บทย่อ
"กูแค่สมมตินะ" ปรินเลิกคิ้วให้พี่ชายเป็นอันเข้าใจกันแล้วเอ่ยถาม "ถ้ามึงเกิดชอบใครคนหนึ่งที่อายุเยอะกว่านิดหน่อย มึงจะจีบเขายังไงวะ" "กูเหรอ" พี่ปลาทำหน้าครุ่นคิดไปนานแล้วคลี่ยิ้ม "ถ้าเป็นกูนะ กูจะทำตัวน่ารักอะ อ้อนเหมือนลูกแมวเลยแหละแล้วบอกเขาไปว่ากูชอบ! ว่าแต่มึงเถอะ ไปแอบรักใครมาวะ" "เปล่า กูไม่ได้แอบรักใครกูแค่ถามไง" "แน่เหรอ?" "แน่ดิ" "เอ้อ... นั่นแหละ แต่สเปกกูอะต้องเป็นคนอบอุ่นนะ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยมาก ๆ และ… เอาใจกูเก่ง" "ใครจะไปเอาใจมึง วันหนึ่งมีอยู่สิบอารมณ์ไอ้ห่า" แปะ! "มึงไง นี่... มึงว่าป๊าจะมีแฟนใหม่ไหมวะ" จู่ ๆ พี่ปลาก็ถามออกมาหน้าเครียด ปรินขมวดคิ้วยุ่งแล้วส่ายหน้าไปมาเบา ๆ "ถ้าป๊ามีแฟนใหม่นะกูจะตบอีนั่นให้หน้าแหกเลย กูไม่ชอบ!" "เอ้อ... กลับไปได้ละ กูอยากพักผ่อน" "ไม่เอาอะ กูจะนอนที่นี่หนึ่งคืน" "ไม่เอาโว้ย!" "กูไม่กลับโว้ย...”
บทนำ
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังก้องไปทั่วห้องซ้อมยิงปืนภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ชายร่างสูงโปร่งคาบบุหรี่ไว้ที่ปากเล็งปืนไปที่เป้าล่อแล้วกดลั่นไกอีกครั้ง
"โอ๊ย! จะซ้อมอะไรนักหนาก็ไม่รู้ เสียงดังกูไม่ชอบ!" เสียงเล็กของคนเป็นพี่ชายพูดแทรกขึ้นหลังจากเสียงปืนเงียบลงแล้ว "ให้กูนั่งเล่นเกมยังดีกว่ามานั่งดูมึงซ้อมยิงปืน กูเบื่อ"
"แล้วใครใช้ให้มึงตามกูมา"
"ป๊าไง ถ้าป๊าไม่บอกให้กูมาดูแลมึงกูก็ไม่เฉียดกายมาที่นี่หรอก แม่งร้อนก็ร้อน กลิ่นดินปืนอีก กูเบื่อโว้ย!" ปรินทำหน้าเอือมระอาใส่พี่ชายที่กำลังนั่งบ่นไม่หยุดจนเขาเริ่มหงุดหงิดไปด้วยแล้วเนี่ย เขาพาร่างมาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วดูดบุหรี่สบายใจ
"มึงอยู่บ้านไม่เบื่อหรือไง" เขาหันไปถามพี่ชายเสียงเรียบ
"ไม่เบื่อ ในบ้านเรามีอะไรให้ทำตั้งเยอะแยะ กูไม่อยากออกไปข้างนอก มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบรถติด ไม่ชอบสายตาคนอื่นที่มองมาแบบแปลก ๆ" ปรินหลุดยิ้มมุมปากแล้วตวัดสายตาดุ ๆ มองพี่ชาย
"ก็มึงแปลกไอ้เปรต! นี่มึงยังไม่รู้ตัวใช่ป่ะว่าตัวเองแปลกมากขนาดไหน ไม่ต้องชื่อปลาแล้วมึงอะ ชื่อเปรตเหอะ!"
