ตอนที่3[ติดตาม]
อุ้งมือซาตาน
ตอนที่3
[ติดตาม]
ปึก!
“ขอโทษค่ะ” เพราะความเร่งรีบ ทำให้เธอเดินชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง
“อ่า! นี่เธอตาบอดรึไง ซุ่มซ่ามฉิบ!” เสียงเข้มตวาดดุ พร้อมคว้าแขนเล็กกระชากกลับ จนใบหน้าสวยใสถึงกับปะทะเข้ากับอกแกร่งอย่างจัง
“อื้อ! ฉันเจ็บนะคุณ ทำไมต้องรุนแรงด้วย” โชติกาได้แต่แหงนมองใบหน้าหล่อคมของอีกฝ่าย ถึงเธอผิดเธอก็ขอโทษแล้วไง ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ใจแคบนักนะ
“นี่เธอ คิดจะโยนความผิดให้คนอื่นรึไง เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ” ชัชวินหลุบมองใบหน้าสวยใส ที่อยู่ห่างกันเพียงคืบ ทว่าเขาถึงกับต้องขยี้ตามองเธอซ้ำ ๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ ว่าผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้า จะมีหน้าตาเหมือนคนในภาพขนาดนั้น
“ปล่อย ฉันรีบ” เขายังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ร่างเล็กก็เบี่ยงตัวหลบแล้ววิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไปเสียก่อน
“ตาฝาดไหม รึว่าแค่เหมือน” ชัชวินครางงึมงำ ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปด้านใน
ร่างสูงใหญ่ก้าวขึ้นชั้น วีไอพี เพื่อไปพบปะเพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังแห่งนี้ ชัชวินผลักประตูกระจกเข้าด้านใน
“ไงไอ้เสือ ลมอะไรทำให้นายหัวชัชวิน มาถึงร้านผมได้วะ” ปกรณ์ได้แต่เย้าเพื่อนชาย ที่เอาแต่ทำสีหน้าตึง ๆ
“กูจะมาต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ รึคนอย่างกูคิดถึงเพื่อนไม่ได้” ชัชวินเอ่ยเสียงเข้ม
“เออ! กูแค่เย้ามึงเล่นแค่นี้ ทำเป็นขรึม แต่กูดีใจว่ะที่เพื่อนมาเยี่ยม” ปกรณ์เดินมาตบไหล่เพื่อนชาย ก่อนจะเชื้อเชิญให้นั่งที่โต๊ะมุมติดกระจก ที่สามารถมองบรรยากาศด้านล่างได้ตลอดทุกมุม
“กูคิดถึงมึง จึงรีบมาหาเพราะอีกไม่กี่วัน กูจะกลับไร่แล้ว คงอีกนานกว่าจะได้เจอกันอีก”
“นายหัวชัชวิน ที่มีไร่กาแฟเป็นพันไร่ มัวแต่บ้างานจนผู้หญิงทิ้ง แล้วมึงไม่คิดจะหาใครสักคน มาช่วยดามหัวใจบ้างรึไง”
“มึงคิดว่าผู้หญิงดี ๆ หาง่ายนักรึไง ขนาดคบกันมาตั้งหลายปีเธอยังทิ้งกูเฉย”
“เออ! ชั่งมันเถอะกินเหล้าดีกว่า มึงจะเอาอะไรวันนี้กูเลี้ยง” ปกรณ์เข้าตบบ่าเพื่อนเบา ๆ เมื่อเห็นท่าทางของชัชวินนิ่งขรึมลง
“งั้นกูไม่เกรงใจมึงนะ จะแดกให้หมดร้านเลย”
“อย่างมึง เต็มที่สองขวดก็จอดแล้วเพื่อน อย่ามาทำเป็นปากดี” ว่าจบปกรณ์ลุกออกจากเก้าอี้ แล้วเดินไปสั่งลูกน้อง ให้จัดเตรียมเหล้าและกับแกล้บอย่างดี เพื่อมาบริการให้เพื่อนหนุ่ม
ร่างเล็กบอบบางอยู่ในชุดฟอร์มสีน้ำเงิน เสื้อคอบัวแขนสั้นรัดรูป เน้นส่วนเว้าส่วนโค้ง ชายเสื้อสั้นแค่ขอบเอว รับกับกระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าสีเดียวกัน ทำให้สาวน้อยที่เป็นเด็กเสิร์ฟในร้านดูสะดุดตาได้ไม่ยาก เธอมีใบหน้ารูปไข่พร้อมแต่งแต้มสีสันบาง ๆ ดวงตากลมโต จมูกโด่ง ริมฝีปากเป็นกระจับระเรื่อ รับกับชุดฟอร์มที่อยู่บนร่างให้ขับสีผิวที่ขาวเนียน ได้เปล่งปลั่งสว่างออร่าอย่างน่ามองไม่น้อย
โชติการับถาดเครื่องดื่ม แล้วออกเดินไปที่ห้องวีไอพี ครั้นก้าวมาถึง เธอจึงเอ่ยขออนุญาตวางของบนโต๊ะในทันที
“ขออนุญาตนะคะ” เสียงเล็กดังขึ้นเบา ๆ ทำให้ชัชวินที่สนใจอยู่กับมือถือ ต้องเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง เขาถึงกับชะงักงัน นี่ยัยเด็กนั่นอีกแล้วเหรอ!
