กลิ่นสาบ
"เอ็งเป็นยังไงบ้างจัน เอ็งไม่พะอืดพะอมแล้วรึ" คำแพงถามจันที่นั่งนิ่งไป หลังจากที่อ้วกออกมาหมดไส้หมดพุงแล้ว
"ไม่แล้วจ้ะ แต่ข้าร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัวเลย" จันเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคำแพง เธอนั่งนิ่งไม่ไหวติง เพราะว่าเธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่างกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้เธอรู้สึกห่วงลูกที่อยู่ในท้อง เธอกลัวว่าลูกจะเป็นอันตราย หลังจากที่เธอกลืนนํ้ามันอะไรสักอย่างที่พ่อให้มาเข้าไปในท้อง
"เฮ้อ...ค่อยยังชั่วหน่อย เดี๋ยวเอ็งรอก่อนนะจัน ข้าทำความสะอาดที่นอนก่อน แล้วเอ็งค่อยนอน ทำง่ายๆไปก่อนนะ ข้าไม่กล้าออกไปด้านนอกชานอ่ะ" คำแพงบอกกับจัน ก่อนที่เธอจะเงียบเสียงลง แล้วฟังว่าด้านนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะว่าตอนนี้ความรู้สึกกลัวของเธอกลับมาอีก หลังจากที่เธอหายตกใจแล้ว
"ฉันขอโทษพี่คำแพงด้วยนะจ้ะ ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้" จันพูดพร้อมกับมองคำแพง ที่กำลังเช็ดอ้วกของเธออยู่
"ไม่เป็นไรหรอกจัน เอ็งหายก็ดีแล้ว เออ...จัน ข้ามีเรื่องจะถามเอ็ง ข้าถาม..."
แกล๊บ!! แกล๊บ!!
"จัน...เอ็งได้ยินรึยัง มันเดินสี่ขารึว่าสองขาวะ" คำแพงกระซิบกระซาบถามจันเสียงสั่น พร้อมกับคลานไปนั่งเบียดจันด้วยความหวาดกลัว ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เพราะว่าตอนเด็กเธอก็อยู่แต่ในหมู่บ้านกับพ่อแม่ พอแต่งงานกับอินเหลา เธอก็อยู่กับผัวในหมู่บ้านตลอด อินเหลาไม่เคยปล่อยให้เธออยู่คนเดียว ถ้าวันไหนอินเหลาไปเข้าป่ากับพรานใหญ่ เธอก็จะไปนอนกับพ่อแม่ นี่คือครั้งแรกของเธอเลย ไม่น่าเลย...เธอไม่น่าอยากจะรู้เรื่องของจัน จนกล้าบ้าบิ่นมาอยู่ที่ชายป่าตามลำพังกับจันแบบนี้เลย
"คงจะเป็นพวกสัตว์ออกหากินในเวลากลางคืนจ้ะพี่คำแพง พี่คำแพงไม่ต้องกลัวหรอก มันไม่ขึ้นมาบนกระท่อมของเราแน่นอน ถ้าพี่คำแพงกลัว เดี๋ยวข้าจะจุดตะเกียงแล้วออกไปไล่มัน พี่รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวข้า..."
"จัน!! ไม่ต้องออกไป เอ็งไม่กลัวมันทำร้ายเอารึไง ถ้ามันเป็นไอ้ลายล่ะ" คำแพงพูดด้วยความตกใจ พร้อมกับจับแขนของจันเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้จันลุกไปไหน
"มันไม่มีอะไรหรอกพี่ เสียงแบบนี้ข้าได้ยินมาตั้งแต่จำความได้แล้ว บ้านของข้าอยู่ในกลางป่าลึก ข้าเจอมามากกว่าเสืออีก เสือมันไม่เข้าใกล้คนหรอก มันก็ระวังตัวของมันเองเหมือนกัน ยิ่งถ้าเราอยู่บนกระท่อมแบบนี้ และถ้าเราจุดตะเกียงหรือว่าก่อไฟ มันยิ่งหนีไปไกล พี่คำแพงอย่ากลัว..."