"ไอ้ปิน ไอ้เลว!" ผู้เป็นพี่กระโดดข้ามโต๊ะกลางโซฟามาบีบคอน้องชายอย่างไม่แรงนักแล้วตบหัวปรินไปสองทีเน้น ๆ "นี่กูไม่น่าให้ป๊ามีมึงเลย กูน่าจะเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล มึงก็น้องเวรเหมือนกันนั่นแหละ ไอ้เวร!" ร่างเล็กก้าวลงจากตัวน้องชายแล้วสะบัดตัวเดินออกไปอย่างไม่พอใจ
"ไอ้บ้า!" ปรินว่าตามหลัง
"กูจะบอกป๊าว่ามึงด่ากู กูจะเป่าหูป๊าไม่ให้ยกสมบัติให้มึง มึงโดนแน่ไอ้เด็กเวร!" ปลา พี่ชายที่คลานตามกันออกมายังก่นด่าน้องชายไม่หยุดในขณะที่ปรินสูบบุหรี่อย่างสบายใจอยู่ในห้องซ้อมยิงปืน
"โทรหาไอ้ดินหน่อย อยากไปดื่มที่ผับว่ะ" ปรินแบมือขอโทรศัพท์มือถือจากลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลัง เมื่อได้โทรศัพท์มาก็กดโทรหาบดินทร์ทันที
(ไง) รอสายไม่นานเสียงเข้มก็ตอบกลับมา
"ไปดื่มไหม กูแม่งเหงา ๆ ยังไงไม่รู้"
พรึบ!
จู่ ๆ ก็มีคนคนหนึ่งกระโดดข้ามโซฟามากอดคอเขาไว้แน่น
"เชี่ยปลา มึงยังไม่ไปอีกเหรอวะ"
"ไม่ กูจะไปดื่มกับมึง"
"ไม่เอา ไม่ให้ไปแล้ว มึงไปกับกูทีไรไม่สนุกทุกทีเลย"
"แต่กูสนุกหนิ ไม่รู้แหละ กูไปด้วย" ปรินพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ แล้วยกโทรศัพท์มือถือมาแนบหูกรอกเสียงหน่าย ๆ ถามบดินทร์ต่อ
"เอาไงดีวะ"
(ก็ตามนั้น แต่กูขออนุญาตเมียก่อนนะ วันนี้แป้งปั้นเรียนทำขนมกับคุณแป๋มที่บ้าน)
"คุณแป๋มอะไรเรียกแม่ยายได้แล้ว"
(เออนั่นแหละ)
ปรินเหลือบตามองพี่ชายที่กำลังเอาหูมาแนบกับโทรศัพท์เขาเพื่อฟังด้วย
"เออ ๆ แค่นี้แล้วเจอกัน" ปรินกดวางสายแล้วผลักหน้าพี่ชายออกให้ห่าง
"กูไปด้วย!" ปลายกยิ้มทำหน้าจริงจังสุด ๆ
"กูอยากจะถามป๊าเหมือนกันนะ ว่าทำไมไม่ให้กูเกิดมาก่อนมึง"
"ก็เพราะกูมีวุฒิภาวะการเป็นพี่มากกว่ามึงไง มึงเหอะทำตัวเลวไม่เหมาะที่จะเป็นน้องกูเลย ไอ้เด็กเวรเอ๊ย!" ไม่ว่าเปล่าแต่มือเรียวบางยังผลักศีรษะน้องชายอีก แต่ปรินก็ไม่ได้ทำพี่ชาย เขานั่งถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแล้วลุกขึ้นยืน
สองพี่น้องมักจะทะเลาะกันอยู่แบบนี้ทุกวันเลยก็ว่าได้ แต่คนน้องจะไม่ตอบโต้พี่ชายด้วยการกระทำ เว้นแต่ด่ากลับไปบ้าง บางคำก็ทำเอาบอดี้การ์ดเหวอไปเลย ส่วนคนพี่มักจะใช้กำลังกับน้องและด่าได้เจ็บจี๊ดประหนึ่งว่าไม่ใช่พี่น้องที่คลานตามกันออกมา แต่ก็ยังดีที่น้องยอม ๆ บ้าง
"ป๊าไอ้เด็กเวรนี่มันบอกจะไม่ให้ผมไปเที่ยวด้วย"
"ไอ้ปลาเรียกน้องดี ๆ มึงเป็นพี่นะ"
"ก็ผมไม่อยากได้มันเป็นน้องหนิ มันทั้งกวนส้นตีน ปากดีกับผมอะ"
"พอ ๆ กูปวดหัว แล้วนั่นจะไปเที่ยวไหนอีก" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่แต่งตัวพร้อมออกไปเที่ยวข้างนอก ปรินหันมาตอบพ่อเสียงเรียบ
"ไปดื่มกับดินหน่อยป๊า เบื่ออยู่บ้านกับพวกประสาทแดก"
"อ้าว มึงว่ากูประสาทแดกด้วยเหรอปิน" ผู้เป็นพ่อขมวดคิ้วแน่น
"ไม่รู้อะ แล้วป๊าเป็นอย่างไอ้ปลาไหม ถ้าเป็นป๊าก็พวกเดียวกับมัน" ว่าจบปรินก็เดินออกไปจากบ้านมันทันที ปลาจับมือพ่อไว้แน่น
"ป๊าไม่ต้องห่วง ผมจะสั่งสอนมันเอง ไอ้ปินไอ้พ่อแม่ไม่สั่งสอนเอ๊ย!" เสียงด่าดังห่างออกไป
"พ่อแม่มันก็พ่อแม่มึงนั่นแหละ กูล่ะปวดหัวกับพวกมึงสองตัว กูจะใช้ชีวิตถึงอายุหกสิบไหมวะ
ผู้เป็นพ่อยกมือขึ้นคลึงขมับนวดเบา ๆ อย่างเหนื่อยหน่ายใจในแต่ละวัน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
"โว่! กูชอบแบบนี้ สนุกมากมาอีกนะ" ปรินถูกพี่ชายเขย่าแขนเร่า ๆ ทุกวันเขายังสงสัยอยู่ว่าสมองพี่มันปกติดีไหม หรือมันไม่ปกติตั้งแต่เกิดมาแล้ว "ถ้ามึงพากูมา กูสัญญาว่าจะเลี้ยงพวกมึงตลอดเลย!"