ส่วนโชติกาเหลือบมองใบหน้าลูกค้าอย่างเต็มตา เธอก็จำเขาได้เป็นอย่างดี แต่ยังไงเธอก็ยังอยู่ในหน้าที่ จึงได้แต่วางหน้านิ่ง ก้มหน้างุดมองพื้นอย่างเดียวจนเอาของวางจนเสร็จ แล้วรีบหันหลังกลับออกไป
ชัชวินเพ่งมองกี่ครั้ง ก็เห็นว่าผู้หญิงคนนี้หน้าเหมือนมาก เขาจ้องมองจนร่างเธอเดินหายวับไปต่อหน้า
“ไงเพื่อนโดนสาวตกรึไง น้องสวยถูกใจมึงใช่ไหม จ้องเขาตาไม่กะพริบเลยมึง” ปกรณ์ที่ก้าวมาถึงโต๊ะได้แต่เอ่ยแซวเพื่อน
“ชื่ออะไรวะ”
“นี่อย่าบอกนะว่ามึงสนใจน้องเขา เธอชื่อโชติกาเป็นไงเพราะไหม เธอเพิ่งลางานไปเป็นอาทิตย์ ไปสอบเทอมสุดท้าย แล้วเพิ่งมาทำงานวันนี้วันแรก”
“ดูมึงจะรู้รายละเอียดเด็กนั่นดีจัง” ชัชวินได้แต่เอ่ยเสียงหยัน ยัยเด็กนี่! จะชื่อโชติการึโชติรส แม่ง! ถึงจะเปลี่ยนชื่อแซ้ยังไง หล่อนก็ดูร้อน ร่าน ส่ำส่อน อยู่ดี
“อะ! ไอ้นี่ มึงลืมไปแล้วรึไง ว่ากูเป็นเจ้าของร้าน แล้วกูผิดตรงไหนที่จะรู้รายละเอียดของลูกน้องตัวเอง” ปกรณ์ได้แต่เอ่ยตำหนิเพื่อนสนิท ก่อนจะคว้าขวดเหล้ามาเปิดเทลงแก้วทั้งสองใบ แล้วยื่นส่งให้เพื่อนชาย
ชัชวินรับแก้วน้ำสีอำพันมากำไว้แน่น เขาเพ่งมองน้ำในแก้วอย่างใช้ความคิด ความเคียดแค้นชิงชังต่อผู้หญิงคนนั้น ที่เป็นต้นเหตุทำให้สูญเสียน้องสาวอันเป็นที่รักไป ได้แต่แผ่ความอำหิตไปถึงเด็กนั่นอย่างฉายชัด ทำให้เขาต้องอดกลั้น แล้วสาดน้ำในแก้วนั้นลงคอรวดเดียวจนหมดแก้ว
“เฮ้ย! เบาสิวะ เดี๋ยวก็เมาพอดี” ปกรณ์ที่เห็นเพื่อน กินเหล้าเหมือนกินน้ำเปล่า ได้แต่เอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง
“เออ! กูไม่ตายง่ายหรอกน่า มึงอย่าปอดแหก”
“มึงดูเครียด ๆ ว่ะ มีอะไรบอกกูได้นะมึง เรื่องบางเรื่องถ้าเราเก็บไว้คนเดียวมันก็ไม่ดีเท่าไหร่ แถมเสียสุขภาพจิตว่ะ”
“อืม! แต่ตอนนี้กูยังไม่มีเรื่องให้มึงช่วยไง ถ้ามีแล้วจะบอกมึงเป็นคนแรก”
“มึงเอาผู้หญิงสักคนไหม กูมีสวย ๆ เต็มสต็อกเลย เผื่อมึงอัดอั้นได้ระบายออกมาบ้าง สมองจะได้ปลอดโปร่ง”
“ไม่อะ! กูไม่มีอารมณ์”
