ทรมานเหลือเกิน
"นี่ไง ทุกคนมาดูรอยเท้านี่สิ รอยนี้เป็นรอยเท้าของไอ้ลาย ต้องเป็นตัวที่มันไปลากลูกวัวของชาวบ้านมากินแน่ๆ" พรานชุ่มเรียกให้ทุกคนมาดูตรงที่เขายืนอยู่ พรานชุ่มคือหนึ่งในคณะที่มาตามล่าไอ้ลายกับพวกผู้ใหญ่แย้ม พวกเขาเดินกันมาได้ชั่วโมงกว่าแล้ว แล้วก็เข้ามาในเขตของป่าลึกพอประมาณ และเป็นเขตป่าที่ชาวบ้านมาแจ้งเรื่องกับผู้ใหญ่แย้มเอาไว้
"จริงด้วย แสดงว่าไอ้ลายมันต้องลากลูกวัวของชาวบ้านมากินแถวนี้แน่ๆ" พรานสมเอ่ยออกมาอย่างเห็นด้วยกับพรานชุ่ม
"แต่พวกเราจะตามล่ามันตอนนี้ไม่ได้นะผู้ใหญ่ เพราะว่ามันจะมืดแล้ว เราต้องขัดห้างกันก่อนที่ฟ้าจะมืดนะ" พรานมั่นบอกกับผู่ใหญ่แย้ม พร้อมกับมองไปรอบๆป่าอย่างระมัดระวัง ถึงเวลานี้จะประมาณสี่โมงเย็นก็เถอะ แต่พวกเขาอยู่ในป่าที่เป็นหุบเขา ทำให้แสงอาทิตย์ถูกบดบังด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ทำให้บริเวณที่พวกเขาอยู่ เหมือนกับพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าไปแล้ว
"ข้าก็เห็นด้วยกับพรานมั่น แล้วมึงล่ะพรานใหญ่ มึงกำลังสงสัยอะไร ทำไมมึงถึงเงียบไปแบบนั้น" ผู้ใหญ่แย้มเอ่ยขึ้นอย่างเห็นด้วยกับพรานมั่น ก่อนที่เขาจะหันไปถามพรานใหญ่ด้วยความสงสัย เพราะว่าพรานใหญ่นิ่งไป เหมือนกับรับรู้ถึงอะไรบางอย่างอยู่
"ข้าได้กลิ่นสาบเสือ แต่มันก็เหมือนไม่ได้อยู่ใกล้กับพวกเรามากนักผู้ใหญ่ กลิ่นสาบของมันแค่ลอยมาตามลมอ่อนๆเท่านั้น ไม่รู้ทิศทาง ว่ามาจากด้านไหน" พรานใหญ่ตอบผู้ใหญ่แย้ม พร้อมกับพยายามใช้สมาธิในการดมกลิ่นไปด้วย
"จริงเรอะ!! งั้นพวกเราต้องระวังตัวกันให้มากๆนะ" ผู้ใหญ่แย้มบอกให้ทุกคนระวังตัว ก่อนที่เขาจะเงียบแล้วใช้สมาธิในการดมกลิ่นบ้าง
"โถ่...ผู้ใหญ่ มันไม่แปลกหรอกผู้ใหญ่ ถ้าได้กลิ่นสาบของไอ้ลาย ถ้าไม่ได้กลิ่นสาบของมันสิแปลก เห็นรอยเท้าของมันอยู่เต็มไปหมดขนาดนี้ กลิ่นสาบของมันก็ต้องมีไปทั่วนั่นแหละ มันอาจจะแค่เดินผ่านไปผ่านมาก็ได้ เอ็งจะคิดมากไปทำไมไอ้ใหญ่ พวกเรารีบขัดห้างกันเถอะ ก่อนที่มันจะมืด" พรานเรืองพูดอย่างคนที่มากประสบการณ์กว่า เขาเป็นพรานที่เป็นรุ่นน้องของพ่อพรานใหญ่ ยังไงสะ เขาก็จะต้องรู้มากกว่าพรานรุ่นลูกอย่างพรานใหญ่และอินหลาแน่นอน
"ข้าเห็นด้วยกับพรานเรือง รอยเท้าเยอะขนาดนี้ ไม่ได้กลิ่นสิแปลก" พรานทิ้งเอ่ยขึ้นอย่างเห็นด้วยกับเพื่อนเกลอ ที่เข้าป่ามาด้วยกันตั้งแต่สมัยวัยรุ่น และพวกเขามักจะมีเรื่องกับตาอุ่น พ่อของพรานใหญ่ เพราะว่าพ่อของพรานใหญ่ เคยเป็นพรานที่คนในหมู่บ้านให้ความนับถือมากที่สุด พรานอุ่นเป็นทั้งพรานป่าที่ล่าสัตว์เก่งแล้ว เขายังเป็นหมอยาสมุนไพร และเป็นหมอธรรมประจำหมู่บ้านอีกด้วย แต่ตอนนี้พรานอุ่นแก่มากแล้ว เข้าป่าไม่ไหว ก็เลยได้แค่รักษาคนเท่านั้น ส่วนสมุนไพร พรานใหญ่ที่เป็นลูกชาย ก็เข้าป่าไปหาสมุนไพรเอามาให้พ่อ เพราะว่าพรานใหญ่เรียนรู้จากพ่อมาตั้งแต่จำความได้แล้ว พรานใหญ่เก่งไม่ต่างจากพ่อ แต่ด้วยความที่อายุของเขายังไม่เยอะมากนัก และมีพรานเรืองกับพรานทิ้งคอยว่า และคอยตำหนิอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาไม่อยากจะแสดงฝีมือมากนัก และนั่นก็เลยเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เขาออกมาอยู่ที่ชายป่ากับเมียตามลำพัง
"ข้าคิดว่ามันเดินผ่านไปแล้วมันจะเดินย้อน..."
