บทที่ 3 คนเรื่องมาก เยอะ!
ไม่นานนัก ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ชายผู้นั้นต้องการ โดยที่หล่อนได้ที่นั่งติดหน้าต่างตามเดิม ส่วนตัวเขากลับยอมนั่งที่ติดกับหล่อนริมทางเดินแทนอีกคน ผู้ชายคนนี้ช่างเป็นคนดูยากเสียเหลือเกิน เมื่อกี้ยังอาละวาดอยากได้ที่นั่งตรงนี้อยู่แหมบ ๆ ตอนนี้กลับเงียบไปเสียเฉย ๆ เฮอะ! คิดว่าตัวเองใหญ่ ร่ำรวยมหาศาลมาจากไหนกัน ประเทศตัวเองก็ไม่ใช่ ทำเป็นกร่าง แหม..เสียแรงที่อุตส่าห์ชื่นชมตอนที่เห็นครั้งแรก แหว่ะ! จะหล่อลากดินมาจากไหน ถ้านิสัยแย่ ๆ อย่างนี้ก็ไม่เอาด้วยหรอก
เครื่องบินลำใหญ่ พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่เหนือพื้นดินของเขตกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปสู่ทางทิศใต้ของประเทศไทย ซึ่งจุดหมายปลายทางของสายการบินนี้ก็คือ..เกาะภูเก็ต เมื่อเครื่องบินเหินขึ้นฟ้า ตามด้วยแรงกระตุกเล็กน้อยพอเครื่องอยู่ในระดับที่ปรับให้เข้าที่แล้ว น้ำรินถึงกับผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะนี่เป็นการเดินทางโดยเครื่องบินเป็นครั้งแรกของหล่อน
เฮ้อ! รอดตายแล้วเรา น้ำรินพิงศีรษะ เอียงหน้าไปทางหน้าต่างมองดูก้อนเมฆสีขาวสะอาดราวกับสำลี จนอยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสกับมันเหลือเกิน ว่าจะเป็นเช่นไร ไม่อยากหันไปยังอีกด้าน ที่มีผู้ชายตัวสูง ขายาวข้างหล่อนแม้สักนิดเดียวให้ตายเถอะ คนอะไรก็ไม่รู้ ตัวก็ยาว ขาก็ยาว เกะกะขวางทางเข้าออกไปหมด แล้วถ้าหากว่าอยากเข้าห้องน้ำจะทำยังไง รู้อย่างนี้ให้เขามานั่งที่ ที่เขาอยากได้เสียตั้งแต่แรกก็คงจะดี ดูเหมือนว่า ตัวเขาเองก็ไม่ได้มาสนใจอะไรหล่อนหลังจากนั้น ไม่ได้อยากให้มาสนใจหรอกนะ เพียงแต่กลัวว่าเขาจะหันมาหาเรื่องหล่อนน่ะสิ ชายผู้นี้ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อหาข้อยุติลงได้ ศีรษะได้รูปของเขาเอียงออกไปยังฝั่งทางเดินพร้อมกับท่านอนกอดอกอย่างสบายใจ ขาทั้งสองข้างยาวเก้งก้าง ยื่นตรงไปยังเบาะนั่งด้านหน้า คงอึดอัดน่าดู
“ จะรับเครื่องดื่มอะไรไหมคะ?” สักพักแอร์โฮสเตสสาวก็เดินเข้ามาถาม เอ๊ะ! แล้วคนเดิมไปไหนแล้วล่ะ สงสัยคงขอเปลี่ยนตัว เป็นใครถ้ามาเจอเรื่องแบบนี้เข้า คงไม่อยากร่วมเดินทางด้วยหรอก น้ำรินยิ้มหวานกลับไปให้พี่สาวคนสวย แต่ก็ต้องหุบยิ้มแทบจะทันที เมื่อเห็นว่าสายตาของเจ้าหล่อนกลับจ้องนิ่ง พุ่งความสนใจทั้งหมดทั้งมวล ไปยังชายหนุ่มรูปงามที่นั่งติดริมทางเดิน ที่ตอนนี้นอนสงบนิ่ง ไม่ตื่นขึ้นมารับรู้เรื่องราวใด ๆ ราวกับอดหลับอดนอนมาจากไหนก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่เครื่องเพิ่งออกเท่านั้นเอง ช่วงแรกหญิงสาวรู้สึกโล่งอกกับการเงียบของเขาอยู่หรอก