"จัน!! เอ็งไม่กลัวจริงๆรึ" คำแพงมองหน้าของจันในความมืดด้วยความสงสัย ตอนนี้เธอเริ่มจะกลัวจันมากกว่าสัตว์ที่อยู่ด้านนอกแล้ว เพราะว่าท่าทีของจันคือนิ่งมาก ไม่มีท่าทีให้เห็นสักนิดเลยว่ากลัว จันนิ่งเฉยไม่กลัวอย่างที่พูดจริงๆ ซึ่งมันขัดกับใบหน้าที่สวยงามของจันมาก จันมีใบหน้าที่สวยหวาน รูปร่างก็อรชรอ้อนแอ้น น่าจะกลัวความลำบากและความมืด และความเงียบสงัดแบบนี้ แต่กลับตรงกันข้าม จันไม่มีท่าทางแบบนั้นให้เห็นเลย
"ข้าชินแล้วจ้ะพี่ พี่คำแพงไปนอนเถอะจ้ะ เดี๋ยวข้าจะออกไปดูเอง ว่าข้างนอกมันมีตัวอะไร พี่ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะจุดตะเกียงออกไปไล่มัน" จันบอกกับคำแพง ก่อนที่เธอจะจุดตะเกียงแล้วค่อยๆเดินออกไปจากห้องนอน กระท่อมทั้งหลัง มีห้องนอนแค่ห้องเดียว ด้านหน้าห้องนอน ก็เป็นที่ทำครัวกับชานยื่นออกไปเล็กน้อย พอให้นั่งเล่นได้
"ข้าไปด้วยจัน ข้าไม่กล้าอยู่คนเดียว" คำแพงไม่พูดเปล่า เธอค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วย่องตามจันออกไปเงียบๆ
กรรณ์!!
"จัน!! นั่นมัน...นั่นมันเสียงของไอ้ลาย ฮือๆ" คำแพงกระโดดเข้าไปกอดแขนของจันเอาไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว เธอหลับตาปี๋เอาหน้าซุกหลังของจันเอาไว้
"มันอยู่กลางหุบเขาโน่นพี่ ความเงียบมันก็เลยทำให้เสียงสะท้อนกลับมาชัด เหมือนมันอยู่ใกล้ๆกับเรา" จันบอกกับคำแพงเสียงเรียบนิ่ง เธอโกหกคำโต เพราะว่าเสือมันอยู่ไม่ไกลจากกระท่อมของเธอนัก แสงสว่างจากบนท้องฟ้าที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ทำให้เธอมองเห็นตัวของมันได้ชัดเจน มันยืนอยู่ไม่ไกลจากแปลงผัก ที่เธอกับผัวของเธอปลูกผักเมื่อตอนกลางวันมากนัก ตัวของมันใหญ่ยังกับม้า มันมองมาที่เธอนิ่ง ต่างฝ่ายต่างมองตากันเหมือนหยั่งเชิงกันอยู่ เธอกับมันจ้องตากันไม่กะพริบ ไม่มีใครหลบใคร ถามว่าเธอกลัวไหม เธอตอบได้เลยว่ากลัวมาก แต่นาทีนี้ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยืนตัวแข็งสบตากับมัน
"จริง...จริงเหรอจัน แต่ข้าได้กลิ่นสาบของมัน เหมือนกับมันอยู่แถวนี้นะ กลิ่นสาบมันแรงมากเลย" คำแพงแย้งออกมาเสียงเบา ทั้งที่เธอยังเอาหน้าซุกหลังของจันเอาไว้อยู่ เธอไม่ได้กลัวแค่เสือหรือสัตว์ล่าเนื้ออีกหลายสายพันธุ์ แต่เธอกลัวผีด้วย ทั้งที่เกิดมาเธอไม่เคยเห็นก็เถอะ แต่เธอก็สามารถมโนภาพเอาได้ ด้วยสภาพของสิ่งแวดล้อมโดยรวมทั้งหมด
"เราเข้าไปนอนกันเถอะ" จันบอกกับคำแพงเสียงเรียบ เมื่อเสือตัวนั้นมันค่อยๆหันหลังให้เธอ แล้วมันก็เดินเข้าไปในป่าเงียบๆ
"มันไปแล้วเหรอจัน" คำแพงถามจันเสียงสั่น เธอเดินตามหลังของจันไม่ห่าง
"มันไม่มีอะไรหรอกจ้ะพี่ พี่คำแพงกลัวก็เลยคิดไปเอง" จันบอกกับคำแพงด้วยนํ้าเสียงที่เอ็นดู ในขณะที่คำแพงเดินกอดแขนของเธอไม่ปล่อย
"ข้าไม่ได้คิดไปเองนะจัน ตอนนี้กลิ่นสาบของมันยังไม่จางหายไปเลยนะ" คำแพงพูดพร้อมกับพยายามสูดดมกลิ่นเข้าไปด้วย
