3 ทีเด็ดอี้จี 1
“ดี ข้าจะได้เห็นถันของเจ้าถนัดตา อา สวย งามแล้วก็ใหญ่ หัวนมเจ้าสีชมพูราวกับกลีบบัวสวรรค์”
เศรษฐีจางเหว่ยแสดงอาการกระหายใคร่กามอย่างชัดเจน อี้จีคนงามแห่งสำนักโคมเขียวถึงกับใจเต้นระรัว แม้นางผ่านการร่วมสวาทกับบุรุษนักเที่ยวมาพอสมควร แต่ไม่เคยมีผู้ใดบ่งบอกอาการกระหายใคร่กามมากเท่าชายผู้นี้
“ท่านเศรษฐีจางเหว่ย ข้าคิดว่าท่านดื่มสุราก่อนแล้วเราก็เล่นไพ่นกกระจอกกันดีไหมหรือว่าท่านจะฟังข้าเล่นพิณ ขับร้องแล้วร่ายรำ”
นางคณิกาอี้จีนามเหมยให้เศรษฐีจางเหว่ยเป็นผู้เลือก ว่าจะให้นางมอบความสำราญในรูปแบบใดเพราะนางไม่ปรารถนาที่จะร่วมสวาทกับเขา
ความรุนแรงที่มีอยู่ในกมลสันดานคือสิ่งที่นางขลาดกลัว ทว่าเศรษฐีจางเหว่ยหาได้สนใจสิ่งที่แม่นางเหมยเสนอไม่
“ไม่ ข้าไม่ต้องการให้เจ้าทำในสิ่งเหล่านั้น ข้าปรารถนาที่จะร่วมสวาทกับเจ้ามากกว่า ในเมื่อข้าจ่ายเหรียญทองให้เจ้าเป็นพิเศษมากแล้ว มานี่เถิดแม่นาง เตียงฝังมุกที่นอนนุ่มๆ ยัดด้วยฝ้ายชั้นดี ปูด้วยผ้าแพรลื่นนิ่ม มันเหมาะที่จะรองรับเรือนร่างเปลือยเปล่าของเราทั้งสอง ให้พากันล่องลอยไปสู่แดนสุขาวดี”
เศรษฐีจางเหว่ยกระชากร่างที่ไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกายเข้ามาแล้วกดแม่นางเหมยลงกับเตียงเต็มแรง จนนางสะดุ้งแล้วสูดปากด้วยความเจ็บปวดเพราะหัวโขกกับขอบเตียง ปิ่นมุกกระเด็นตกลงไปที่พื้น นางทำท่าจะลุกไปเก็บ แต่บุรุษกระหายกามกลับจับมือนางไว้แล้วกดข้อมือลงกับที่นอน ร่างหนาใหญ่ทาบลงไป ใบหน้าฉุแนบชิดกับใบหน้ารูปไข่สวยแล้วจูบแก้มทั้งซ้ายและขวาจนนางเบือนหน้าหนีเพราะเหม็นลมหายใจที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นสุรา
“อืม ท่านเศรษฐีจางเหว่ย พอก่อนเถิด”
“ทำไมเล่า แม่นางเหมยทำไมชอบขัดใจข้านัก”
“ข้าไม่ได้ขัดใจท่าน เพียงแต่ข้าหายใจไม่ค่อยออก ตัวท่านหนักนอนทับเช่นนี้ ข้าอาจจะสิ้นลมเอาง่ายๆ”
เหตุผลที่อี้จีเหมยยกขึ้นมาอ้างนั้น เศรษฐีจางเหว่ยชะงักการระดมจูบแล้วลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะดังๆ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า จริงสินะ ข้าลืมไป ว่าตัวแม่นางเหมยแบบบางแค่นี้แล้วข้าตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ เรือนร่างเจ้าไม่อาจทานข้าได้ เช่นนั้นเจ้าจงขึ้นมาอยู่บนตัวข้าเถิด ข้าชอบ อืม เจ้าอย่าลืมเปลื้องผ้าออกให้ข้าด้วย”