บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ความหวังครั้งใหม่ของนันวรา 2

“เฮียหวังดีกับเธอจริงๆเพราะเฮียรักเธอ ทำไมเธอไม่คิดแบบนี้บ้างน้องนัน” อุเทนจับต้นไหล่กลมกลึงเขย่าด้วยเพลิงโทสะ เขาอุตส่าห์ปั้นหล่อนด้วยความประณีตบรรจง หวังให้เป็นหญิงสาวที่สวยสง่าและเรียบร้อยเหมาะที่จะเป็นภรรยาในอนาคตของเขา

แต่ดูหล่อนเถอะ ปากจัดชอบเถียงฉอดๆ ตาวาววับไม่คิดจะยอมแพ้ ไม่เคยทำอะไรถูกใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

“ถ้าหวังดี ทำไมไม่ส่งฉันเรียนให้สูงๆกว่านี้ล่ะเสี่ย ฉันจะได้มีงานดีๆทำ” หล่อนถามเสียงสั่น หยดน้ำตาเอ่อคลอนัยน์ตาคู่สวยก่อนจะทิ้งตัวลงมาตามแนวแก้ม

หล่อนเคยฝัน อยากเรียนให้จบสูงๆ คาดหวังถึงอนาคตที่จะมีการงานมั่นคงทำ แต่ทุกอย่างก็เป็นได้แค่ฝัน เมื่อตอนนี้หล่อนมีวุฒิแค่ม.6เท่านั้น สมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะที่ทำงานส่วนใหญ่มักต้องการพนักงานที่เรียนจบสายอาชีพ หรือปริญญาตรี

อุเทนให้เวลาหล่อนหางานทำเพียง15วันเท่านั้น เมื่อครบกำหนด ชายชราก็สั่งห้ามหล่อนออกจากบ้านอีก โดยได้ทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่งที่หล่อนยังจำได้ขึ้นใจมาจนถึงทุกวันนี้

‘เฮียให้โอกาสเธอในการหางานทำเพื่อใช้ชีวิตอยู่ให้ได้ด้วยตัวเองแล้วนะ แต่เมื่อครบจำนวนวันที่กำหนดแล้ว แต่เธอยังหางานทำไม่ได้ เธอก็ต้องอาศัยพึ่งพาเฮียต่อไป นับจากนี้เธอห้ามออกไปไหนตามลำพัง เธอต้องเข้าครอสเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่ดีของเฮียเมื่ออายุครบ 20ปี’

ดั่งนกน้อยที่ถูกจับยัดใส่คุกเหล็ก อึดอัด เจ็บปวดจนอดนึกถึงอดีตเมื่อวันวานไม่ได้…เมื่อ6ปีที่แล้ว หล่อนยังเป็นเด็กหญิง เคยมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เกิดฝนดาวตกขึ้น

แสงสีขาวพุ่งปราดตกจากฟากฟ้ามีนับสิบนับร้อย และหล่อนก็ไม่รีรอที่จะยกมือพนมกลางอก วอนขอด้วยน้ำตานองใบหน้า

“เขาว่ากันว่า หากเห็นดาวตกให้รีบอธิษฐาน แล้วสิ่งที่ปรารถนาจะสมหวังทุกประการ ถ้าเช่นนั้นฉันจะขอ ขอให้ฉันได้พบคนดีที่สามารถปกป้องฉันได้ และขอให้…ชีวิตฉันนับจากวันนี้ไปได้รู้จักคำว่า ‘ความสุข’ เสียที”

หลังจากขอพรเสร็จในอีก1อาทิตย์ถัดมา หล่อนก็ต้องออกจากสถานสงเคราะห์ที่คุ้นเคยเพื่อไปอยู่ในความอุปการะของเศรษฐีชราที่ชอบมองหล่อนด้วยสายตาเปี่ยมด้วยราคะเสมอ

อุเทนยื่นมือเข้ามาโอบกอดเด็กสาววัย14ปีราวผู้ใหญ่ที่แสนใจดี แต่มีเพียงหล่อนเท่านั้นที่รู้ดีว่าภายใต้ท่าทางนักบุญของชายสูงวัยคนนี้คือความต้องการที่เปี่ยมด้วยตัณหา

อุเทนเฝ้ารอเนิ่นนานหลายปีจนหล่อนเรียนจบมัธยม เขาก็กักตัวหล่อนไว้เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าสาววัยกระเตาะของเขา

ใครจะคิดล่ะว่าหลังจากที่หล่อนอธิษฐานขอพร จากนั้นชีวิตหล่อนจะไม่เคยได้รู้จักรอยยิ้มอีกเลยเมื่อต้องมาตกอยู่ในกำมือของผู้ชายโรคจิตอย่างอุเทน