"มันเห็นคนเยอะขนาดนี้ มันไม่เดินย้อนกลับมาให้โง่หรอก มึงเป็นพรานมาได้ยังไงวะไอ้ใหญ่ ไม่ใช่คนอย่างเดียวนะที่กลัวเสือ เสือมันก็กลัวคนเหมือนกัน แค่เราก่อกองไฟ เสือมันก็ไม่มาเข้าใกล้แล้ว" พรานเรืองพูดกับพรานใหญ่ด้วยนํ้าเสียงที่ติดจะรำคาญเล็กน้อย เพราะว่าพรานใหญ่ดูกลัวเกินเหตุ
"ถ้ามันเป็นเสือธรรมดามันก็ไม่น่ากลัวหรอก แต่ถ้ามันเป็นเสือ..."
"อินเหลา มึงมาช่วยกูขัดห้างเถอะ" พรานใหญ่บอกกับเพื่อน พร้อมกับสื่อทางสายตาให้เพื่อนเงียบ เขากลัวว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่ เพราะว่าพรานเรืองกับพรานทิ้งไม่ค่อยจะชอบหน้าเขามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เถียงกับคนที่เขาไม่ชอบเรา พูดจริงแค่ไหน ยังไงเขาก็พูดให้มันเป็นเรื่องที่ดูไร้สาระอยู่ดี เขาก็เลยเลือกที่จะเงียบดีกว่า อีกอย่างสองคนนั้นก็เป็นผู้ใหญ่กว่าด้วย เขาก็เลยให้ทั้งสองคนแสดงฝีมือของตัวเองให้เต็มที่
"อือ" อินเหลาพยักหน้ารับคำอย่างรู้กัน ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหาพรานใหญ่ เพื่อช่วยกันตัดกิ่งไม้ที่แข็งแรงหน่อย เอาไปทำเป็นห้างแบบง่ายๆ ที่สามารถนั่งส่องสัตว์ได้ แต่ไม่สามารถนอนได้
"แบ่งกันนอนห้างหลังละสองคนนะ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน ไอ้ยอด...มึงมาช่วยกู เร็ว...ก่อนที่มันจะมืด" ผู้ใหญ่แย้มพยักหน้าเรียกยอดให้มาช่วย ในขณะที่คนอื่นๆก็จับคู่ของตัวเองเหมือนกัน เพราะว่าทุกคนก็จะมากับเกลอของตัวเองอยู่แล้ว โดยที่มีพรานสมคู่กับพรานชุ่ม พรานทิ้งคู่กับพรานเรือง ส่วนอินเหลาคู่กับพรานใหญ่
"ทำไมวะ มึงหยุดทำไม" อินเหลาถามพรานใหญ่ที่จู่ๆก็ชะงักค้างไปสะงั้น เหมือนกับได้ยินอะไรที่ผิดปกติอย่างนั้นแหละ ในขณะที่ตอนนี้พวกเขาขึ้นมานั่งกันบนห้างแล้ว และพวกเรากำลังกินข้าวที่พกเอามาจากบ้านอยู่ ไม่มีการก่อกองไฟ เพราะว่าพวกเขากลัวว่าพวกสัตว์จะไม่ออกมาหากินตอนกลางคืน พวกเขาก็เลยอยู่บนห้างกันเงียบๆ
"มึงไม่รู้สึกรึอินเหลา ว่าเสียงของสัตว์ป่าดังปกติมาก เหมือนกับว่าคืนนี้ไม่มีสัตว์ใหญ่ออกมาล่าเหยื่ออย่างนั้นแหละ" พรานใหญ่คิ้วขมวดชนกันด้วยความสงสัย
"อ้าว...มันก็ดีแล้วไม่ใช่รึ เสียงของสัตว์มันร้องระงมกันแบบนี้ แสดงว่าพวกไอ้ลายมันอิ่มจากลูกวัวตัวนั้นแล้ว มันก็เลยไม่ออกล่าเหยื่อ เสียดายนะ ถ้ามันไม่มืดสะก่อน พวกเราคงจะได้เห็นซากลูกวัวของชาวบ้าน" อินเหลาพูดกับพรานใหญ่อย่างรู้สึกเสียดาย
"ขออย่าให้เป็นอย่างที่กูคิดเลย" พรานใหญ่สบตากับอินเหลาแล้วนิ่งไป
"ทำไม มึงคิดอะไรอยู่วะ มึงอย่าบอกนะ มึงคิดว่าไอ้ลายมัน..."
