บทที่1. นักข่าวคนใหม่..
รัชนิชลถือเอกสารในมือ เธอกลับมานั่งศึกษาข้อมูลต่อที่ห้องทำงานตัวเอง คิ้วโก่งดังคันศรขมวดแน่นเมื่ออ่านข้อมูลในเอกสารแนบมาไปได้พอสมควร ความต้องการของฮ่องกงคือการเข้าไปค้นหาแนวทางของการศึกษาของเด็กบนดอย เพื่อตีแผ่ให้โลกรู้ถึงความล่าช้าของกระบวนการทางราชการที่กว่าจะยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือ มันช้าเสียจนคนในถิ่นห่างไกล หลงไปกับคำลวงของผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวตามตะเข็บชายแดน รัชนิชลอ่านแทบทุกตัวอักษรเพื่อจะได้ทะลุถึงใจความสำคัญและสิ่งที่ทีมงานต้องการ เธอวนอ่านข้อมูลทั้งหมดจนเกือบได้เวลาเลิกงาน จึงรีบเก็บของบนโต๊ะเตรียมตัวกลับบ้านเหมือนคนอื่นๆ เมื่อรัชนิชลอาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำงานเพราะเป็นการประหยัดค่าเดินทางที่ต้องแบกรับไว้ทุกๆ วัน
หญิงสาวมีถิ่นกำเนิดในจังหวัดหนึ่งของภาคกลาง แต่ความที่ขาดทั้งพ่อและแม่ เนื่องจากท่านทั้งสองคนเสียชีวิตไปแล้วเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์พรากผู้มีพระคุณทั้งสองไปจากรัชนิชลชั่วนิรันดร สาวน้อยจึงอยู่ภายใต้การดูแลของสองตายายที่ไม่ใช่ญาติก็เหมือนเป็นญาติสนิท เพราะทั้งสองท่านคอยดูแลมรดกชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่ของพ่อกับแม่ไว้ให้รัชนิชล ทั้งที่พี่น้องทั้งฝ่ายพ่อและฝ่ายแม่กระเหียนกะหือรือที่จะขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาส่งเสียให้รัชนิชลเรียนต่อ คำเอ่ยอ้างฟังไพเราะแต่การกระทำที่เห็นแก่ตัวแสดงออกมาให้เห็นจนรัชนิชลไม่อาจยอมรับได้ ดีแต่ว่าสงสารตาผันและยายสายรัชนิชลจึงคัดค้านเสียงแข็งไม่ยอมให้ฝูงญาติของตัวเองขายสมบัติชิ้นสุดท้ายทิ้ง หลังจากที่ทยอยขายสมบัติของพ่อและแม่ไปจนเกือบหมด เหลือแค่ที่ดินในจังหวัดอยุธยาติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาสายหลัก ปลูกพืชผักผลไม้หาเลี้ยงตัวและคอยดูแลพื้นที่สวนแห่งนั้นแทนบิดาผู้วายชนม์
รัชนิชลถอนลมหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน เมื่อนึกถึงปูมความหลังที่ผ่านเลยไปแล้ว หญิงสาวถูกตัดญาติขาดมิตร เพราะเรื่องแค่นี้เอง!! เธอถูกเมินเฉยจากญาติพี่น้องที่เหลืออยู่ เพราะขัดความประสงค์ของทุกคนที่พร้อมใจกันรุมทึ้งจนรัชนิชลแทบไม่เหลือสมบัติของพ่อและแม่ติดตัว แววตาของผู้เป็นป้ามองรัชนิชลอย่างเกลียดชัง เมื่อสาวน้อยลุกขึ้นมาประท้วงคัดค้านหัวชนฝาไม่ยอมให้ขายที่ดินผืนสุดท้าย ลุงป้าน้าอา ตัดรัชนิชลออกจากกลุ่มของตัวเองอย่างไม่มีเยื่อใย เธอจึงต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง โดยได้รับความช่วยเหลือจากตาผันและยายสายที่เป็นแค่ลูกจ้างคอยดูแลสวนของพ่อ เงินเก็บของสองตายายส่งเสียให้รัชนิชลเรียนจบโดยไม่ต้องรับความช่วยเหลือของญาติที่คอยตามมาเย้ยหยัน
หญิงสาวจึงนับถือสองตายายเป็นญาติผู้ใหญ่ ให้ความเคารพเหมือนเป็นตากับยายแท้ๆ ทุกวันหยุดรัชนิชลจะต้องกลับไปบ้านที่อยุธยา เพื่อนอนฟังเสียงนกเสียงแมลงที่อยู่ในสวน ผ่อนคลายความตึงเครียดจากเมืองกรุง ที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันและเสียงอึกกะทึกคึกโครม
ตาผันกับยายสายจะเตรียมของอร่อยๆ ไว้รอรับ ทั้งปลาเผาน้ำพริกผักต้มที่รัชนิชลไม่มีโอกาสได้รับประทาน เพราะเหนื่อยแสนสาหัสกว่าจะแบกสังขารกลับมาถึงห้องพักได้ รัชนิชลอมยิ้มเมื่อนึกถึงสองตายาย ความอบอุ่นในชีวิตอย่างสุดท้ายที่เหลืออยู่ ทดแทนอ้อมกอดของพ่อกับแม่ที่จากไป
“คิดถึงตากับยายชะมัด!! สิ้นเดือนว่าจะกลับไปหาเสียหน่อย ดูซิ!! ...มาติดงานเสียอีก อดกินปลาเผากุ้งเผาเลย กลับมาจะลากลับไปนอนกอดตากับยายซักอาทิตย์ เอาให้หายคิดถึงเลยเชียวล่ะ”
รัชนิชลบ่นเบาๆ บนรถเมล์ที่อัดแน่นด้วยผู้คนเป็นปลากระป๋องชีวิตในเมืองกรุงหรูหราแสนสบาย แต่ที่คนภายนอกไม่รู้ว่ามันมีแต่การแก่งแย่งแข่งขัน ไร้ความรักและความอบอุ่น ไม่เหมือนถิ่นชนบทที่เต็มไปด้วยน้ำใจกับความเอื้อเฟื้อ
ดวงตากลมโตเหม่อมองออกไปสองข้างทางที่รถเมล์วิ่งผ่าน สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงมากมายกับผู้คนที่เดินเบียดเสียดแออัดแย่งกันกินแย่งกันดำเนินชีวิต ลมหายใจอ่อนล้าของรัชนิชลถูกผ่อนออกมาจากปลายจมูกเล็กๆ ที่ปลายจมูกเชิดงอนเล็กน้อย เป็นเพราะนิสัยดื้อรั้นแสนซนมาแต่เยาว์วัย