เพราะไม่ได้มารบกวนอะไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ หล่อนกังวลไปสารพัดกลัวว่าผู้ชายคนนี้จะก่อเหตุมิดีมิร้าย คิดว่าเขาคงเป็นพวกอันธพาล แบบพวกลูกเศรษฐี ที่มีนิสัยแย่ ๆ ชอบดูถูกคน แล้วยังชอบลวนลามอีกต่างหาก แต่กลับผิดคาด ก็อีตานี่กลายเป็นหนุ่มมาดขรึม สงบปากสงบคำ ไม่ได้เหลียวแลหรือสนใจการเอาใจใส่ และการตรวจตราดูแลจากบรรดาแอร์สาว ๆ สวย ๆ เลยสักนิด
“ เอ่อ..ขอน้ำส้มแก้วหนึ่งค่ะ” น้ำรินตัดสินใจพูดออกไป ซึ่งก็ได้ผล แอร์สาวสวย ละสายตาจากชายหนุ่มรูปงาม ที่นั่งติดกับหล่อน พร้อมกับหยิบแก้วน้ำส้มส่งมาให้ สาวสวยนางนั้นยื่นตัวไปด้านหน้า แล้วแสร้งทำเป็นสัมผัสโดนแขนของชายหนุ่มแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองกลับไปแต่อย่างใด
“ นี่ค่ะ..ดื่มให้อร่อยนะคะ” พี่สาวคนสวยยื่นแก้วน้ำให้หล่อนเสร็จ พร้อมกับยิ้มหวานหยดส่งมาให้ ก่อนจะเดินจากไปเพื่อไปดูแลผู้โดยสารท่านอื่นบ้าง อนิจจา.. สงสัยพี่สาวคนนั้นคงจะหลงผิดเช่นหล่อน นางชื่นชมใบหน้าที่หล่อเหลาของอีตานี่ จนไม่สามารถถอนสายตาออกไปได้ง่าย ๆ ดูจากอากัปกิริยา เมื่อสักครู่แล้ว เฮอะ! ถ้าพี่นางฟ้าคนนั้นมาเห็นตอนที่เขาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ก่อนหน้านี้ล่ะก็ คงหมดศรัทธาไปแล้วเป็นแน่แท้
แล้วนี่ เราจะมาคิดแต่เรื่องของเขาทำไมกัน น้ำรินเหลือบตาไปมองยังร่างสูงเก้งก้างข้าง ๆ ตัวหล่อนด้วยหางตา คนอะไรนอนนิ่งไม่ไหวติงเลย แถมยังระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี นี่ขนาดตัวเขาใหญ่จนร่างกายบางส่วนพ้นเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เขายังสามารถเก็บร่างกายซะมิดชิด สงสัยคงกลัวว่าจะมาสัมผัสกับตัวหล่อน หึ ๆ นอนตรงแหน่วเสียอย่างนั้น หรือว่าเขากลัวหล่อนจะฉวยโอกาส แต๊ะอั๋ง ลวนลามนะ หญิงสาวกระสับกระส่ายไปมา ว่าจะงีบสักหน่อย ดั๊น..มาปวดท้องเบาซะนี่ โธ่!รู้อย่างนี้ไม่น่าไปกินน้ำส้มแก้วนั้นเลย ลืมนึกไปว่า เวลาเดินทางทีไร เป็นต้องมีอาการปวดปัสสาวะทุกทีเลย โอ๊ย…ทำไงดี ๆ นอนไม่หลับแล้ว ครั้นจะไปห้องน้ำก็ไม่ได้ มีตาคนนี้นอนขวางทางอยู่ จะปลุกก็ไม่กล้า
น้ำรินชะโงกหน้า แล้วหันไปมองยังชายหนุ่มข้างกายอย่างชั่งใจ เอาน่ะ..เป็นไงเป็นกัน ดีกว่าปล่อยให้ฉี่ราดอยู่ตรงนี้ อายเขาตายเลย คิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงค่อย ๆ เคลื่อนกายขยับเข้าไปใกล้ ๆ จ้องมองชายหนุ่มเขม็ง
“เอ่อ..นี่คุณ” เงียบ..ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ตอบกลับมา หญิงสาวจึงถือวิสาสะเขย่าลำแขนแข็งแรงของเขาเบา ๆ พร้อมกับเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นอีกนิด