อุ้มท้อง ที่ 1-2 นอนด้วยกันเถอะนะเจ้าคะ
อวิ๋นช่างเป่ยยิ้มน้อยๆ อย่างสตรีที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีงาม ทว่าในหัวสมองของนางกำลังวิ่งวุ่นอย่างใช้ความคิด นางไม่ควรไล่ต้อนเขาให้จนมุม แต่ควรค่อยๆ เข้าหาเขาอย่างละมุนละม่อม เพื่อไม่ให้เจ้าบ่าวของนางตื่นกลัวจนเกินไป
“ข้าไม่เหมือนเจ้าสาวคนอื่นๆ ของท่านหรอกนะเจ้าคะ มาเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ทำอันตรายท่านแน่นอน”
หญิงสาวลุกขึ้นยืน สาวเท้าเข้าหาเขาช้าๆ ก่อนจะยื่นมือไปจูงมือของชายหนุ่มให้กลับเข้าไปในเรือนหอ คนตัวโตไม่ได้ผลักไสสัมผัสของนาง แต่เกือบจะหัวเราะออกมาเสียหลายครั้ง ขบขันกับท่าทางของนางที่พยายามเกลี้ยกล่อมเขาราวกับเขาเป็นเด็กชายตัวน้อย
ดูเอาเถอะ...นางบอกว่าจะไม่ทำอันตรายเขางั้นเหรอ ช่างกล้าเสียจริง ในสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งเพศสภาพ รูปกายความแข็งแกร่ง วรยุทธ์ และทักษะการฆ่า เขาอยู่เหนือกว่านางมากมายนัก แต่นางกลับปลอบโยนเขาด้วยถ้อยคำอ่อนหวานว่าจะไม่ทำอันตรายเขา
‘นี่ท่านแม่ไปหาเจ้าสาวคนนี้มาจากที่ใดกัน เหตุใดนางจึงไม่เหมือนหญิงคนอื่นเลยแม้แต่น้อย นางแปลก นางเพี้ยน กระนั้นทั้งคำพูดจาและกิริยาท่าทางกลับดูน่ารักน่าชังจนเขาเริ่มสงสัยว่าเป็นเขาเองที่ผิดปกติหรือไม่ จึงได้มองความประหลาดว่าน่ารัก’
“นอนกันเถอะเจ้าค่ะ”
หญิงสาวไม่พูดเปล่าแต่เอื้อมมือไปถอดเสื้อคลุมตัวนอกสีแดงมงคลของเจ้าบ่าวออกอย่างเบามือ จากนั้นจึงจูงมือเขาไปนั่งบนเตียงนอน แล้วยอบกายลงถอดรองเท้าให้เขาอย่างภรรยาที่ดีกระทำต่อสามี
แรกทีเดียวแม่ทัพหม่าจะชักเท้าหนี แต่คิดว่าหากเขาปฏิเสธนางก็คงหาถ้อยคำมากมายมาหว่านล้อมเพื่อจะปรนนิบัติเขาอยู่ดี
“รอสักครู่นะเจ้าคะท่านแม่ทัพ”
อวิ๋นช่างเป่ยขยับกายจากการคุกเข่าบนพื้นไปหยิบผ้าสะอาดสีขาวชุบน้ำบิดหมาด จากนั้นจึงนำมาเช็ดเท้าให้เขาอย่างเบามือ นางจัดการทุกอย่างได้อย่างคล่องแคล่วเชี่ยวชาญ
ทว่า...นี่เป็นงานของ ‘สาวใช้’ หาใช่สิ่งที่ ‘คุณหนู’ ที่เพียบพร้อมจากตระกูลขุนนางชั้นสูงจะกระทำจนชำนาญเช่นนี้
หม่าหยางเหวินเก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ในใจไม่ได้เอื้อนเอ่ยถามออกไป
“เชิญพักผ่อนเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ”
หญิงสาวคลี่ผ้าห่มอย่างรอคอยให้อีกฝ่ายล้มตัวลงนอน ชายหนุ่มใบหน้าอัปลักษณ์ไม่ได้อิดออด ทันทีที่เขาล้มตัวลงนอนนางก็จัดการห่มผ้าห่มให้เขาทันที จากนั้นหญิงสาวจึงจัดการถอดชุดคลุมเจ้าสาวตัวนอกของตนเองออก เหลือเพียงเสื้อตัวในสีแดงเนื้อผ้าบางเบา แล้วจัดการเช็ดทำความสะอาดใบหน้า
แป้งผัดหน้าสีขาว และชาดทาปากสีแดงได้อันตรธานหายไปจนหมดสิ้น เผยให้เห็นผิวหน้าเกลี้ยงเกลา ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่ออย่างหญิงที่มีสุขภาพดี
คนตัวโตที่นอนอยู่บนเตียงถึงกับเผลอหยักยิ้มน้อยๆ ที่เห็นว่าใบหน้ายามไร้การแต่งแต้มของนางนั้นดูงดงามเสียยิ่งกว่าตอนโหมประโคมเติมแต่งเสียอีก
หญิงผู้นี้ไม่ได้งามผาดแต่งามพิศ มองคราแรกนั้นนางไม่ใช่หญิงงามล่มเมือง แต่กลับเป็นหญิงที่มองได้ไม่เบื่อ ยิ่งมองยิ่งเห็นถึงความสดใสน่ารัก ความตลกทะเล้น และความเป็นธรรมชาติที่น่าค้นหา
สายตาคมยังคงมองตามร่างบางที่เดินไปหรี่ไฟตะเกียง ปิดบานหน้าต่าง และใช้ไม้ขัดกลอนประตูห้องหออย่างคล่องแคล่ว ก่อนที่นางจะเดินมาทอดกายล้มนอนลงข้างๆ เขา
ตึก! ตึก! ตึก!
บ้าฉิบ! เหตุใดข้าต้องใจเต้นแรงด้วย หัวใจของข้าไม่ควรอ่อนแอต่อสตรีตัวเล็กที่มีความสูงแค่อกของเขาเท่านั้น
ทางด้านคนตัวเล็กนั้นนอนนิ่งด้วยความครุ่นคิด นางควรทำอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ดี ช่วงเวลาคืนแรกของการเข้าหอระหว่างชายหนุ่มหญิงสาว ความใกล้ชิดแนบสนิทถึงขั้นนอนเตียงเดียวกัน
ดังนั้นเวลานี้มีอยู่สองทางเลือกที่นางกำลังสับสน
ทางเลือกแรก...หันไปกอดเบียดกระแซะอย่างสาวน้อยเขินอาย?
ทางเลือกที่สอง...จู่โจมบุกขึ้นคร่อมทับแล้วจ้วงจูบอย่างสาวทรงเสน่ห์?
ในระหว่างที่อวิ๋นช่างเป่ยกำลังคิดหาทางอุ่นเตียงให้เจ้าบ่าวอยู่นั้น ดวงตาของนางก็ค่อยๆ ปรือต่ำลง ความง่วงงุนและความเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งวันทำให้นางผล็อยหลับไปในที่สุด ขณะที่เจ้าบ่าวยังคงนอนลืมตาค้างด้วยความรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่ชวนงุนงงเหลือกำลัง