"ใช่" พรานใหญ่สบตากับอินเหลา ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับคำอย่างหนักแน่น ว่าเขากำลังคิดอย่างที่อินเหลากำลังเข้าใจ
"ไม่หรอก มึงอย่าคิดมาก ไอ้ลายมันอิ่มแล้ว มันก็เลยไม่ออกมาล่าเหยื่อในคืนนี้" อินเหลาพึมพำออกมาเบาๆด้วยนํ้าเสียงที่ไม่ค่อยจะมั่นใจนัก กับคำพูดของตัวเอง เพราะว่าตอนนี้เขาเริ่มเป็นห่วงคำแพงเมียของเขา ที่อยู่กระท่อมกับจันเพียงลำพังสองคนแล้วสิ
...
"จัน...จันเอ็งหลับแล้วรึ" คำแพงกระซิบถามจันที่นอนเงียบอยู่ข้างๆ
"ยังจ้ะพี่คำแพง ข้านอนหลับตาเฉยๆ ข้ารู้สึกพะอืดพะอม มันบอกไม่ถูกจ้ะพี่ ทรมานเหลือเกิน" จันตอบคำแพงเสียงแผ่ว โดยที่เธอนอนตะแคงข้างหันหลังให้คำแพงอยู่
"เอ็งรู้สึกว่าข้างนอกมันเงียบผิดปกติไหม ข้ารู้สึกว่ามันเงียบจนข้าได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นอยู่" คำแพงกระซิบกระซาบบอกกับจันเสียงเบา
"ตอนนี้ข้าไม่รู้สึกอะไรเลยจ้ะพี่ นอกจากจะพะอืดพะอม ถ้าข้าลืมตาขึ้นมาทุกอย่างมันหมุนได้" จันบอกกับคำแพงเสียงแผ่ว
"แล้วเอ็งไม่มียาอะไรเลยรึจัน หรือนํ้ามันหอมอะไรก็ได้ ตาอุ่นเป็นหมอยาไม่ใช่รึ พรานใหญ่ไม่เอายาแก้แพ้ท้องมาให้กินหรือให้ดม หรือให้ทาบ้างรึ" คำแพงลุกขึ้นนั่งอย่างรู้สึกเป็นห่วงจัน ทั้งที่เธอกลัวความเงียบจากด้านนอกกระท่อมแค่ไหนก็เถอะ
"จริงสิ ข้ามีนํ้ามันหอมของสมุนไพร ที่พ่อของพี่ใหญ่เอามาให้ข้า ตั้งแต่รู้ว่าข้าตั้งท้อง มันอยู่ในหีบบนหลังตู้จ้ะ พี่ช่วยไปหยิบมาให้ข้าหน่อยได้ไหม" จันหันไปสบตากับคำแพงในความมืด ก่อนที่เธอจะเอ่ยด้วยนํ้าเสียงที่ขอร้อง
"หีบไหน อ๋อ...หีบใบนั้นใช่ไหม" คำแพงกระซิบถามเสียงเบา ก่อนที่เธอจะมองซ้ายมองขวาด้วยความหวาดกลัว เธอค่อยๆคลานไปที่ตู้ ที่เห็นเป็นแค่รูปร่างว่าเป็นตู้ในความมืดช้าๆ ด้วยความที่เธอกลัวความมืดและความเงียบสงัดของยามวิกาล ในกระท่อมกลางป่าแห่งนี้ กลางวันมันก็ดูร่มรื่นน่าอยู่หรอก แต่พอตกกลางคืนมานี่สิ มันน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งไม่มีเสียงสัตว์ตัวไหนร้องด้วย มันทำให้ในสมองของเธอมีภาพมโนออกมาสว่าง กว่าในกระท่อมหลังนี้สะอีก
"เจอไหมพี่" จันลืมตาขึ้นมาถาม เมื่อเธอเห็นว่าคำแพงดูเงียบไป เธอมองเห็นเป็นเงาตะคุ่มๆของคำแพงกำลังคลำหาของอยู่
"เจอ แต่มันมีสองขวดนะจัน มันมืดมองไม่เห็นอ่ะ แล้วมันขวดไหนล่ะ ขวดนี้ก็แล้วกัน น่าจะเป็นนํ้ามันหอมชนิดเดียวกัน" คำแพงหันไปถามจัน พร้อมกับหยิบขวดเล็กๆที่เหมือนมีนํ้ามันหอมของสมุนไพรอะไรสักอย่างอยู่ในขวดนั้น เพราะว่ามันเหนียวๆลื่นๆ เธอก็เลยเดาเอาว่าน่าจะเป็นนํ้ามันหอม แต่จันเงียบไป เธอก็เลยตัดสินใจเอามาเลยขวดหนึ่ง โดยที่ไม่รอคำตอบจากจัน เพราะว่าเธอดูแล้ว อาการของจันน่าจะแพ้ท้องหนักเอาการ และทุกอย่างมันมืดมาก เธอกับจันอยู่กันมืดๆโดยที่ไม่ได้จุดตะเกียง เพราะว่านี่มันก็ดึกมากแล้ว
แกล๊บ!! แกล๊บ!!
