ตอนที่ 8 DNA อยู่บนหน้า(ต่อ)
ห้างสรรพสินค้า
พอลงจากรถได้ จันทร์เจ้าก็วิ่งมาจับมือเขา ส่วนพิมพ์ดาวเองก็จับมืออีกข้างของเธอ ตลอดทางที่เดินเข้ามาในห้างจนถึงศูนย์เด็กเล่น ผู้คนต่างจ้องมองเขากับเธอ คงจะเป็นเพราะภาพที่เหมือนครอบครัวแสนสุขที่มี พ่อแม่ลูกนี้กระมัง คนจึงได้มองแบบนั้น
“ผู้ใหญ่สอง เด็กหนึ่งครับ” เขาบอกคนขายบัตรเข้าศูนย์เด็กเล่น
“เดี๋ยวดาวจ่ายเองค่ะ” เธอบอกเขาอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอก พี่อยากพาหลานมาเที่ยว”
“จะดีเหรอคะ”
“ดีครับ วันนี้ให้พี่จ่ายเถอะนะครับ” พิมพ์ดาวพยักหน้าตอบรับ
“น้องน่ารักมากเลยค่ะ หน้าเหมือนคุณพ่อเป๊ะเลย” พนักงานขายบัตรพูดกับเขา ขณะยื่นเงินทอนให้เขา
“เอ่อ..คือผู้ชายคนนี้// ขอบคุณครับ” พิมพ์ดาวที่จะตอบปฏิเสธก็ถูกเขาพูดดักขึ้น
“ไปเถอะครับ” เขาหันไปพูดกับพิมพ์ดาวก่อนจะอุ้มจันทร์เจ้าขึ้น แล้วพาเดินเข้าไปด้านใน
พิมพ์ดาวนั่งดูหนึ่งตะวันที่พาจันทร์เจ้าเล่นนั่นเล่นนี่ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ มันเป็นภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น และนี่คงจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จันทร์เจ้าจะได้เล่นกับพ่อของเธอแบบนี้
“คุณแม่ขาาา” จันทร์เจ้าโบกมือให้เธอ เธอจึงโบกมือตอบพร้อมกับส่งยิ้มกว้างให้ ก่อนจะเดินเข้าไปหาทั้งสองคน…
“ลูกสาวน่ารักจังเลยค่ะ”
ผู้หญิงที่เดินผ่านหนึ่งตะวันกับจันทร์เจ้าพูดขึ้น จนพิมพ์ดาวที่กำลังเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่กับที่ รู้สึกอึดอัดยังไงก็ไม่รู้ที่มีแต่คนทัก ส่วนเขาเองก็ไม่คิดที่จะแก้ต่าง
“พี่ไม่บอกพวกเขาล่ะคะ ว่าจันทร์เจ้าไม่ใช่ลูกพี่”
เธออดไม่ได้จึงพูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหาเขา หนึ่งตะวันยักไหล่พร้อมกับยิ้มกว้างให้เธอ
“ไม่รู้สิ และพี่คิดว่ามันไม่จำเป็น” เขาตอบแค่นั้นแล้วก็หันไปเล่นกับจันทร์เจ้าต่อ เธอพูดอะไรไม่ออกก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
เกือบสามชั่วโมงที่อยู่ในศูนย์เด็กเล่น จนตอนนี้จันทร์เจ้าเหนื่อยจนแทบจะไม่มีแรงเดิน
“หนูเหนื่อย อุ้ม คุณแม่อุ้ม” จันทร์เจ้าชูมือสองข้างขึ้นให้แม่อุ้ม ส่วนพิมพ์ดาวเองเมื่อเห็นลูกเหนื่อยก็ก้มอุ้มลูกขึ้นมา
“ลุงช่วยอุ้มนะครับ” ตัวพิมพ์ดาวเล็กนิดเดียวคงอุ้มลูกไม่ไหวแน่หนึ่งตะวันเลยอาสา ส่วนจันทร์เจ้าเองก็ดีใจยื่นมือมาให้เขาอุ้ม
“ขอบคุณค่ะ” พิมพ์ดาวขอบคุณเขา แล้วก็เดินตามเขากับลูกเงียบๆ
ความสุขที่ได้เห็นสองพ่อลูกได้อยู่ด้วยกันมันก็มีอยู่หรอกนะ แต่ความกลัวว่าเขาจะเอะใจเรื่องของจันทร์เจ้า เพราะมีแต่คนทักนี่สิ มันทำให้เธอกังวล….
