พันตำรวจตรีปลอมตัวมา !
“ เฮ้ย ๆ นี่แกทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ใช่ลูกผู้ดีมีตังค์ หรือว่าถ้าจะเอาไปข่มขืนละก็ คิดผิดอย่างมาก ฉัน เอ่อ.. ฉันเป็นเอดส์ ! ”
นี่แน่ะ โดนไม้นี้ไปเป็นไง
แต่ไอ้โรคจิตก็ไม่ยักจะสนใจ มันยิ้มนิด ๆ ก่อนปิดประตูฝั่งเธอแล้วเดินมาขึ้นฝั่งคนขับ เปิดประตูขึ้นมานั่ง สตาร์ทรถ แล้วเริ่มบทสนทนา
“ ผมจะถามคำถามกับคุณ แต่ขอให้ตอบความจริงทุกประการ ห้ามโกหก อย่างเช่นเรื่องที่คุณบอกว่าคุณเป็นเอดส์ ผมจะพาไปตรวจเลือดตอนเช้า ถ้าไม่เป็นจริงผมยิงคุณทิ้งเดี๋ยวนั้นแน่ ”
มันพูดเสียงเรียบ ๆ ก่อนหยิบปืนขึ้นมากระชับไว้ที่มือขวาชดช้อยเบิกตากว้าง
“ โอเค ๆ ถามอะไรก็ถามมา ไม่ได้เป็นหรอกเอดส์ พูดไปงั้นแหละ กลัวคุณเอาฉันไปข่มขืน ” มันหัวเราะหึ ๆ ก่อนเริ่มบทสอบสัมภาษณ์บทแรก
“ คุณทำงานนี้มานานแค่ไหนแล้วคุณชดช้อย หลอกลวงผู้ชายไปลอกคราบเนี่ย ” ชดช้อยหัวขวับ ทำไมมันรู้ชื่อจริงเธอวะ
“ ฉันชื่อชีสซี่ ไม่ใช่ชดช้อย ”
“ ผมบอกแล้วว่าอย่าโกหกผม ผมรู้ทุกเรื่อง ” หญิงสาวหุบปากทันควัน อ้อมแอ้มถาม
“ คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง ” มันไม่ตอบ แต่ถามย้ำอีกที
“ ทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว ”
“ ฉัน เอ่อ ฉันไม่ได้ทำอย่างที่คุณพูด ”
มือใหญ่ขยับกระชับไปยังวัตถุสีดำมะเมื่อมที่อยู่ในมือ เล่นเอาชดช้อยร้อน ๆ หนาว ๆ
“ เอ่อ คือ ก็แค่ถูกใจกันในผับแล้วไปต่อที่โรงแรม แหม นี่มันสมัยไหนแล้วคุณ วันไน้ท์แสตนด์ดิ้งน่ะ คุณไม่รู้จักเหรอ เขาทำกันเยอะแยะ ใครใคร่ขี่กันก็ขี่ ไม่ผูกมัด ”
“ ผมรู้ แต่วันไน้ท์แบบลอกคราบไปด้วยเนี่ย มันผิดกฎหมาย ”
“ ฉันไม่ได้ลอกคราบใคร ”
“ คุณหิ้วเสี่ยต๋าเข้าไปปลดทรัพย์ ”
“ ฉันไม่ได้ปลดทรัพย์ เสี่ยยินยอม เรานอนด้วยกันแล้วแกก็ให้เงินเป็นการตอบแทน ฉันผิดอะไรตรงไหนไม่ทราบ ”
“ ผิดสิ เสี่ยมีลูกมีเมียแล้ว ”
“ โอ๊ย ลูกเมียอะไรใครสน ไอ้หมูนั่นมันหื่นกามจะตาย นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณนะ เกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย ”
“ มันก็จะไม่เกี่ยวหรอก ถ้าไอ้หมูหื่นกามที่คุณพูดถึง เขาไม่ใช่ลุงเขยผม เป็นสามีของป้าที่ผมรัก และท่านเลี้ยงผมมา ”
ชดช้อยสะดุ้ง หันขวับไปมองหน้าไอ้โรคจิต ยังไงดี ยังไงดี หาทางเอาตัวรอดสิฟะ
“ เอ่อ คือว่า ฉันไม่ได้ผูกมัดอะไรกับลุงคุณเลยนะ อย่าฆ่าฉันเลยนะ ฉันสัญญาเลยว่าจะไม่ยุ่งกับลุงของคุณอีก สาบานก็ได้ นะ ปล่อยฉันไปเถอะ ” มันยิ้มมุมปาก
“ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก ” แล้วก็นิ่งเงียบไป ไอ้ความเงียบของมันนี่แหละที่ทำให้เธอจะเป็นประสาท ไอ้พวกฆาตกรต่อเนื่องมันก็จะนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แบบนี้แหละ เธอเคยดูในหนังบ่อย
มันยิ่งนิ่ง เธอยิ่งกลัว เอาไงดีวะ !
“ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันสาบานจริง ๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับลุงคุณ ไม่ได้อยากแย่งมาจากป้าคุณหรอก ลุงคุณสารรูปอย่างนั้นใครจะไปเอาลง เอ่อ ฉันหมายถึงว่า ฉันไม่ได้อยากได้เขาจริง ๆ เราแค่สนุกกัน โอเคนะ ปล่อยฉันไปเหอะนะ ”
เธอพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ มันก้มลงมองปืนในมือแล้ว หมุนเล่นไปมา ยิ่งทำให้เธอประสาทเสีย
“ คิดดี ๆ ใจเย็น ๆ นะคุณ บ้านเมืองมีขื่อมีแป คุณทำร้ายฉันไปก็ไม่ได้อะไร แล้วปืนคุณน่ะมีทะเบียนหรือเปล่า ถ้าไม่มีโดนปรับอานเลย เผลอ ๆ ติดคุกตลอดชีวิตเลยเอ้า ผิดกฎหมายนะ แล้วรู้ไหมว่าการที่คุณเอาฉันมาขังไว้บนรถเนี่ย ตามมาตราที่สามร้อยยี่สิบ วรรคแปด ว่าไว้ โดนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวได้ ยิ่งถ้าคุณทำร้ายฉันละก็ ประหารเจ็ดชั่วโคตรเลย บอกไว้ก่อน ”
มั่วกฎหมายมาคุยกับมันเผื่อมันจะกลัว เปล่าเลย มันแค่หัวเราะหึ ๆ อีกแล้ว แต่เธอก็ยังแพล่มต่อเพื่อเอาตัวรอด
“ ไม่เคยรู้เลยล่ะสิ กฏหมงกฏหมายเนี่ย ถือว่าฉันบอกให้เอาบุญก็แล้วกัน ให้ความรู้เพิ่มเติม คุณจะได้ไม่ไปทำแบบนี้กับใครอีก เอาเป็นว่าฉันไม่เอาเรื่องเอาราวคุณหรอก ปล่อยฉันไปเถอะนะ เราตกลงกันแล้ว ตามนั้น ”
“ ผมจะไม่รู้กฎหมายได้ยังไง ในเมื่อผมเป็นคนใช้กฎหมาย ”
“ อะไรนะ ! ”
“ ผม พันตำรวจตรีคีริน อินทรยาดุล สารวัตรกองป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ”
มันพูดเรียบ ๆ เล่นเอาเธออ้าปากหวอ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ
“ แหม พูดพล่อย ๆ ใครก็พูดได้ ฉันจะบอกว่าฉันเป็นพันตำรวจโทปลอมตัวมาก็ยังได้เลย ยศใหญ่กว่าคุณอีก ”
“ ก็แล้วแต่คุณนะ จะเชื่อไม่เชื่อ แต่ผมมีหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับที่คุณ นางสาวชดช้อย และเพื่อนสนิท นางสาวหวานใจ ร่วมมือกันใช้ยานอนหลับผสมลงไปในเครื่องดื่มเพื่อให้เหยื่อหลับแล้วรูดทรัพย์ คุณรู้ไหมว่าโทษมันร้ายแรงแค่ไหน คุณทำมากี่ครั้งแล้ว คูณเข้าไปตามจำนวนเหยื่อ ”