บทที่2. การพบกันครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจ..
สาวน้อยวัยใสทำหน้าตาเหลอหลา เธอรีบปลีกตัวเดินหลีกหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่วายส่งสายตาหวานเยิ้มให้แคสเตอร์อยู่เรื่อยๆ ชายหนุ่มจึงได้แต่ส่ายหัวให้กับกริยาแก่แดดของกลุ่มสาวๆ เหล่านั้นที่ดูแล้วไม่น่าจะเกินอายุ20ปีสักคน แต่แก่แดดแก่ลมเกินหน้าเกินตาไปสักหน่อย
ชายหนุ่มชะเง้อคอมองหาคนที่ต้องมารับ ใบหน้าคร้ามคมเริ่มหงิกงอ เมื่อความง่วงงุนกำลังโจมตีเขาอยากหนัก อยากจะทอดกายลงนอนบนเตียงนุ่มๆ เพื่อพักผ่อนร่างกายที่กร่ำงานหนักก่อนที่จะเดินทางมาประเทศไทย
“ขอโทษค่ะมาช้าไปหน่อย รถติดยาวเหยียดเลยค่ะ กว่าน้ำค้างจะฝ่าขบวนรถเข้ามาได้ คุณรอนานหรือเปล่าคะ” เสียงหวานๆ ดังขึ้นทางด้านหลังชายหนุ่มจึงหมุนกายกลับมามองอย่างสนใจ เมื่อเสียงหวานใสกระทบกับใจจนอยากเห็นใบหน้าคนพูด
วงหน้าหวานใสกระจ่างของสาวน้อยด้านหน้าสุดแสนจะประทับใจ เมื่อสาวน้อยวัยใสไร้เครื่องสำอางแต่งเติม ริมฝีปากบางเฉียบอมสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติ ผิวแก้มออกสีจัดเพราะคงวิ่งออกกำลังมาแต่ไกล ร่างเล็กๆ เบื้องหน้าสูดลมหายใจเข้าออกแรงๆ เธอรีบละล่ำละลักกล่าวแก้ตัวเสียงลุกลน
“คุณแคสเตอร์ ชางใช่ไหมคะ!!? น้ำค้างจากหนังสือพิมพ์สยามถิ่นค่ะ น้ำค้างมีหน้าที่ดูแลคุณกับทีมงาน”
“ครับ...ผมแคสเตอร์ ชางยินดีที่รู้จักคุณ...”
“น้ำค้างค่ะ รัชนิชล เบญจามาภรณ์ เรียกน้ำค้างก็ได้ค่ะ”
“ขอโทษทีที่ผมเดินทางมาช้ากว่าคนอื่น ทำให้คุณเสียเวลาต้องเดินทางมารับหลายครั้งหลายหน ผมติดภารกิจสำคัญนะครับ มันยืดเยื้อไม่เสร็จตามกำหนดเดิม”
“ค่ะ...”
