รักเหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ

“ เฮ้ย กูเจอไอ้หมูต๋าอีกแล้วว่ะ ”

ชดช้อยหรือชีสซี่ที่วันนี้อยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงเพลิงสั้นเลยเข่าไปนิดนึง รัดรูปเสียจนน่ากลัวจะหายใจไม่ออก หน้าอกหน้าใจอวบอิ่มที่มีอยู่พองามถูกบราไร้ปีกเสริมฟองน้ำดันออกมาจนล้นทะลัก หุ่นสวยคล้ายนาฬิกาทรายไร้ไขมัน กับรองเท้าส้นสูงสี่นิ้ว ยิ่งส่งให้ร่างสวยโดดเด่นมากขึ้น ผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้าคมที่แต่งหน้ามาพอประมาณ ยิ่งทำให้เธอดูน่ามองน่าหลงใหล ท่าเดินที่บิดสะโพกยั่วเย้าไปมา ยิ่งทำให้เหล่าจ็อกกิ้งผู้มากตัณหาอยากจะขึ้นขี่อาชาตัวนี้เสียเหลือเกิน

เธอกรอกเสียงผ่านบลูทูธที่เสียบใส่ในหูเพื่อคุยกับเพื่อนซี้ที่ปลายสาย ระหว่างเยื้องย่างเข้าไปหาเหยื่อสำหรับคืนนี้ที่ ‘ อิชชี่ผับ ’ ผับแอนด์เรสเตอร์รองท์อันหรูหรา สำหรับผู้ดีมีราคามานั่งดริ๊งค์

“ ไอ้หมูต๋าไหนวะ ” หวานใจส่งคำถามกลับมา

“ เอ้า ก็ไอ้หมูต๋าที่ยาออกฤทธิ์ช้าไงเล่า ที่กูเต้นจนเอวเคล็ด ”

“ อ๋อ มันจะจำมึงได้ป่ะ ”

“ จำได้ซี่ พิกกี้จะลืมชีสซี่ลงเชียวเหรอ เดี๋ยวกูจะพามันไปขึ้นสวรรค์อีกคืนนี้ แค่นี้ก่อน มันเห็นกูแล้ว ”

“ โอเค ระวังตัวด้วยล่ะ กูเป็นห่วง ”

ปลายสายถูกตัด ชดช้อยถอดบลูทูธออกจากหูก่อนหย่อนลงไปในกระเป๋าหลุยส์ก๊อปปี้ใบละสามร้อยห้าสิบ ดึงเดรสให้ต่ำลงไปเผยให้เห็นหน้าอกหน้าใจทะลักล้นออกมาแทบจะค่อนเต้าอยู่แล้ว ก่อนกวัดไกวสะโพกโยกย้ายเยื้องกรายไปใกล้โต๊ะที่เสี่ยต๋านั่งเบิกตาเล็กหยีจนแทบจะทะลุออกมานอกเบ้า เมื่อเห็นคู่ขาเก่าแสนเร้าใจเดินเข้ามาใกล้ ได้ทียิ่งคุยโวให้เหล่าเสี่ยเมียเผลอทั้งหลายว่าไปให้เธอเขย่าไข่มาทั้งคืนแล้ว

“ เฮ้ย จริงเหรอเสี่ยต๋า คนที่กำลังเดินมาเนี่ยนะ ”

“ ใช่สิ อั๊วไม่อยากจะคุย อีชื่ออาชีสซี่ ดุอย่างกับแม่เสือลูกอ่อน คึกยิ่งกว่าม้าศึก ถุงยางสองกล่องเชียวน้า ”

“ ลื้อเนี่ยนะอาต๋า ถุงยางสองกล่อง ”

เสี่ยเพ้งเจ้าของโรงสีสวนขึ้นทันควัน สภาพเพื่อนร่วมโต๊ะนั้นทั้งอ้วนทั้งแก่ ซึ่งไม่ต่างจากตัวเขาเองเท่าไหร่ การมาพูดจาคุยโวว่าแกได้ไปนอนกับเสือสาวไวไฟแถมหมดถุงยางไปสองกล่องก็เท่ากับหกน้ำ มันมากไปโว้ย มากไป

“ ของอั๊วะแค่จะน้ำเดียวก็ปั่นจะแย่ ” เสี่ยเพ้งบ่นอุบอิบเบา ๆ

แต่เสี่ยต๋ายังไม่ทันได้ตอบ เพราะอาชีสซี่เดินทิ้งสะโพกมาใกล้ แกจึงพยายามย้ายร่างอ้วนกลมละม้ายคล้ายโอ่งแดงออกมายืนดัก