“เพราะถ้าเธอเรียนสูง เธอก็จะรู้จักเอาตัวรอดน่ะสิ เฮียไม่อยากให้เธอฉลาดเกินไปนัก เธอจะได้ไม่คิดแข็งข้อกับเฮีย ที่สำคัญ…เรียนน้อยๆก็ดีแล้ว เธอจะได้ไม่มีงานดีๆให้เลือกมากนัก เธอคงไม่อยากลำบากตกงาน ไม่มีเงิน หรือไม่ก็ไปทำงานแบกหามเหนื่อยๆหรอกใช่ไหม ดังนั้นให้เฮียเลี้ยงดูเธอเถอะนะ เธอควรจะดีใจที่เฮียให้โอกาสเธอได้เป็นเมียออกหน้าออกตา ชีวิตเธอจะได้มีแต่ความสุขสบาย ใส่ทองเส้นโตๆ กินอิ่ม นอนอุ่น”

“นั่นไง เสี่ยหวังดีกับฉันตรงไหน ที่แท้ก็หวังตัวฉัน เสี่ยคิดถึงแต่ตัวเอง !” เมื่อสิ้นสุดความอดทน หญิงสาวจึงตะโกนลั่น และผลจากคำพูดประโยคนั้นของหล่อนก็ทำให้ชายชราตาลุกวาบผลักร่างบางจนล้มลงกับพื้น พร้อมชี้หน้า

“นับวันจะยิ่งปีกกล้าขาแข็ง คนอย่างเธออยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีเฮีย เธอไม่มีทางเลี่ยง ยังไงซะอีกไม่กี่วันเธอก็ต้องตกเป็นของเฮีย แล้วก็ไปกินข้าวเช้าเสียนะ ข้าวเช้ามีประโยชน์ต่อร่างกายและสมอง ส่วนตอนเย็นไม่ต้องกิน ดื่มแค่นมก็พอ เฮียไม่อยากได้เมียอ้วนๆ ถ้าเธอน้ำหนักขึ้นแม้แต่ขีดเดียว เฮียจะลงโทษเธอ” พูดจบก็สะบัดหน้าเดินกระแทกเท้าปึงปังออกจากห้องไปด้วยสีหน้าถมึงทึง ทิ้งให้นันวรานั่งสะอื้นไห้อยู่ตามลำพัง

เคราะห์ดีที่อุเทนเป็นชายแก่หัวโบราณที่ไม่นิยมมีอะไรกับผู้หญิงก่อนวันแต่งงาน ไม่เช่นนั้นป่านนี้หล่อนคงย่อยยับไปหมดทั้งตัวและหัวใจ

ก่อนที่จะถึงวันเกิด หล่อนจะต้องหนีไปจากที่นี่ และคนที่จะช่วยหล่อนได้ก็มีเพียงตติยะเท่านั้น !

หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ นันวราก็นั่งอ่านหนังสือในห้องโถงเล็กๆ บนโซฟาตัวแคบๆที่หล่อนมักจะมานั่งเล่นเสมอ

หล่อนไม่มีสมาธิเอาเสียเลย แม้มือจะถือหนังสือ แต่ดวงตากลับไพล่มองไปทางคนรับใช้ หล่อนนึกไปเองหรือเปล่านะถึงรู้สึกราวกับว่าชบาคอยเหลือบตามามอง และสายตาคู่นั้นก็ทำให้หล่อนร้อนรนจนอยู่ไม่เป็นสุข

“ชบามีอะไรหรือเปล่าถึงมองฉันแปลกๆ”

“เอ้อ…เปล่าค่ะ แค่นึกสงสัย”

“สงสัยอะไร”

“สงสัยว่าคุณน้องนันจะมีกิ๊กน่ะสิคะ”

ประโยคนั้นของชบาเล่นเอาหล่อนมืออ่อนจนทำหนังสือตกพื้น ดวงตากลมโตเบิกกว้าง รีบลุกจากโซฟามาปิดปากสาวใช้

“จุ๊ๆ อย่าพูดดังสิ หน้าต่างมีหูประตูมีช่องนะ เมื่อคืนชบาได้ยินเหรอ” หล่อนค่อยๆปล่อยมือออกจากปากอีกฝ่าย

“ก็…เอ้อ ค่ะ ได้ยิน” ชบาพยักหน้ารับ พร้อมรอยยิ้มแหยๆ “ขอโทษนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอก แต่ชบาตื่นเพราะเสี่ยเท่งเคาะประตูบ้านโครมๆ พอว่าจะไปนอนต่อก็ได้ยินเสียงผู้ชายในห้องของคุณน้องนันเสียก่อน”

นันวราหน้าเผือดสี ด้วยความหวั่นกลัวว่าอุเทนจะรู้เรื่องนี้ หล่อนจึงลงทุนคุกเข่าต่อหน้าชบาแล้วยกมือขึ้นไหว้

“อุ๊ย อะไรกันคะคุณน้องนัน จู่ๆมาไหว้ชบาทำไม รีบลุกเถอะค่ะ มันไม่เหมาะ”