"เฮ้อ~" ผู้เป็นน้องยกมือขึ้นกุมขมับแล้วพยักหน้ารับส่ง ๆ เพื่อตัดรำคาญ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบเล็กน้อย ปรินเหล่ตามองบดินทร์ที่นั่งอมยิ้มอยู่บนโซฟาอีกตัว "ยิ้มเชี่ยไรวะ มึงไม่มาเป็นกู มึงไม่รู้หรอกว่าแม่งประสาทมากแค่ไหน"
"กูชอบนะที่เห็นมึงเวอร์ชันนี้อะ"
"ส้นตีนดิไม่ว่า เบื่อมันฉิบหาย"
"ไอ้ปินสั่งเหล้าให้หน่อย ไอ้ที่หวาน ๆ อะกูชอบมันอร่อยดี" เสียงไอ้พี่ปลาดังแข่งกับเสียงเพลง ปรินพยักหน้าตอบแล้วสั่งตามที่พี่ชายบอก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องทำตามมันสั่งด้วย แม่งเอ๊ย...
"ทำไมจู่ ๆ อยากแดกเหล้า" บดินทร์ถามเข้าเรื่องทันที
"ก็เบื่อนิดหน่อย"
"ไม่ใช่ว่าถูกอาจารย์ไล่มาอีกแล้วนะ"
"ส่วนหนึ่งอะใช่"
"แล้วอีกส่วน?" บดินทร์เลิกคิ้วถาม
"ก็ใช่อีกนั่นแหละ ทำไมจีบคนอายุเยอะกว่ามันถึงยากเย็นแบบนี้วะ" ปรินสบถคำอย่างหงุดหงิดแล้วกระดกเหล้าเข้าปากอึกใหญ่ แต่จังหวะนั้นกลับมีผู้หญิงร่างบอบบางเดินผ่านด้านหลังโซฟาไปโดยที่เธอยื่นมือมาสัมผัสกับท้ายทอยปรินเบา ๆ
"ฮึ...” บดินทร์แสยะยิ้มแล้วยกแก้วขึ้นมาจ่อริมฝีปากเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนที่มองตามผู้หญิงคนนั้นไป
"กูว่ากู... ต้องออกล่าแล้วว่ะ" บดินทร์ยิ้มกรุ้มกริ่ม บอกตรง ๆ ไอ้ปินเพื่อนเขาเนี่ยมันค่อนข้างมีเสน่ห์มาก ๆ รอยยิ้มแววตาของมันแพรวพราวและเป็นที่ดึงดูดเพศตรงข้ามมาก ยิ่งรอยสักที่อยู่บนคอมันนะยิ่งน่าหลงใหล ขนาดเขาเป็นผู้ชายแท้ยังมองว่ามันทั้งเท่ทั้งหล่อเลย ติดตรงที่ไม่ได้เอ่ยชมมันต่อหน้าเท่านั้น ขืนหลุดปากชมออกไป ก็นั่นแหละ... คงจะลอยเคว้งอยู่ในอากาศไม่ยอมลง
"อ๊ะ... ใจเย็น ๆ หน่อยสิคะ" หญิงสาวเจ้าของริมฝีปากสวยร้องออกมาพอเป็นพิธีหลังถูกปรินผลักเข้ามาในห้องน้ำ
"แหม... ไม่ต้องเล่นตัวหรอกครับ" เขายิ้มมุมปากกับท่าทางเล่นตัวของอีกฝ่าย ก่อนจะปิดฝาชักโครกลงแล้วทิ้งกายลงไปนั่งโดยที่หญิงสาวคนดังกล่างก้าวขึ้นมาคร่อมหน้าตักเขาไว้ ริมฝีปากของทั้งสองประกบจูบกันทันทีด้วยความกระสัน ปรินรูดซิปชุดเดรสออกแล้วลูบแผ่นหลังบอบบางเบา ๆ แล้วถกชายชุดเดรสขึ้นไปกองไว้ที่เอวคอด ฝ่ามือหนาลูบวนอยู่ที่เป้าแพนตี้ตัวน้อยในขณะที่ริมยังประกบกันแน่น หญิงสาวสอดมือลงไปรูดซิปกางเกงเขาลงหมายจะจับแก่นกายแข็งขึงออกมา
ปึง! ปึง! ปึง!
