดีเอ็นเอนี่ทำให้เธอทั้งขำและหวาดกลัวว่าจะมีใครสังเกตเห็น คนพ่อที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นพ่อยืนกอดอกเอียงคอจ้องคนเป็นลูกสาว ในขณะที่คนเป็นลูกสาวยืนนกอดตุ๊กตาเอียงคอมองตอบกลับอย่างงงๆ ก่อนทั้งคู่จะกัดที่ริมฝีปากพร้อมกัน นั่นทำให้รู้ว่ากำลังสงสัยอะไรบางอย่างอยู่ เธอจึงรีบไปดึงตัวลูกสาวมากอดเอาไว้ เพื่อที่จะให้ชายหนุ่มเลิกสนใจในตัวนาเดียร์ซะ “นี่ลูกสาว...” “ค่ะ ลูกสาวฉัน เธอคือลูกสาวฉัน” ญารินดารีบพูดแทรกขึ้นราวกับกลัวคำพูดต่อมาของชายหนุ่ม “มีสมใจแล้วนี่นะ แล้วพ่อของเด็กล่ะ” แดนไทยิ้มขืน เพราะมันคือเหตุผลที่หญิงสาวทิ้งไว้ให้เขาแล้วจากไปเฉย ๆ “นาเดียร์คือลูกสาวฉันคนดียว” ญารินดาเงยหน้าขึ้นมองเขาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยาะ แม้จะแค่ในลำคอแต่ก็ได้ยิน “หัวเราะอะไรมิทราบ” “ก็แค่สงสัยว่า เธอทำให้เด็กคนนี้เกิดมาได้ยังไงด้วยตัวคนเดียว” “ฉันจะเก็บของแล้ว ถ้าคุณออกจากห้องก็ปิดประตูให้ด้วยก็แล้วกันนะคะ” ญารินดาตัดบทเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังโดนอีกฝ่ายปั่นหัว
ตอนที่ 1 คนนี้แฟนฉัน (1)
1
คนนี้แฟนฉัน
ญารินดาก้มหน้ามองพื้นพลางเม้มปากด้วยหัวใจที่เต้นแรง ขณะที่มือทั้งสองข้างจับกันแน่น ไม่รู้แดนไทหนุ่มหล่อแห่งคณะบริหารที่เธอแอบรักเขาตั้งแต่แรกเห็น เรียกเธอมาทำไม อย่าบอกนะว่าจะมาสารภาพรัก คิดแล้วก็แอบปรายตามองใบหน้าที่นิ่งเรียบแล้วส่ายศีรษะ
สีหน้าอย่างนี้คงใช่หรอกมั้ง
“น้องชอบพี่ใช่ไหม”
ญารินดาเงยหน้าขึ้นมองคนถามอย่างตกใจระคนอาย ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะถามออกมาตรงๆ แบบนี้
เธออ้ำอึ้งครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า เธอจะปฏิเสธก็เหมือนจะขัดแย้งกับการปฏิบัติตัวของเธอเหลือเกิน
ก็เพราะไม่ว่าจะเป็นวาเลนไทน์ คริสต์มาส ปีใหม่ วันเกิดเธอก็ซื้อของขวัญให้เขาเสมอ แม้จะเป็นการฝากให้ผ่านเพื่อนแต่ก็อยากมีตัวตนให้เขารู้ว่าสิ่งนี้มาจากใครเลยมีการ์ดแนบที่ลงชื่อตัวเองติดไปด้วยตลอด ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดว่าเขาจะรู้ด้วยว่าเธอคือใคร และหน้าตาเป็นยังไง
“คบกันไหม”
“ฮะ!” ญารินดาอุทานเสียงหลง มองผู้ชายตรงหน้าราวกับไม่เคยเห็น พลางส่ายศีรษะเดินถอยหลังโดยอัตโนมัติอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“ปฏิเสธเหรอ ขอโทษด้วยที่รบกวนเวลา” พูดจบก็จะเดินหนีไปเสียอย่างนั้น ญารินดาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งไปดึงแขนเขาเอาไว้
“เดี๋ยวสิคะ พี่พูดจริงเหรอ ไม่ได้มาขอคบเพราะเล่นเกมทำโทษอะไรแบบนี้ใช่ไหมคะ”
ได้ยินคำถามแดนไทถึงกับขมวดคิ้วมุ่น โน้มตัวลงไปเกือบชิดใบหน้าที่แดงระเรื่อนั้น ในขณะที่ญารินดาถึงกับผละ หัวใจเต้นแรงแทบจะวายไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็กลั้นใจพูดในสิ่งที่คิดออกไปต่อ “เพราะถึงจะชอบพี่ยังไงแต่ถ้ามาล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นแบบนี้ ฉันก็ไม่โอเคนะคะ”
“คนอย่างฉันไม่เคยล้อเล่น และไม่คิดจะเล่นเกมไร้สาระแบบนั้นกับใครด้วย” พูดจบก็ยืดตัวขึ้นยืนพร้อมกับถอนหายใจ