“พี่ตะวันค่ะ ดาวขอเข้าซุเปอร์มาร์เก็ตแป๊บนะคะ”
เดินมาสักครู่พิมพ์ดาวก็เอ่ยบอกหนึ่งตะวัน
“ได้สิ เดี๋ยวพี่พาจันทร์เจ้าไปเดินเล่นรอตรงนั้นนะ” เขาชี้ให้เธอดูตรงที่เขาจะพาจันทร์เจ้าไปรอ
“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวแม่รีบมานะลูก” เมื่อจันทร์เจ้าพยักหน้ารับเธอจึงรีบเดินเข้าไปซื้อของ
พอพิมพ์ดาวเดินเข้าไปซื้อของ หนึ่งตะวันก็พาจันทร์เจ้าไปเดินดูของเล่น จันทร์เจ้าชี้ให้เขาพาเดินดูของเล่นไปเรื่อย จนมาเจอตุ๊กตาเจ้าหญิงและดูเหมือนเธอจะชอบมันมาก เพราะเธอเม้มปากมองตุ๊กตาตัวนั้นตาเป็นมัน
“ตัวนี้ราคาเท่าไหร่คะ” จันทร์เจ้าถามเขา จนเขาอดที่จะเอ็นดูเธอไม่ได้ ตัวแค่นี้รู้จักถามราคาก่อน
“ชอบไหมเดี๋ยวลุงซื้อให้” เขาเห็นเธอชอบก็อยากจะซื้อให้
จันทร์เจ้าเม้มปากแน่นขึ้นพร้อมกับมองเขาตาโต เธอน่ารักจนเขาจะใจละลาย
“คุณแม่บอกว่าหากมันแพง เราซื้อไม่ได้เพราะมันสิ้นเปลือง” เธอบอกเขาหน้าหงอยลงเมื่อรู้ราคาของตุ๊กตา
“ไม่แพงหรอกครับ เดี๋ยวลุงซื้อให้ ถ้าจันทร์เจ้ากลัวแม่จะดุ ก็บอกแม่ไปว่ามันไม่แพง และลุงซื้อให้เป็นของขวัญ ดีไหมครับ”
จันทร์เจ้าพยักหน้าหงึกหงักยิ้มกว้างให้เขา ก่อนจะกอดรอบคอเขาไว้แน่นอย่างดีใจ
ความรู้สึกอุ่นซ่านก่อตัวขึ้นในใจของหนึ่งตะวัน มันคืออะไร ทำไมเขาถึงได้ถูกชะตากับเด็กคนนี้นักนะ เธอทำให้เขายิ้มได้ และมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้เธอ มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมี และยากจะอธิบาย
หนึ่งตะวันหยิบตุ๊กตาตัวนั้นขึ้นมา ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายgเงิน พนักงานยิ้มมองหน้าเขากับจันทร์เจ้าสลับกันไปมา จนตอนนี้เขาอยากจะออกจากตรงนี้เต็มทน
“น้องน่ารักมากเลยนะคะ” หนึ่งในพนักงานพูดขึ้น
“ขอบคุณครับ” เขาขอบคุณไปตามมารยาท
“น้องหน้าเหมือนคุณพ่อมาก นี่สิคะที่เขาว่า DNA อยู่บนหน้าของจริง”
หนึ่งตะวันยืนตัวแข็งทื่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้น วันนี้ทั้งวันมีแต่คนทักว่าจันทร์เจ้าหน้าเหมือนเขา จากที่ตอนแรกนึกว่าคิดไปเอง แต่พอมีคนทักมากๆ เข้า เขาก็เริ่มไม่มั่นใจแล้วสิ