“ อาชีสซี่ของพิกกี้ ”

ชดช้อยแสร้งสะดุ้ง เอามือทาบอก

“ อุ๊ย ตกใจหมดเลย สวัสดีค่ะเสี่ยขา ”

มือขาวอ้วนป้อมคล้ายกีบหมูยื่นออกมาโอบเอวคอดแล้วรั้งเข้ามาใกล้

“ ตกใจอาราย มามะ เดี๋ยวพิกกี้จะปลอบขวัญให้ ”

พูดพลางรั้งใบหน้าคมลงมาหาร่างอ้วนเตี้ยของตนแล้วสูดดมไปที่แก้มนวลดังฟืดฟาดคล้ายหมูกำลังหิวอาหาร ชดช้อยคนงามรีบผลักใบหน้าอวบอูมนั้นให้ออกห่าง แล้วรีบเปลี่ยนใบหน้าเบ้เพราะขยะแขยงเป็นยิ้มหวานอย่างเอาอกเอาใจ

“ วันนั้นน่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ชีสซี่กลับโดยไม่บอก เห็นเสี่ยกำลังหลับอยู่ ชีสซี่เกรงใจ เลยอาบน้ำแล้วออกไปเพราะตอนเช้ามีเรียน ไม่มีเบอร์โทรติดต่อเสี่ยเลย ชีสซี่ คิดทึ้ง คิดถึงใจจะขาด ”

อาเสี่ยหมูอ้วนหัวเราะเสียงดัง พุ่งกระเพื่อม

“ ถ้าอย่างนั้นเราไปรำลึกความรักของเรากันเลยดีม้าย ”

ชดช้อยแสร้งเขินอาย ม้วนต้วนบิดไปมา

“ จะดีเหรอคะเสี่ย ”

“ ดีซี่ ถ้าอย่างนั้นอั๊วไปเลยนะ ไว้เจอกัน ”

ประโยคท้ายเขาหันไปร่ำลาเพื่อนร่วมโต๊ะ ที่อ้าปากหวองงเป็นไก่ตาแตก ที่หญิงสาวสวยเซ็กเอ็กสะบึมยอมไปกับเสี่ยต๋าได้ง่าย ๆ

“ เฮ้ย ตอนมาก็มาด้วยกัน อยู่ ๆ จะทิ้งกันแบบนี้เลยเหรอวะ ”

หนึ่งในเสี่ยเมียเผลอทักท้วง เสี่ยต๋าโอบเอวชดช้อยก่อนหันมาหัวเราะชอบใจแล้วตอบเพื่อนเป็นบทเพลง

“ รักเหมือนโคถึกที่คึกพิโรก ลื้อม่ายเคยล่ายยินเหรอ ”

ก่อนหมูถึกจะพาร่างม้าคึกลับสายตาไปจากเพื่อนร่วมโต๊ะ โดยมีร่างหนึ่งที่นั่งอยู่มุมลับตาคน เขายกหมวดฮู้ดที่อยู่ติดกับเสื้อขึ้นปิดบังใบหน้าก่อนลุกขึ้นเดินตามทั้งสองไป

รถเบ๊นซ์อีคลาสสีทองปีล่าสุดเคลื่อนออกจากลานจอดรถของผับ อีกราวยี่สิบนาทีถัดมาก็เลี้ยวเข้าโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยมีรถยนต์เจ็ดที่นั่งสีดำสนิทขับเลี้ยวตามเข้าไปเช่นกัน

สิบห้านาทีต่อมาร่างอ้อนแอ้นอรชรผิวสีน้ำผึ้งแสนเซ็กซี่กับร่างอ้วนเตี้ยสั้นป้อมเสมือนโอ่งน้ำขนาดย่อมเคลื่อนที่ได้ ก็พุ่งถลาฟัดกันอย่างกับหมาเดือนสิบสองนัวเนียกันอยู่บนเตียงอย่างแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร แตกต่างกันที่คนหนึ่งนั้นสุดแสนจะฟิน มือไม้พยายามล้วงจับไต่ไปทั่ว ลมหายใจฟืดฟาดด้วยความหื่นกามที่พุ่งถึงขีดสุด ส่วนอีกคนพยายามผลักไสใบหน้าเหยเกด้วยความขยะแขยง แต่ก็แสร้งปั้นหน้าให้ดูเหมือนเขินอาย