ญารินดาพยักหน้าอย่างยอมรับได้ เพราะเท่าที่ติดตามชายหนุ่มมาตลอด พอจะรู้ว่าเขาค่อนข้างเป็นคนที่จริงจัง และไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร แม้จะเนื้อหอมเอามาก ๆ ผู้หญิงหลายคนเข้าหาตลอด แต่เหมือนเขาจะยังไม่เคยได้ข่าวว่าเขาคบใครเป็นตัวเป็นตน
แต่ตอนนี้เขากำลังขอคบกับเธอ นี่มันฝันเป็นจริงชัดๆ
“ถ้าพี่ยืนยันมาอย่างนั้นฉันก็ตกลงค่ะ” ญารินดาตอบรับพร้อมกับพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ ไม่ให้แสดงออกมากจนเกินไป เรียกได้ว่าไว้ลายนิดหน่อย
“โอเค นับแต่วินาทีนี้ไปเราเป็นแฟนกันแล้วนะ งั้นขอแลกเบอร์ แลกไลน์ได้ไหม”
ทันทีที่ชายหนุ่มขอ ญารินดาก็รีบบอกเบอร์ของตัวเองและยื่นคิวอาร์โค้ดแอดเพื่อนให้กับชายหนุ่มสแกนอย่างตื่นเต้น ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มขอเป็นเพื่อน และโทรหาเธอก็รีบบันทึกอย่างไว ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาว่าจะบันทึกชื่อนั้นว่ายังไง เพราะมโนเอามาไว้มานานแล้ว
‘คนนี้แฟนฉัน’
“เอาไว้ค่อยคุยกันนะ” คราวนี้ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาจนปลายจมูกสัมผัสกัน จะถอยหนีก็ทำไม่ได้เพราะโดนแขนเขาโอบที่ไหล่เอาไว้ แล้วกระซิบเรียกที่ข้างหูเบา ๆ ว่า “ที่รัก” จากนั้นก็กดยิ้มมุมปากแล้วผละออก โดยปัดปลายจมูกผ่านแก้มแดงระเรื่อนั้นอย่างจงใจ
“ค่ะ” ญารินดาครางรับ โดยที่สายตาไม่ได้ละจากแผ่นหลังกว้างของแฟนหนุ่ม
ที่รัก! เขาเรียกเธอว่าที่รัก หญิงสาวมือที่ยังถือโทรศัพท์เอาไว้ปิดปากที่เปิดยิ้มกว้างพร้อมกับส่ายตัวไปมา และทันทีที่เดินพ้นสายตา เธอก็กรีดร้องและวิ่งไปหาเพื่อนสนิทที่ตอนนี้น่าจะนั่งรอที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย
“มีอะไรยัยวาย เดินยิ้มคนเดียวอย่างกับคนบ้า” มัตสยาแซวเพื่อนสนิทที่เพิ่งมาถึงเสียงกลั้วหัวเราะ
ญารินดามองหน้าเพื่อนนิ่ง ๆ แล้วปิดปากหัวเราะอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ วางกระเป๋า มองซ้ายมองขวา แล้วรีบทรุดตัวลงนั่ง
“ฉันมีอะไรจะบอก”
“เรื่องร้ายแรงหรือเปล่า ทำไมแกดูรน ๆ ขนาดนี้วะ ดีหรือไม่ดี” มัตสยาถามอย่างเริ่มจะเป็นกังวล
“แก...” ญารินดาเว้นระยะการพูดเล็กน้อย แล้วปิดปากหัวเราะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ แต่เสียงกระซิบรวมไปถึงสัมผัสจากปลายจมูกโด่งนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจ “พี่แดนขอคบกับฉันว่ะ”
ทันทีที่พูดจบมัตสยาก็ยื่นมือไปตบแก้มของเพื่อนเบา ๆ “ตื่นยัง แกนี่คลั่งรักเข้าขั้นแล้วนะเนี่ย”
“ฉันพูดจริง!” ญารินดาบอกเสียงสูง ก่อนจะทำหน้าเซ็ง ๆ เมื่อเพื่อนไม่ยอมเชื่อ ทั้งที่เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่สุดในชีวิตของเธอเลยนะ
“ฉันว่าแกกำลังเอาความฝันกับความจริงมาปนกันหรือเปล่า แกนอนกลางวันมากเกินไป” มัตสยาวินิจฉัย
ญารินดาลุกขึ้นยืนเท้าสะเอว ปรายตามองเพื่อนอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะหยิบมือถือ แล้วโชว์เบอร์โทรศัพท์พร้อมกับไลน์ของชายหนุ่มที่เพิ่งได้มาหมาด ๆ