"หือ...จัน เอ็งได้ยินเสียงอะไรไหม" คำแพงรีบคลานเข้าไปหาจันที่นอนเงียบอยู่ ทุกอย่างมันเงียบมาก จนเธอได้ยินเสียงเดินยํ่าเท้าที่ด้านนอกกระท่อมชัดเจน และเธอมั่นใจว่าไม่ใช่คนแน่ๆ เพราะว่าไม่มีชาวบ้านคนไหนออกจากบ้านในเวลากลางคืน และกระท่อมหลังนี้ก็อยู่ติดป่า ไกลจากหมู่บ้านด้วย เธอกลัวจนเธอไม่กล้ากระดิกตัว
"พี่ได้ยามาแล้วเหรอจ้ะ พี่ช่วยนวดที่ขมับให้ข้าหน่อย ข้าพะอืดพะอมจนจะทนไม่ไหวแล้ว ฮึก...อ๊อก อุ๊บ!!" จันจะอ้วกออกมา แต่คำแพงเอามืออุดปากของจันเอาไว้ เพราะเธอกลัวว่าเสียงของจัน จะทำให้ไอ้ตัวอะไรก็ไม่รู้ที่อยู่ข้างนอก ได้ยินเสียงของจันเข้า
"อย่าเสียงดังไป ข้ากลัว ทายาใช่ไหม เดี๋ยวข้าทาให้เดี๋ยวนี้แหละ" คำแพงกระซิบบอกกับจัน มือไม้ของเธอก็สั่นอย่างห้ามไม่ได้ เธอเปิดขวดนํ้ามันหอมด้วยมือไม้ที่สั่นเทา จนนํ้ามันหกเต็มใบหน้าของจัน เพราะว่าเธอทั้งเปิดขวดนํ้ามัน ทั้งเอามืออุดปากของจันเอาไว้
"อ๊อก อ้วก...ก พี่ เอ๊ะ...อ้วก" จันลุกขึ้นมานั่งแล้วโก่งคออ้วกเสียงดัง เพราะว่านํ้ามันหอมที่ว่า มันไม่ได้หอมเลย มันทั้งเหม็นคาว แล้วมันก็เลี่ยนมาก จนเธอทนไม่ไหว ลุกขึ้นมานั่งแล้วอ้วกออกมาเต็มที่นอน เพราะว่านํ้ามันมันเข้าปากเข้าจมูกของเธอจนหมดขวดเลย เพราะว่าขวดมันไม่ได้ใหญ่อะไร มันเป็นขวดเล็กๆเท่านิ้วโป้งแค่นั้น
"จัน!! เอ็งเป็นอะไรรึเปล่า ข้าขอโทษ ตายแล้ว เลอะไปหมดเลย ทำยังไงดี" คำแพงถามเสียงสั่น เธอหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูก จนเธอลืมเสียงที่อยู่ข้างนอกไป เพราะว่าสภาพของจันตอนนี้คือดูไม่ได้เลย เธอต้องรีบทำความสะอาดให้จัน ก่อนที่เธอกับจันจะนอนกันไม่ได้ในคืนนี้
"มัน...มันไม่ใช่ขวดแบบนี้นะพี่ นํ้ามันนวดมันอยู่ในตลับเล็กๆ อ้วก..อ้วก นํ้ามันอันนี้ พ่อของข้าให้มา ไม่รู้นํ้ามันอะไร อ้วก...อ้วก" จันพูดไปอ้วกไป แต่แปลก อาการพะอืดพะอมของเธอหายไป หลังจากที่เธออ้วกออกมาแล้ว