ฆาตกรโรคจิต
“ พิกกี้อ่ะ อย่าพึ่งสิคะ ใจเย็น ๆ ก่อน ”
“ พิกกี้ใจเย็นไม่ไหวแล้ว ชีกซี่จ๋า ขอให้พิกกี้ได้ขยำ ขยี้ ขย่มให้สาสมใจเถอะนะจ๊า อั๊วคิดถึงลื้อจนแทบจะซี้เลี้ยว ”
พูดพลางก้มหน้าลงไปทำท่าจะคลุกวงในที่ร่องอกอิ่ม อีกข้างบีบเข้าไปแล้วเต็ม ๆ ชดช้อยทนไม่ไหวยกเท้าข้างหนึ่งถีบไปที่เสี่ยต๋าคู่ขาสุดหื่นเต็มแรง จนหล่นลงจากเตียงดัง แอ้ก !
“ โอ๊ย อาชีกซี่ ทำไมลื้อถีบอั๊วแบบนี้ ซี้เลี้ยวมั้ง กระหลูกกระเลี่ยวอั๊ว ”
“ สม ไอ้หมูหื่น ”
ชดช้อยขมุบขมิบอุบอิบอยู่คนเดียว แต่ก็แสร้งฉีกยิ้มก่อนคลานลงจากเตียงมาพยุงเสี่ยต๋าให้ลุกขึ้น
“ โถ ขอโทษนะคะพิกกี้ ก็ชีสซี่ตกใจนี่ พิกกี้เล่นบีบนมชีสซี่ซะแรงเลย อารมณ์มันเลยขึ้น เอาอย่างนี้นะคะ ชีสซี่ยอมให้พิกกี้ลงโทษทุกอย่าง ทุกอย่างเลย ”
พูดพลางแกล้งเบียดสองเต้าเข้าหากีบหมู เอ๊ยแขนอ้วนป้อม แค่นั้นต่อมหื่นก็โหมกระพือ หัวหูแดงยิ่งกว่าตูดลิง กระโจนเข้าใส่เธอเหมือนหมูกระโจนเข้าหาอาหาร มือเรียวรีบยกขึ้นบังจมูกที่กำลังหายใจฟืดฟาด
“ อย่าพึ่งสิคะ ชีสซี่อยากให้พิกกี้อาบน้ำตัวหอม ๆ ก่อน เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะชีสซี่ อยากกินไส้กรอกของพิกกี้ จะกินให้หมดอันเลย ” อาเสี่ยใหญ่ตื่นเต้นจนตัวสั่น
“ โอเค อั๊วจารีบอาบให้ไวเลย แล้วเดี๋ยวจามาป้อนไส้กรอกให้นะจ๊ะ ชีกซี่ของพิกกี้ ”
พูดจบก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ทิ้งแม่เสือสาวให้ดำเนินตามแผนอย่างสบายใจอยู่ด้านนอก ยานอนหลับไร้สีไร้กลิ่นถูกเทลงไปในแก้วก่อนที่เธอจะเปิดเบียร์เย็นเจี๊ยบจากในตู้เย็นเทตามลงไปก่อนนิ้วเรียวยาวจะจุ่มลงไปในแก้วแล้วคนให้เข้ากัน
“ ไอ้หมูหื่น ทีนี้กูเพิ่มปริมาณยาเป็นเท่าตัว อยากดื้อยาดีนัก รับรองกูเต้นไม่ถึงสองกระบวนท่า มึงซี้แหงแก๋แน่ ”
อีกสิบห้านาทีต่อมา หญิงสาวก็เปิดประตูออกมาจากห้อง ชุดเซ็กซี่ที่สวมมาในตอนแรกถูกเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนเสื้อยืด ใบหน้าที่ฉาบมาหนาเตอะก็ถูกล้างออกก่อนทาเพียงแป้งฝุ่นบาง ๆ กับลิปสติกกลอสไร้สี เธอหยิบบลูธูทขึ้นมาสวมหู ก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาเพื่อนรัก
“ เออ เรียบร้อย ทีนี้กูเพิ่มยาสองเท่าตัว กูยังเต้นท่าแรกไม่จบแม่งหลับคาโต๊ะละ กูต้องลากมันไปตายบนเตียงอีก หนักชิบหาย...
