5
หญิงสาวโหยหาความรู้สึกที่อยู่ในอาชีพที่ตนรัก ภาพในความทรงจำย้อนกลับมาให้ระลึกถึง หลังจากรถยนต์ส่วนตัว เพื่อลงไปช่วยคนเจ็บในอุบัติเหตุรถชนหลายคัน ซ่างเป่าเหลียนก็ถูกรถที่ขับมาโดยไม่ระวังพุ่งเข้าใส่ร่างจนนางพลัดตกลงคลอง
สติดับวูบในทันที และจดจำหลายสิ่งไม่ได้มากนัก จากนั้นจึงกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา หลับๆ ตื่นๆ ภาพซ้อนทับไปมา ทั้งจากโลกแห่งความจริง และโลกคู่ขนาน สุดท้ายก็มาอยู่ที่นี่ เป็นเรื่องราวที่เคยอ่านผ่านตา
การเป็นคนไร้ประโยชน์หลายปี ทำให้ทุกข์ใจเสมอ กระทั่งได้มีชีวิตอีกครั้ง แม้แรกเริ่มจะชวนให้ต้องอดสูสักหน่อย หากเมื่อยังมีลมหายใจ ซ่างเป่าเหลียนก็จะใช้ชีวิตใหม่นี้ให้คุ้มค่า
“กล่องของเจ้า ดูอัปมงคลและน่าตาอัปลักษณ์เหมือนแผลของข้าที่ถูกเจ้ากัดไม่มีผิด เป็นของตกทอดสกุลซ่างหรอกหรือ ทหารที่จับกุมตัวเจ้ามา ยึดเอาไว้ นับว่าดีไม่ถูกนำไปขายเสียก่อน ว่าแต่มันเป็นของประเภทใด หวังว่าคงไม่ใช่เครื่องมือทำไสยเวทหรอกนะ”
ตงเยี่ยหรงถาม สีหน้าเขาที่ติดเย็นชาอยู่ตลอด ฝ่ายซ่างเป่าเหลียนพยายามระงับความดีใจเอาไว้ นางกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจไม่มอบกระเป๋าเครื่องมือทางการแพทย์แก่นาง
“มันมีไว้เพื่อการใด”
เขาถามอีกหน แววตาคมๆ คู่นั้นจับพิรุธซ่างเป่าเหลียน
“ใช้ยังชีพ และช่วยเหลือข้ากับผู้อื่นยามได้รับอันตราย ตัวข้า... พอมีความรู้เรื่องการปรุงสมุนไพรเล็กน้อย การทำแผลก็เช่นกัน ทั้งหมดนี้ข้าเรียนรู้ กับแม่ชีผู้หนึ่ง”
ได้ยินคำตอบนาง เขาก็เลิกคิ้วสูงทั้งสองข้าง คนผู้นี้ สมควรเป็นตัวร้ายกาจทั้งในนิยาย และโลกแห่งความจริง
แล้วหากประเมินให้ดี เขาคงมีอายุราวๆ เกือบสี่สิบปี ใกล้เคียงอายุของช่างเป่าเหลียนในโลกที่จากมา ผู้ชายประเภทนี้นางเคยพบมาบ้าง ซึ่งทำเป็นไม่สนใจสิ่งรอบตัว แต่ก็กัดไม่ปล่อย นิสัยเยี่ยงเด็กหวงของ ถึงอย่างนั้นเมื่อเขาอยากให้นางไปให้พ้นๆ หน้า นางก็ต้องเล่นไปตามบทบาทของตน จากนี้ย่อมต้องอยู่ให้ห่างคนแซ่ตง ที่เป็นทั้งบิดาของสามีผู้ล่วงลับ และทรราชในนิยายที่นางเคยอ่านนั่นเอง
“เดินทางถึงเรือนหญิงหม้ายแล้ว เจ้าจะรู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร ส่วนเรื่องอื่นๆ แต่ภายหลัง อย่าได้ใส่ใจ อีกอย่างการจากไปของเสี่ยวซี เจ้าย่อมมีความผิด และข้าจะไม่มีวันให้อภัย”
คนตัวโตกล่าวจบ ก็มองมาที่นาง และเขาคงอยากเห็นความอ่อนแอ เหมือนเวลาออกแรงกระทำหยาบช้าต่อร่างกายงดงามนี้
“เสี่ยวเหลียนจำไว้ เจ้าไร้วาสนาต่อสกุลตง และอย่าพยายามปีนขึ้นเตียงบุรุษคนใดอีก นี่คือสิ่งที่ข้าเตือน”
อันที่จริงซ่างเป่าเหลียนไม่พอใจเป็นอย่างมาก นางอยากตอบโต้เขา แต่เลือกอดทนเข้าไว้ ตัวนางย่อมรู้แล้วว่า หมาบ้าที่ชอบเห่า และแยกเขี้ยวข่มขู่ หากเราไม่เต้นตกใจตาม มันคงคลั่งแค้นจนกระอักเลือดตายไปเอง
พอตงเยี่ยหรงไม่เห็นว่าสตรีที่เขาหลับนอนด้วย กล่าวคำใด เขาก็สั่งให้รถม้าออกเดินทาง และขี่ม้าจากไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด
เมื่อซ่างเป่าเหลียนรับกระเป๋าเครื่องมือแพทน์มา นางก็เปิดดู และพบว่า มันไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป เพราะด้านในเสมือนเป็นลิ้นชักที่เปิดออกแล้วมีของที่ต้องการใช้สอยมากมาย ยามนี้จึงประหนึ่งว่านางได้กลายเป็นหมอเทวาในโลกคู่ขนาน
หวังตันเป็นว่าซ่างเป่าเหลียนเงียบไป จึงฉุดแขนเรียกสติอีกหน
“ข้ารอดตายมาได้หนหนึ่งแล้ว ชีวิตหลังจากนี้ หากพอยื่นมือช่วยผู้อื่นได้ ก็คงเป็นการสร้างความดีให้ตนเอง และผู้ที่อยู่ใกล้ชิด”
“เสี่ยงอันตรายเกินไปหรือไม่ ข้าคิดว่า คงไม่มีใครอยากให้สตรีแปลกหน้ายื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องผู้อื่นเป็นแน่แท้”
หวังตันเตือนอีกหน
“แม่บ้านหวัง ที่นี่อยู่ห่างไกลเมือง หมอก็คงหายากสักหน่อย ตัวข้าอย่างน้อยที่สุด ก็รู้เรื่องยา และสมุนไพร ดังนั้นหากได้ต่อลมหายใจให้คนได้ ข้าก็จะไม่รอช้า”
“ของสิ่งนั้น ท่านต้องการใช้มันหรือไม่”
“ใช่ ช่วยส่งเสริมให้ข้าได้เป็นหมอเทวดาเถิดแม่บ้านหวัง”
ซ่างเป่าเหลียนเอ่ยอย่างนั้นแล้ว หวังตันก็รู้หน้าที่ตน นางเบี่ยงตันเพื่อไปยังรถม้า เพื่อนนำกระเป๋าที่ดูเหมือนสิ่งอัปมงคล และดูอัปลักษณ์สักหน่อยมาให้ซ่างเป่าเหลียน