แม่งเอ๊ย! เสียงทุบประตูห้องน้ำดังขัดขึ้นเสียก่อนทำเอาเขาหัวเสียไม่น้อยเลย
"คุณปินครับ คุณปลามีเรื่องแล้วครับ"
"เชี่ยเอ้ย…" ปรินผลักร่างหญิงที่นั่งอยู่บนหน้าตักออกอย่างไม่ใยดีแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกมา "มันเป็นอะไรวะ" เขาหันไปถามลูกน้องหน้าเครียด
"ตะ... ตบกันอยู่หน้าเวทีครับ"
"ไอ้เชี่ย...” ปรินหัวเสียรีบเดินไปหาพี่ชายที่หน้าเวที เขาเดินเบียดผู้คนเข้าไปก็พบว่าพี่ชายตัวเองกำลังตบกับผู้หญิง ใช่ผู้หญิงฟังไม่ผิดหรอก ปรินรวบตัวพี่ปลาออกมา แต่แรงของเขาก็สามารถดิ้นหลุดจากพันธนาการของปรินไปได้
"กูเจอก่อน ผู้ชายคนนี้ของกู!"
"แต่เขาเป็นเด็กฉันย่ะ!" ผู้หญิงตอบกลับทันควัน
"เด็กมึงแล้วไง กูจ่ายเงินให้น้องเขาไปเอ็นกูที่โต๊ะ!" ไอ้พี่ปลาเถียงขาดใจพร้อมพุ่งไปหมายจะตบผู้หญิงคนนั้นอีกแต่พวกลูกน้องรั้งตัวไว้ทัน "ปล่อยกู! กูจะตบมันให้หลาบจำ ปล่อยดิวะ"
"พอได้แล้ว มึงจะสร้างปัญหาทำไมวะ!" เขาตะคอกใส่พี่ชาย
"กูจะเอาเลือดหัวมันออก กูไม่ยอมนะปิน"
"กลับเถอะ กูอายคน"
"กูไม่กลับ! มึงอายก็กลับไปเลย กูจะตบกับมัน" ฝ่ายตรงข้ามก็ใช่ย่อย พร้อมจะเข้ามาตบกับไอ้พี่ปลาตลอดเวลา แต่จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงสองคนที่คาดว่าจะเป็นเพื่อนผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามารั้งตัวเพื่อนพวกเธอออกไป ทว่าปรินกลับชะงักค้างที่ได้เห็นหน้าของหญิงสาวอีกคนที่อยู่ในชุดเดรสสีขาวเกาะอก
"อาจารย์อิง… ฟ้า" ปรินเอ่ยเรียกหญิงสาวจนอิงฟ้าหันมามองเขา เธอขมวดยุ่งแต่สายตาดันเลื่อนลงต่ำหยุดไว้ที่กลางกายชายหนุ่ม ปรินมองตามแล้วรีบเอามือกุมเป้ากางเกงแล้วรีบรูดซิป
"กูไม่ยอมนะ กูจะเอาเรื่องมัน พวกมึงอะจัดการให้กูด้วย" พี่ปลาเดินไปควงแขนน้องคนนั้นที่มันตบแย่งกันแล้วสะบัดหน้าใส่ปริน เดินกระแทกไหล่เขาไปชั้นสองทันที ส่วนอาจารย์อิงฟ้ากับเพื่อนก็เดินออกไปเหมือนกัน
"นายครับ... ไปเถอะ เดี๋ยวพวกผมเคลียร์เอง"
"อะ... เออ...” ‘เชี่ย… มาเที่ยวที่แบบนี่ด้วยเหรอวะเนี่ย จะเห็นตอนกูออกมาจากห้องน้ำไหมวะ’