สองหมื่นสี่ว่ะ เหนาะ ๆ ....
โอเค มารับกูที่ป้ายรถเมล์นะ โรงแรมเดิมแหละ ป้ายเดิม ”
ขณะกำลังสาวเท้าเพื่อไปที่ลิฟท์ พลันมีมือหนึ่งจับไหล่ซ้ายเธอไว้ ขมับข้างขวาถูกวัตถุแข็ง ๆ เย็น ๆ จ่อ ชดช้อยสะดุ้งเฮือก ตัวแข็ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงทุ้มเยือกเย็นเอ่ยเบา ๆ ใกล้ใบหู
“ ถ้าคุณแหกปาก ไกมันจะลั่น เดินไปนิ่ง ๆ ทำตัวให้เป็นปกติ ”
เขาบอกก่อนจะพาเธอไปยังลิฟท์ กดเลือกชั้นกราวด์อันเป็นลานจอดรถ หัวใจชดช้อยเต้นตึกตัก มันเป็นใคร ประสงค์อะไรกับเด็กสลัมอย่างหล่อนนะ
“ แกต้องการอะไร ฉันไม่ใช่ลูกผู้ดีมีเงินนะ จะมาจับฉันไปเรียกค่าไถ่เหรอ ”
มันไม่ตอบ มีเพียงเสียงหัวเราะหึ ๆ ในลำคอเบา ๆ ตอบกลับมา
ชดช้อยแอบมองเงามันที่สะท้อนจากกระจกในลิฟท์ ผู้ชายแน่ละ เพราะเธอได้ยินเสียงแล้ว สูงใหญ่ราวเมตรแปดสิบกว่า ๆ ใบหน้าเป็นอย่างไรไม่ทราบเพราะสวมหมวกแก๊ปแล้วดึงลงมาบดบังใบหน้าบางส่วน เห็นเพียงจมูกโด่งกับใบหน้ายาวที่มีหนวดเครารกครึ้มปกคลุมอยู่
หรือมันจะเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรโรคจิตอะไรทำนองนั้นวะ !
ชดช้อยตัวชาวาบตั้งกะหัวจรดปลายเท้า ได้แต่คิดกลับไปกลับมา
อย่านะมึง อย่ามาโรคจิตกับกู กูมีแม่มีน้องต้องรับผิดชอบ
สมองคิด หัวใจเต้นตึ้กตั้กด้วยความกลัว สายตาสอดส่ายพยายามมองทางหนีทีไล่ ถ้าลิฟท์เปิดออกเธอจะผลักมันแล้ววิ่งออกไปอย่างเร็วจี๋ ตายเป็นตาย ต้องเสี่ยงกันหน่อยละวะ
“ ไม่ต้องคิดจะหนีตอนที่ประตูลิฟท์เปิดนะ คุณไม่มีทางวิ่งเร็วกว่าลูกปืนผมหรอก ” ไอ้บ้า อ่านใจได้อีก หมดกัน !
“ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก แค่อยากจะคุยด้วย ”
ประตูลิฟท์เปิด เขาจับแขนเธอกึ่งผลักกึ่งดันให้ไปตามทางที่เขาต้องการ ก่อนจะใช้รีโมทกดเปิดประตูรถเจ็ดที่นั่งสีดำสนิท รุนหลังเธอให้ขึ้นไปนั่งฝั่งข้างคนขับ แต่เขาจับมือเธอไพล่หลังแล้วใช้อะไรบางอย่างพันธนาการเธอไว้ดัง คลิ๊ก !