บทที่ 2 เมื่อแรกเจอ
“ ต้องขอประทานโทษจริง ๆ นะคะ ทางเราจะรับผิดชอบ โดยการจัดที่นั่งให้ใหม่ทางตอนหลัง ให้ท่านสองที่เลยค่ะ”
“ เฮอะ! จัดการได้เท่านี้น่ะหรือ ได้ ..ถ้าอย่างนั้นก็ให้ผู้หญิงคนนี้ ไปนั่งตรง
นั้นแทนผมสิ ในเมื่อที่นั่งซ้ำกัน และอีกอย่างผมต้องการนั่งตรงนี้!”
“ คึ..คือว่า..คุณผู้หญิงท่านนี้ เธอมาก่อนตั้งแต่ สิบห้านาที ที่แล้วน่ะค่ะ”
“ อ้อ! งั้น.. แสดงว่า ผมเป็นคนผิดอย่างนั้นหรือ? ที่มาทีหลังผู้หญิงคนนี้ ยังไงผมก็ยืนยันจะนั่งตรงนี้ ถ้าหากว่ายังมีปัญหาอีก ก็ไปเรียกกัปตัน หรือว่าคนที่พูดรู้เรื่องกว่านี้ มาคุยกับผมดีกว่า เข้าใจมั๊ย!?” น้ำรินได้ยินทุกคำพูด ของทั้งสองฝ่ายที่ตอบโต้กัน ด้วยภาษาอังกฤษ พลางลุ้นไปด้วยว่าจะลงเอยอย่างไร ผู้โดยสารหลายคนต่างก็หันมามองยังจุดที่ ชายหนุ่มผู้นั้นยืนค้ำหัวหล่อนอยู่ พร้อมกับแอร์สาวผู้น่าสงสารที่ยืนตัวสั่นงันงก เพราะกริ่งเกรงต่อผู้ชายวางอำนาจตรงหน้า
ฮึ! อีตานี่ คงคิดว่าหล่อนฟังไม่รู้เรื่องล่ะสิ ว้า..นึกเสียดายเสียเหลือเกิน ที่อุตส่าห์ชมในใจก่อนหน้านี้ รูปร่างหน้าตา ที่หล่อเหลาของเขาคงงดงาม และเพอร์เฟกต์ แต่เพียงร่างกายภายนอกเท่านั้นกระมัง หญิงสาวกำลังคิดว่ารูปร่างที่จัดว่าดูดี หล่อเหลาราวกับเทพบุตรตรงหน้านี้ เป็นของจริงหรือเปล่า เพราะเมื่อได้มองดูและฟังการสนทนาแล้ว สรุปเอาเองในใจว่าเขาคงไม่มีหัวคิดสักเท่าไหร่นักหรอก คงเป็นประเภทพวกเด็กหัวนอกทั้งหลาย ที่เดินทางไปร่ำเรียนเสียไกลถึงเมืองนอกเมืองนา เพื่อจะแสดงถึงความโก้หรู ทันสมัย และที่สำคัญ คงทำไปเพื่อแก้เซ็งเท่านั้น แล้วกลุ่มคนพวกนี้ ส่วนมากก็ล้วนแล้วแต่มีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา แล้วก็สวยเลิศเลอ มีเสน่ห์ เป็นที่ดึงดูด และได้รับความสนใจจากเพศตรงข้าม แทบทั้งสิ้น แต่ส่วนประกอบภายนอกเหล่านี้ คงจะมีแต่สมองที่โบ๋เบ๋ เป็นแน่ โดยเฉพาะกับผู้ชายตรงหน้าคนนี้ ที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเองไม่สนใจว่าคนอื่นจะเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน นอกจากสนใจเรื่องของตนเองเป็นหลักเท่านั้น
ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดมากไปกว่านี้ อีกอย่างน้ำรินก็ไม่อยากให้สายการบินถูกเลื่อนให้ล่าช้าออกไป เพราะปัญหาเพียงแค่เล็กน้อยที่กำลังประสบอยู่ตรงหน้า และด้วยความที่หล่อนเป็นคนไม่ชอบมีปัญหากับใคร อะไรที่พอจะยอมได้ก็ยอม ๆ กันไป กอปรกับไม่อยากให้เกิดความตึงเครียดภายในเครื่องบินลำนี้ แล้วก็ให้สงสารแอร์โฮสเตสสาวผู้นั้นเหลือเกินจึงตัดสินใจ เอ่ยออกไป เพื่อตัดปัญหา ยอมเสียสละเสียเองจะดีกว่า
“ เอ่อ..คุณคะ เดี๋ยวฉันย้ายไปนั่งทางตอนหลังเองก็ได้ค่ะ ว่าแต่.. ฉันจะได้นั่งสองที่ใช่ไหมคะ?” ได้ผลแฮะ..เพราะพอสิ้นเสียง ทั้งสองก็หันมามองหล่อนเป็นตาเดียว น้ำรินมองเห็นแววตายินดีฉายแวบออกมาจากดวงหน้าหวานใสของแอร์สาวแต่กลับพบกับสายตาอีกคู่หนึ่งที่มองอย่างไม่พอใจ ดวงตาคมกริบของชายหนุ่มผู้นั้นส่งมายังหล่อนคล้ายต่อว่ากลาย ๆ อะไรกันอีกล่ะ อีตานี่ คนเขาอุตส่าห์เสียสละที่นั่งที่นายอยากได้นักอยากได้หนาแล้วไง ยังจะทำหน้าไม่พอใจ จะเอายังไงอีก
น้ำรินเชิดหน้ามองสบตา เขากลับไปบ้างอย่างหยั่งเชิง ก็เอาสิ เป็นไงเป็นกัน คนเขายอมให้แล้วยังจะมาไม่พอใจอะไรอีก หรือว่าจะเปลี่ยนใจ เกิดอยากได้ที่นั่งที่เขาเตรียมไว้ให้ขึ้นมา โธ่เอ๊ย! ไม่เป็นลูกผู้ชายเอาเสียเลย ค่อนแคะเขาในใจ แถมยังโต้ตอบกลับไปทางสายตาอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน เมื่อไม่ได้ยินประโยคใด ๆ หลุดออกมาจากปากสวย ๆ ของผู้ชายตรงหน้า หญิงสาวจึงฉวยกระเป๋าสะพายคู่ใจ เตรียมจะลุกจากที่นั่ง รู้สึกเสียดายนิด ๆ อยู่ครามครัน อุตส่าห์ดีใจที่ได้ ที่นั่งเหมาะ ๆ แล้วเชียว
“จะไปไหน นั่งลงตรงนี้นั่นแหละ นี่เธอคิดจะหักหน้าฉัน อย่างนั้นหรือ? ทำให้ทุกคนมองว่าฉัน เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวอย่างนั้นใช่ไหม ฮึ..!” อะไรอีกล่ะทีนี้ อ๊าย! แล้วทะ..ทำไมต้องก้มหน้าลงมาจนปลายจมูกโด่งสวยเกือบชนกับปลายจมูกเล็ก ๆ ของหล่อนด้วย นี่เขาจงใจ หรือว่าแกล้งกันแน่นะ
“ อ๊ะ!เอ่อ..” น้ำรินสะดุ้งสุดตัว เมื่อจู่ ๆ เขาก็โน้มตัวลงมาพูดกับหล่อนในระยะกระชั้นชิดอย่างนี้ แล้วแถมยังถูกลำแขนแข็งแรงของอีกฝ่ายจับไหล่กดให้นั่งลงตามเดิม ถึงกับพูดไม่ออกทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ อยู่ใกล้กันขนาดนี้ ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มที่ฟังดูเซ็กซี่นั่นชัดแจ๋ว แล้วไหนจะดวงตาคมกริบที่จ้องลงมาราวกับคาดโทษอย่างนั้น ชั่ววินาทีนั้นเอง น้ำรินสังเกตเห็น เขาชะงักงันไปชั่วขณะ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่สร้อยคอราคาถูกของหล่อนนิ่ง ทำให้หญิงสาวไม่สามารถกระดิกตัวไปไหน ได้แต่ส่ายศีรษะไปมาอย่างงง ๆ กับคำพูดและอิริยาบถต่าง ๆ ของเขา คำพูด ใช่..เมื่อกี้เขาพูดภาษาไทยชัดแจ๋วเลยล่ะ แถมยังเหน็บแนมได้เก่งอีกต่างหาก
“ นี่คุณ ผมจะนั่งตรงนี้ แล้วใคร? ที่นั่งตรงนี้ ผมขอซื้อต่อ ให้ห้าเท่าเลยก็ได้ แล้วให้เขาไปนั่งทางตอนหลังที่คุณจัดให้ก็แล้วกัน ว่าไง..ถ้าหากยังมีปัญหาอยู่อีก ผมจะเหมาเครื่องบินลำนี้ ทั้งลำ แล้วไล่ผู้โดยสารลงให้หมด” ประโยคถัดมาของชายหนุ่มหันไปพูดกับแอร์โฮสเตสอย่างวางอำนาจ ยืดอกเต็มความสูงร่วมร้อยเก้าสิบเซนติเมตรเห็นจะได้ น้ำรินเพิ่งสังเกตเห็นเต็ม ๆ ตา ก็ตอนนี้ล่ะ ว่าผู้ชายคนนี้ตัวสูงมากทีเดียว นี่ถ้าหากเทียบกับหล่อนแล้วหัวเธอคงอยู่แถว ๆปลายคางเขากระมัง