เธอรับคำเสียงเฉยเมย เอื้อมฉวยกระเป๋าเดินทางของชายหนุ่มได้ก็พยายามจะลากออกเดิน ชายหนุ่มจึงหัวเราะหึๆ ออกมาอย่างขำขันเมื่อร่างเล็กจ้อยของผู้หญิงตรงหน้าพยายามดึงกระเป๋าแสนหนักของตัวเอง โดยที่เธอไม่คิดขอความช่วยเหลือจากใคร!!? ผิดกับสาวๆ ส่วนใหญ่ที่มักจะร้องขอความช่วยเหลือแม้ว่างานตรงหน้าจะเป็นแค่งานเล็กๆ น้อยๆ
“ผมจัดการกับกระเป๋าใบนี้เองครับ คุณเดินนำไปเถอะ! ผมอยากพักผ่อนเต็มแก่ เปลือกตาผมใกล้จะปิดเต็มทีแล้ว ถ้ามัวรอคุณยกกระเป๋าผมคงหลับอยู่ตรงนี้แหละ”
แคสเตอร์เอ่ยสัพยอกออกมาอย่างขำขัน ร่างสูงใหญ่เอื้อมมือรั้งหูกระเป๋าเดินทางจากมือรัชนิชล
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวแค่เพียงสัมผัสผิวเผิน แต่ดูเหมือนมันจะมีกระแสไฟอ่อนๆ วิ่งเข้าสู่ร่างกายจึงรีบผละออกห่างด้วยความตกใจ มือเล็กๆ ปล่อยหูกระเป๋าเดินทางให้ชายหนุ่มเบื้องหน้าแต่โดยดี
แคสเตอร์รับรู้กระแสไฟฟ้าที่พุ่งเข้าหาหัวใจเหมือนกันกับรัชนิชล หัวใจเข้มแข็งสั่นกระตุกไปวูบหนึ่ง ก่อนจะทำไม่รู้ไม่ชี้ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เดินตามหลังหญิงสาวที่เร่งรีบเดินนำหน้าออกไปอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มทรงเสน่ห์ติดอยู่บนมุมปากเมื่อเขาขำขันแววตาตื่นตระหนกของหญิงสาวนามรัชนิชล ก่อนที่เธอทำเสหลบตา และออกเดินนำหน้าชายหนุ่มไปเร็วๆ
รัชนิชลนึกในใจด้วยความหวั่นไหว ปลายนิ้วแข็งแรงแตะเหนือข้อมือเรียวเหมือนถูกกระแสไฟอ่อนๆ ช็อตจนใจสั่นกระตุก!!? เธอแอบชำเลืองมองใบหน้าคร้ามคมของชายหนุ่ม แล้วจึงนึกหมั่นไส้!! เมื่อหนุ่มต่างชาติขยันโปรยเสน่ห์ถี่เกินไป โดยการแจกรอยยิ้มหวานเรี่ยราด จนสาวๆ และไม่สาวทั้งหลายสะเทิ้นสะท้านเอียงอายเมื่อเผลอไผลสบนัยน์ตากับเขาตรงๆ
รถตู้คันใหญ่จอดรออยู่ตรงประตูทางออกของท่าอากาศยานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อรัชนิชลเดินไปถึงที่ ทุกคนๆ ก็ส่งเสียงร้องทักทายชายหนุ่มด้านหลังกันเสียงดังเซ็งแซ่ โดยเฉพาะสาวน้อยทีมงานที่ร่วมเดินทางไปด้วย ต่างแสดงกิริยาเชิญชวนจนออกหน้าออกตา เธอส่ายใบหน้าแอบชำเลืองมองตัวต้นเหตุที่ยืนทำไม่รู้ไม่ชี้คุยกับเพื่อนๆ ทีมงานอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจปล่อยให้สาวน้อยสาวใหญ่วี้ดว้ายเอ่ยแซวกันตามสบาย รัชนิชลมุดรอดช่วงแขนของทีมงานบางคนที่ยืนขวางทางเดินขึ้นไปนั่งจองที่ด้านหลังสุดของตัวรถยนต์ ตัดปัญหาการแก่งแย่งกันใกล้ชิดกับหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ เธอล้วงโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง ค้นหาเพลงฟังสบายๆ จัดแจงเสียบสมอลทอร์คกับใบหูปิดกั้นการรับรู้รอบตัวๆ ปิดเปลือกตาลงเอนกายพิงเบาะฟังเสียงเพลงแผ่วๆ แทนเสียงวี้ดว้ายของสาวๆ ทีมงาน หลังจากเธอพริ้มตาหลับ ปิดกั้นการรับรู้จึงไม่รู้ว่ามีนัยน์ตายาวรีคอยชำเลืองมองบ่อยๆ จวบจนสิ้นสุดการเดินทางเมื่อถึงที่หมายปลายทาง...