“บ๊ะ! ไอ้นี่ โดนผู้หญิงทิ้งถึงกับตายด้านรึไง”
“ปากมึงรึนั่น ไม่มีอารมณ์ ไม่ใช่ว่ากูตายด้านนี่หว่า” ชัชวินถึงกับดุเพื่อนชายกลับ ทำให้ปกรณ์ส่งยิ้มเจื่อนมาให้เพื่อนชาย
ทั้งคู่นั่งพูดคุยกัน ต่างรำลึกถึงความหลัง จนกระทั้งได้เวลาร้านปิด ชัชวินจึงของตัวลุกออกจากเก้าอี้ เพื่อจะเดินลงไปหารถ
“เฮ้ย! กรณ์กูขอตัวกลับบ้านก่อนนะมึง ว่าง ๆ เดี๋ยวโทรหา”
“อืม! โชคดีเว้ย! แล้วขับรถดี ๆ ล่ะมึง อ่า! แล้วมึงจะกลับไร่วันไหน”
“ขอบใจเว้ย! กูจะกลับไร่ภายในวันสองวันนี้แหละ ขอทำธุระให้เสร็จก่อน”
“เออ! โชคดี ขับรถดี ๆ”
ร่างสูงเดินออกประตูรู้สึกมึนหัวนิดหน่อย จึงยกมือขึ้นนวดคลึงขมับเบา ๆ แล้วก้าวเท้าเดินไปที่ลานจอดรถ
เขาก้าวขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่อง ค่อย ๆ ขับเคลื่อนออกไปปากทาง แต่สายตาคมกลับเหลือบไปเห็นร่างที่คุ้นตา กำลังก้าวเดินไปตามทางเท้า เขาชะลอความเร็วลง แล้วขับตามเธอไปห่าง ๆ
พอถึงถนนใหญ่ เขาเห็นมีรถแท็กซี่จอดรอเธออยู่ ครั้นเดินไปถึงโชติกาก็เปิดประตูก้าวขึ้นรถแท็กซี่คันนั้นออกไป
ชัชวินขับตามรถแท็กซี่คันนั้นไปห่าง ๆ เขาอยากรู้ว่ายัยเด็กนั่น มีบ้านช่องอยู่ที่ไหนกัน
ขับตามไปเรื่อย ๆ จึงรู้สึกว่าออกนอกเมือง ไม่นานรถแท็กซี่ที่นำหน้าก็เลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ ชัชวินจอดรถแล้วจ้องมองตามความสว่างของไฟส่องทาง
เขาเลือบมองไปด้านหน้า ที่มีหลังคาบ้านหลังเล็ก ๆ ตั้งเรียงรายกันอยู่ จึงเข้าใจว่าสถานภาพความเป็นอยู่ของหล่อน คงลำบากไม่น้อย โชติรสคงหวังอยากรวยทางลัด จึงคิดจะจับไอ้สวะพีทนั่นอย่างแน่นอน
ชัชวินถึงกับขบกรามแน่น รูปร่างหน้าตาของหล่อนก็ดี ถ้าจะวางตัวดีหางานดี ๆ ทำ ทำไมจะหาเสี่ยแก่ ๆ เลี้ยงไม่ได้
เขาขับเคลื่อนรถไปด้านหน้า เพื่อหาที่กลับรถ ก่อนจะเหยียบคันเร่ง แล้วพุ่งทะยานเข้าสู่เส้นทางกลับบ้านในทันที
รถหรูเข้ามาถึงบ้านในเวลาตีสองกว่า ชัชวินก้าวลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในบ้านทันที