"พี่คำแพงนอนก่อนเถอะจ้ะ ข้าจะทำความสะอาดเอง พี่ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจุดตะเกียงให้แล้ว" จันบอกกับคำแพง ก่อนที่เธอจะเดินกลับออกไปนอกห้องอีกรอบ เพราะว่าเธอต้องออกไปเอาผ้าขี้ริ้วมาทำความสะอาดอ้วกของตัวเอง
"ข้าจะรอนอนพร้อมเอ็งนะจัน บอกตรงๆนะ ข้าว่าคืนนี้ข้านอนไม่หลับแน่ๆ" คำแพงบอกกับจันเสียงสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น เธอมั่นใจ ว่าเสียงที่เธอได้ยินเมื่อกี้ มันเป็นเสียงของเสือ แต่มันอาจจะเดินกลับเข้าป่า ตอนที่เธอกับจันออกไปเมื่อกี้ ไม่งั้นเธอไม่ได้กลิ่นสาบของมันชัดขนาดนี้หรอก ถึงเธอจะไม่เคยได้กลิ่นสาบของเสือมาก่อน แต่เธอก็ยังมั่นใจอยู่ดีว่าเป็นกลิ่นของมัน
"ข้าหิวข้าว เมื่อตอนกลางวันข้าไม่ได้กินข้าวเลย ข้าขอออกไปกินข้าวที่ครัวก่อนนะจ้ะ พี่คำแพงนอนไปก่อนเถอะจ้ะ คืนนี้ไม่มีอะไรแล้ว" จันบอกกับคำแพง พร้อมกับเช็ดอ้วกของตัวเองไปด้วยจนสะอาด ก่อนที่เธอจะเดินออกไปนอกห้อง แล้วเดินตรงไปที่ครัว ที่อยู่ไม่ไกลจากหน้าห้องมากนัก เพราะว่ากระท่อมก็ไม่ได้หลังใหญ่อะไร
"จัน...เอ็งกินอะไรอ่ะ ทำไมเงียบจัง" คำแพงถามพร้อมกับยื่นหน้าไปถาม ในขณะที่จันนั่งหันหลังให้เธอ และมีตะเกียงวางอยู่ข้างๆ
"ปลาแห้งจ้ะ มันดึกแล้ว ข้าไม่อยากจะก่อไฟ ข้าก็เลยกินของที่เหลือของพี่ใหญ่" จันตอบคำแพงโดยที่เธอยังนั่งพับเพียบหันหลังให้คำแพงอยู่
"มันเย็นแล้วก็แข็งมากเลยนะ เอ็งกินเข้าไปได้ยังไงวะจัน" คำแพงมองจันด้วยความแปลกใจ จันอึดแล้วก็แข็งแกร่งกว่าที่เธอคิดมาก แถมยังไม่เรื่องมากอีกด้วย พรานใหญ่ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้
"ข้ากินได้จ้ะ" จันตอบเสียงเบา หลังจากที่เธอกลืนข้าวหมดแล้ว
"แต่เอ็งก็ต้องคิดถึงลูกบ้างนะ" คำแพงบอกกับจันด้วยนํ้าเสียงที่เป็นห่วง
"จ้ะพี่ ข้าอิ่มแล้ว เราเข้าไปนอนกันเถอะจ้ะ" จันบอกกับคำแพงพร้อมกับเก็บของทุกอย่างเอาไว้ที่เดิมไปด้วย
"จัน ที่นี่มันเงียบแบบนี้ทุกคืนเลยรึ แมลงสักตัวยังไม่มีร้องให้ได้ยินเลย" คำแพงกระซิบกระซาบถามจัน พร้อมกับมองไปรอบๆอย่างระแวง บอกตรงๆ ตอนนี้เธอนึกกลัวแม้กระทั่งตัวของจันด้วย เธอคิดว่าเธอได้กลิ่นสาบอะไรสักอย่างออกมาจากตัวของจัน หรือว่าจะเป็นนํ้ามันขวดที่เธอทำหกใส่จัน และกลิ่นสาบที่เธอได้มาตลอด น่าจะมาจากนํ้ามันขวดนั้น
"จ้ะพี่ มันก็มีเงียบบ้าง ร้องบ้าง ตามประสาของป่าจ้ะ" จันตอบคำแพงเสียงแผ่ว แต่คำแพงก็ได้ยินชัดเจน เพราะว่าเธอเดินเบียดจัน บวกกับความเงียบสงัดของสถานที่ด้วย
แอ๊ด....ด (เสียงเปิดปิดของประตูที่ทำจากไม้ไผ่)
"แค่เสียงประตูฟังแล้วยังดูวังเวงเลย" คำแพงพึมพำเบาๆ พร้อมกับนึกโทษตัวเองในใจไปด้วย ที่ขอมากับผัวและยอมอยู่เป็นเพื่อนจัน เพราะความอยากจะรู้เรื่องราวของจัน ซึ่งตอนนี้เธอไม่อยากจะรู้แล้ว เอาจริงๆเธอไม่กล้าสบตากับจันเลย เพราะว่าจันดูนิ่งเงียบจนเธอขนลุก