“ไม่ ฉันจะไม่ยอมลุกจนกว่าชบาจะรับปากฉัน”

“จะให้ชบารับปากอะไรล่ะคะ” ถามเสียงอ่อนพลางมองหน้าผู้ที่มีศักดิ์เป็นเจ้านายอีกคนด้วยแววตาเห็นใจ

“อย่าบอกเรื่องนี้กับเสี่ยเท่งได้ไหม”

ชบาไม่ต้องมัวคิดให้เสียเวลา หล่อนทรุดลงนั่งตรงหน้านายหญิงพลางจับมือเล็กมากุมไว้อย่างปลอบโยน เพราะความที่อยู่ใกล้ชิดนันวรามาโดยตลอดทำให้หล่อนรู้และเข้าใจเป็นอย่างดี

การที่ต้องทิ้งช่วงชีวิตวัยรุ่นแล้วอยู่ในบ้านที่เปี่ยมด้วยความสบายแต่ไร้ซึ่งความอบอุ่นและความสุข ขาดอิสระด้านความคิดและการกระทำ ต้องอยู่ในกรอบที่อุเทนตั้งไว้ ซ้ำยังโดนคำพูดร้ายกาจกรอกใส่หู ทนถูกทารุณทางจิตใจและร่างกายอยู่บ่อยครั้ง หากนันวราแต่งงานกับอุเทนก็เท่ากับต้องตกอยู่ในน้ำมือของตาเฒ่าไปตลอดชีวิต

“ชบาไม่บอกเสี่ยเท่งหรอกค่ะ ชบาเข้าใจคุณนะคะว่าคุณกดดันและเศร้ามากแค่ไหน หลายปีมานี้ที่ได้อยู่กับคุณ ชบาไม่เคยเห็นคุณยิ้มเลย”

“ฉัน…ฉันไม่อยากแต่งงานกับเสี่ยเท่ง” น้ำเสียงสั่นเครือมาพร้อมหยาดน้ำที่เอ่อคลอดวงตาคู่สวย ซึ่งชบาก็มีทีท่าเห็นใจอย่างเห็นได้ชัด

“ชบารู้ ชบาเข้าใจ ชบาอยากทำเพื่อคุณ อยากเห็นคุณมีความสุขสักครั้งในชีวิต ขอให้ชบาได้ช่วยคุณเถอะนะคะ”

เหมือนดอกไม้แห้งแล้งถูกน้ำรดจนชุ่มฉ่ำ นันวราเริ่มมีความหวังอีกครั้งว่าจะหนีพ้นชายชราบ้าราคะ หล่อนโผเข้ากอดสาวรับใช้พร้อมพร่ำพูด

“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณ…”

“ไม่เป็นไรค่ะ ชบาได้ยินแว่วๆว่าผู้ชายคนนั้นอยากได้แหวนเพื่อแลกกับการเสี่ยงพาคุณหนีไป”

“ใช่ ชบาช่วยฉันหน่อยนะ ช่วยหาแหวนให้ที” หญิงสาวรีบขอร้อง ตอนแรกหล่อนกังวลไม่น้อยว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะเข้าไปในบ้านใหญ่ได้โดยไม่ต้องเจอหน้าอุเทน

“ได้ค่ะ” ชบาผละออกห่างจากนายสาว พลางยิ้มละไม “ชบาเข้าไปในบ้านใหญ่บ่อยๆเพื่อจัดเตรียมอาหารมาให้คุณน้องนัน เดี๋ยวจะหาแหวนให้นะคะ ช่วยบอกรูปลักษณ์ของแหวนให้ชบารู้ด้วย”

“จ้ะ…นี่เป็นรูปแหวนที่คุณต้นให้มา” มือบางล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อก่อนหยิบภาพถ่ายใบเก่ามาส่งให้

ชบายื่นมือไปรับพลางขมวดคิ้วมุ่น “ที่แท้ก็เป็นแหวนมีค่าที่เก่าแก่นี่เอง มิน่าล่ะเสี่ยเท่งถึงอยากได้จนต้องไปขโมยเขามา คุณน้องนันไม่ต้องเครียดนะคะ ไม่ว่ายังไงชบาก็ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แหวนวงนี้มาให้ได้”

ได้ยินชบารับปากเช่นนั้น นันวราก็สบายใจ ใบหน้าเรียวสดชื่นขึ้น หล่อนสวมกอดสาวใช้อีกครั้ง ก่อนที่ชบาจะขอตัวไปเตรียมแบ่งอาหารจากบ้านใหญ่มาให้นายสาว โดยจะไปดูลาดเลาเรื่องแหวนด้วย

นันวราก็ได้แต่ภาวนา…สาธุ ขอให้ชบาหาแหวนเจอทีเถอะ หล่อนจะได้หลุดพ้นจากความทุกข์ครั้งนี้เสียที !

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel