บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 สหาย

สกุลฉีสนับสนุนบุตรทุกคนให้ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาที่สำนักศึกษาหลี่ชุน ไม่เว้นแม้แต่สตรีก็มิได้รับการปิดกั้น แม้จะมีหลากหลายสกุลที่มิได้สนับสนุนให้บุตรีออกไปศึกษาก็ตาม เข้าศึกษาได้เพียงหนึ่งเดือน ฉีอันหนิงก็กลายเป็นที่รักและเอ็นดูของอาจารย์ทุกคนในสำนักศึกษา เพราะความเฉลียวฉลาด ช่างเจรจาของนาง ฉีอันหนิงมีมิตรสหายมากมายจากการได้มาศึกษาในสำนักศึกษาหลี่ชุนแห่งนี้

“อันหนิง… พรุ่งนี้สำนักศึกษาปิดข้าจะไปหาเจ้าที่จวนนะ” ซ่งเจียวซินสหายสนิทวัยเดียวกัน บุตรีจากจวนสกุลซ่ง เจ้ากรมการกลาโหมบอก

“ดีสิ… มาเลย ข้าจะพาเจ้าไปตกปลาที่สระน้ำท้ายจวน” ฉีอันหนิงบอกสหายสนิทด้วยน้ำเสียงสดใส

“ตกปลาเหรอ… เจ้าทำได้ด้วยเหรอ” ซ่งเจียวซินทำหน้าสงสัยก่อนที่จะเอ่ยถามออกมา

“ได้สิ ข้าชอบไปตกปลากับพวกพี่ใหญ่ พี่รองและก็พี่สาม” ซ่งเจียวซินพยักหน้า นางมีพี่ชายหนึ่งคนแต่อีกฝ่ายนั้นมิได้สนิทสนมกับนาง เช่นเดียวกับพี่ชายของสหายสนิท

“อือ… ถ้าเช่นนั้นสอนเราหน่อยนะ ท่านพี่ของเรามิเคยสอนเราเลย แถมยังชอบทำหน้าตาเคร่งขรึมไม่ชอบพูดจา” นางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก่อนที่จะบ่นถึงพี่ชายหน้าเย็นชาออกมาให้กับเพื่อนสนิทฟัง

“ท่านพี่เหรอ เจ้ามีพี่ชายด้วยเหรอ” เพราะนางมิได้รับรู้เรื่องราวของอีกฝ่ายมากนัก

“อือ… ตอนนี้ไปศึกษาอยู่ที่เมืองตงฉวน”

“อ้าว… แล้วเหตุใดท่านพี่ของเจ้าถึงต้องไปศึกษาที่เมืองตงฉวนล่ะ” ฉีอันหนิงสงสัย เพราะเมืองตงหลางแห่งนี้ก็มีสำนักศึกษาที่มีชื่อเสียงอย่างเช่นสำนักศึกษาหลี่ชุนแห่งนี้

“ท่านพี่ของข้าถูกส่งไปศึกษาอยู่หน่วยพิเศษน่ะ”

หน่วยพิเศษที่ฮ่องเต้ทรงให้คัดเลือกเข้าเป็นขุนนางทำหน้าที่คล้ายกับเหล่าองครักษ์ แต่ผู้คนเหล่านี้จะไม่ได้อยู่ในวัง พวกเขามีหน้าที่ดูแลเหล่าขุนนาง คอยดูแลความปลอดภัย และความสงบสุขของเมืองต่างๆ เท่านั้น

“ว้าว…ฟังดูลึกลับดีจังเลย” ฉีอันหนิงเอ่ยออกมาพลางนึกสนุกตามประสาเด็กซน

“อืม… ความจริงเรื่องนี้ข้ายังมิเคยบอกกล่าวแก่ผู้ใดมาก่อน เจ้าคือคนแรก” ซ่งเจียวซินบอกพร้อมกับยิ้มออกมา

“น้องสี่… กลับจวนกันได้แล้ว” เสียงพี่ใหญ่ร้องเรียกน้องสาวดังมาจากรถม้าที่มาจอดรออยู่สักพักแล้ว

“เจียวซิน พรุ่งนี้เจ้าต้องมาที่จวนข้าให้ได้นะ ข้าอยากแสดงให้เจ้าเห็น ว่าข้านั้นตกปลาเก่งขนาดไหน” เด็กหญิงรีบโอ้อวดตนต่อสหายสนิททันที คนฟังพยักหน้าทั้งฉีกยิ้มออกมาก่อนที่จะโบกมือลานาง

จวนสกุลฉี

ร่างเล็กวิ่งไปยังสวนดอกไม้หลังจวนพร้อมกับสหายจากสำนักศึกษาที่นัดหมายกันมาตกปลาด้วยกันในวันนี้ สาวรับใช้ของทั้งเด็กน้อยทั้งสองต่างพากันวิ่งตามคุณหนูของตน จนทั้งสี่ไปหยุดอยู่ที่บนสะพานข้ามสระน้ำที่ใสจนเห็นตัวปลา ซ่งเจียวซินมองลงไปข้างล่างด้วยความตื่นเต้น ที่จวนสกุลซ่งก็มีสระน้ำอยู่ในจวนเช่นกัน แต่มิได้มีน้ำที่ใสแจ๋วจนเห็นตัวปลาเช่นนี้

“ปลาเยอะจังเลย เจ้าเลี้ยงไว้เองใช่หรือเปล่า” คุณหนูรองสกุลซ่งเอ่ยถามสหายสนิทออกมา

“ข้าไม่ได้เลี้ยง แต่พวกพี่ๆ เขาเอามาปล่อยไว้ตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ ถ้าเจ้าตกได้ตัวเล็กให้ปล่อยไปนะ ถ้าตกได้ตัวใหญ่ค่อยเอามาย่างกินกัน”

เสียงใสๆ ดังขึ้นมาจากเจ้าของริมฝีปากเล็ก ซ่งเจียวซินพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่เด็กน้อยทั้งสองจะรับเบ็ดตกปลามาจากบ่าวรับใช้ คุณหนูตระกูลฉีสอนให้คุณหนูตระกูลซ่งตกปลา ซึ่งซ่งเจียวซินก็เรียนรู้มันได้เป็นอย่างดี เพราะความฉลาดที่มีไม่แพ้กันกับฉีอันหนิง เด็กหญิงทั้งสองตกปลาได้ปลาตัวใหญ่มาคนละหนึ่งตัว บ่าวรับใช้รู้ดีว่าคุณหนูสี่ต้องปิ้งปลาอย่างเช่นทุกคราจึงก่อไฟไว้รอ

“เก่งมากเจียวซิน เจ้าตกปลาครั้งแรกก็ได้ปลาตัวใหญ่เลย”ฉีอันหนิงเอ่ยชมสหายของนางออกมาหลังจากพากันไปนั่งตรงที่ศาลาริมน้ำ ส่วนปลา ฉีอันหนิงให้บ่าวในเรือนเป็นคนนำไปย่างให้นางกับซ่งเจียวซินได้กิน

“พี่ชายของเจ้ามิได้อยู่ที่จวนกันหรอกหรือ”

เด็กหญิงเอ่ยถามเพราะนางรู้ว่าฉีอันหนิงมีพี่ชายถึงสามคน และก่อนหน้านี้เห็นบอกว่าฉีอันหนิงชอบมาตกปลากับพวกพี่ชาย แต่พอนางมาเยือนมิเห็นจะได้พบพี่ชายของสหายสนิทสักคน

“อยู่… แต่พวกเขามิยอมมาแถวนี้หรอก เพราะว่ามีเจ้ากับข้าอยู่ คงจะพากันไปอยู่ที่สวนอีกฝั่งน่ะ” ฉีอันหนิงตอบก่อนที่จะมองไปยังปลาตัวโตที่กำลังถูกย่างอยู่

“เสร็จหรือยัง ข้าหิวแล้ว” พอบ่าวได้ยินเช่นนั้นจึงพลิกซ้ายพลิกขวาอีกทีก่อนที่จะนำมาให้คุณหนูสี่กับสหายสนิทของนางได้รับประทาน

“มาเร็ว มาชิมปลาจวนของข้า เนื้อหวานอร่อยมิเหมือนที่ใดเลยล่ะ” ฉีอันหนิงโอ้อวดสหายสนิท อีกฝ่ายพยักหน้าก่อนที่จะรับตะเกียบมาจากนาง

“หืม… หวานจริงด้วย” พอได้ชิมเนื้อปลาปิ้งเข้าไปเด็กหญิงถึงกับพยักหน้าหงึกๆ

“พี่ซุนซุน มาชิมสิ”

ฉีอันหนิงเรียกเด็กรับใช้คนสนิทของนางเข้ามาชิม แม้คราแรกซุนซุนจะรู้สึกถ่อมตนเพราะนางกับคุณหนูสี่มิได้อยู่ตามลำพัง แต่พอได้รับอนุญาตจากสหายสนิทของคุณหนูด้วย นางเลยได้อ้าปากให้คุณหนูส่งเนื้อปลาอุ่นร้อนเข้าปากนาง ซึ่งสาวรับใช้ของซ่งเจียงซินก็ได้รับเนื้อปลาไปชิมเช่นกัน คุณหนูทั้งสองนอกจากจะมีรูปโฉมน่ารักน่าเอ็นดูมิต่างกัน ทั้งสองยังมีจิตใจดีมิแพ้กันด้วย

“ข้ากลับก่อนนะอันหนิง วันพรุ่งนี้เจอกันที่สำนักศึกษา” ซ่งเจียวซินเอ่ยออกมาก่อนที่จะขึ้นไปบนรถม้าของจวนสกุลซ่ง ทั้งสองโบกมือลากันก่อนที่รถม้าจะถูกขับเคลื่อนออกไป

“กลับไปแล้วหรือ" เสียงของพี่ชายคนโตเอ่ยถามขึ้นจากทางด้านหลัง ก่อนที่ฉีอันหนิงจะหันไปมองก็พบว่าพี่ชายทั้งสามยืนเรียงกันอยู่

“เจ้าค่ะท่านพี่ใหญ่… เอ… ท่านพี่ทั้งสามไปไหนกันมาหรือเจ้าคะ ตอนสหายของน้องอยู่มิเห็นท่านพี่เลยสักคน” เด็กหญิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“เจ้าจะบ้าหรืออันหนิง พวกพี่เป็นบุรุษจะให้ออกมาพบสตรีได้เช่นไรกัน” คำตอบของพี่รองทำเอาน้องเล็กหัวเราะออกมาจนเสียงดังลั่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel