2
Chapter 2
ตอนเช้าต้องตื่นมาวิ่งออกกำลังกาย รุ่นพี่ให้หยิบฉลากจัดกลุ่ม เธออยู่อีกกลุ่มหนึ่ง นึกเสียดายมากๆ ที่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับเขา
เขาไม่เห็นเธอหรอกนะ เพราะเธอไม่มีโอกาสเข้าใกล้เขาเลย มีแต่สาวๆ มารุมมาตุ้ม เธอเลยแอบมองเขาอยู่ห่างๆ
คิดๆ แล้วก็แอบหมั่นไส้ แต่ผู้หญิงหน้าตาธรรมดาแบบเธอ
ใครเขาจะสนใจกันล่ะ
ตอนแรกที่มาเข้าค่าย เธอไม่อยากมาเลย แต่ตอนนี้ไม่อยากให้ครบ
สามวันเลยด้วยซ้ำ
แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา...
หลังจากเข้าค่ายเสร็จก็มีการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ มารดาของเธอฝากเธอให้ไปอยู่กับหลานของท่าน เรียกให้ถูกคือลูกพี่ลูกน้องของเธอ
นับกันแล้วมีศักดิ์เป็นพี่สาว
พี่สาวเป็นพวกปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยร้อยละยี่สิบ อยู่ในชุมชน
ที่ไม่ไกลจากสถาบันที่เธอเรียนมากนัก หล่อนใจดีมาก ตอนเช้าๆ เธอมาเรียน
ก็เดินมาทางด้านหลังของสถาบัน ผ่านวิทยาลัยพลศึกษาไม่นานก็ถึงสถาบัน
ที่ตัวเองเรียนอยู่
การอยู่กับพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องดีอยู่อย่างคือไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน ค่าหอพัก มันก็ประหยัดไปอีกแบบหนึ่ง มารดาของเธอขายผัก ให้เงินเธออาทิตย์ละสองร้อยบาท โคตรน้อยมากสำหรับนักศึกษาอย่างเธอ แต่เธอซาบซึ้งในบุญคุณของท่าน สองร้อยบาทก็ทำให้เธอรอดชีวิตไปอีกอาทิตย์หนึ่ง
ท่านลำบากเดินไปหาผักเอามาขาย เหนื่อยหนักเหลือเกินเพราะ
กว่าจะได้มาต้องเดินลุยป่าเข้าไป เธอต้องใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้มีคุณค่ามากที่สุด บิดามีเพื่อนฝูงเยอะ ว่างๆ ก็ตั้งวงกินเหล้า แต่ยังดีที่มารดา
ใช้ให้ทำอะไรก็ทำ เห็นนิสัยบิดาแล้ว คิดว่าชาตินี้เธอจะไม่แต่งงานเด็ดขาด
ไม่อยากทุกข์ใจเหมือนมารดา ถึงแม้จะทำงานแต่ก็ชอบตั้งวงกินเหล้า
มันน่าเบื่อหน่ายเอามากๆ
เขาว่าเลือกผัวผิดคิดจนตัวตายน่าจะจริง
ถ้ามีผัวไม่ดี สู้อย่ามีเสียดีกว่า
มีคนเคยบอกว่าเกิดคนเดียวก็ตายคนเดียว เวลาเราจะตายก็ไม่มีใคร
มาตายกับเราด้วย
การอยู่กับพี่สาวก็ดีหรอก มีมอเตอร์ไซค์ให้ใช้ในบางครั้ง แต่มีคนบอกว่าชีวิตของคนเราไม่แน่นอน ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน สุดท้ายเธอ
ต้องย้ายมาอยู่หอพักในสถาบันแทนเพราะประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัว
ไปได้มาก จึงอยู่กับพี่สาวไปได้แค่หนึ่งเดือนเท่านั้น
“อุ๊ย! ขอโทษ” อันดาเอ่ยขอโทษเมื่อเดินชนเข้ากับร่างสูง
ของนักศึกษาในสถาบัน เธอเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะรีบก้มลงเก็บหนังสือ
ผู้ชายที่เธอแอบมองทุกวันเพราะชอบเขา นายวายุ วายุภัค
เธอเดินมาชนเขาได้ยังไงกันนะ!
โอ๊ย! ยายซุ่มซ่ามเอ๊ย...
อันดาลนลานเก็บของให้ยุ่งไปหมด วายุก้มลงไปช่วยเก็บ เขามอง
คนตรงหน้าขำๆ
“ไม่ต้องรีบหรอก”
“โอ๊ย!” เพราะมัวแต่ก้มเลยไม่เห็นว่าเขาก้มลงช่วยเก็บด้วย เธอเงยหน้าขึ้นอีกที ศีรษะจึงกระแทกเข้ากับคางของเขาเต็มๆ
“เป็นยังไงบ้าง ขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจ” อันดารีบเอ่ยขอโทษขอโพย
ยกใหญ่ เห็นเขาแล้วใจเธอเต้นกระหน่ำราวกับกลองเพล
โอ๊ย! หัวใจของเธอจะวายตาย
เธอเดินชนกับคนที่แอบปลื้ม...
วายุมองคนตรงหน้าอย่างนึกเอ็นดู ท่าทีโก๊ะๆ ของเธอทำให้เขา
ยกยิ้มมุมปาก ชายหนุ่มมองเธออย่างอึ้งๆ ได้เห็นในระยะประชิดแบบนี้
เธอน่ารักใช่เล่น เขาจำเธอได้ เพราะตอนไปเข้าค่ายรับน้องใหม่ร่วมกัน
เขาแอบมองเธอออกบ่อย
ผู้หญิงร่างอวบน่ามอง เธอไม่ได้สวยโดดเด่น แต่เขาคิดว่าเธอ
เป็นคนมีเสน่ห์ น่ารัก มองยังไงก็ไม่เบื่อ หลายคนอาจจะชอบมองผู้หญิงสวย แต่เขาชอบผู้หญิงน่ารัก ยิ้มแล้วแก้มน่าหยิกเหมือนเธอ
อันดากะพริบตาเมื่อเขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ในระยะประชิด
เธอก้มหน้างุดอีกครั้ง รีบเก็บหนังสือมากอดเอาไว้กับอก
โอ๊ย! ทำไมหัวใจมันเต้นแรงแบบนี้นะ มันจะกระโดดออกมานอกอก
อยู่แล้ว
“อันดาใช่ไหม” เขาเอ่ยถาม เธอมองเขาตาโต เขาจำเธอได้ด้วยเหรอ
ไม่น่าเชื่อ?
“ใช่ เราชื่ออันดา” คนตอบเขินอาย บิดไปบิดมา เธอทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ อยากจะหนีไปจากตรงนี้ แต่การได้มองหน้าเขาใกล้ๆ แบบนี้ ฟินไปถึง
ดาวอังคารเลยนะ เพราะตั้งแต่กลับจากเข้าค่ายรับน้องใหม่วันนั้น เธอก็ได้แต่แอบมองเขาอยู่ไกลๆ
“เราชื่อวายุนะ ชื่อเล่นว่าลม วันก่อนเราไปเข้าค่ายด้วยกันจำได้ไหม”
“จำได้สิ” เธออุบอิบตอบ คนที่เราปลื้ม ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ “เราเรียน microbiology เอ่อ... จำเราได้ด้วยเหรอ”
ที่นี่เขาให้นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์กับเกษตรศาสตร์ไปเข้าค่ายด้วยกัน
“จำได้สิ... เด็กสายวิทย์ฯ” ใส่กระโปรงยาวเกือบถึงข้อเท้า ท่าทีน่าเอ็นดูของเธอทำให้เขาจำได้ติดตา
“ลมเองก็ต้องเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ด้วยไม่ใช่เหรอ เรียนเกษตรนี่นา” เธอชวนเขาคุย เก้อเขินจนแทบวางไม้วางมือไม่ถูก เลยกระชับหนังสือในมือแน่นขึ้น
“ใช่ ไม่รู้จะเลือกเรียนอะไรดี เลยเลือกตามเพื่อนน่ะ” เขาตอบอย่าง
ไม่ใส่ใจนัก ท่าทีดูเป็นกันเองและรอยยิ้มนั้นทำให้เธอหายเกร็ง
เขายิ้มทีทำเอาคนมองใจละลาย จนเธอต้องเสไปมองทางอื่น ไม่กล้ามองมากๆ กลัวว่าตัวเองจะเป็นลมล้มพับลงไปตรงหน้าเขา
“อันดาก็เลือกเรียนตามเพื่อน เคยสอบติดมหาวิทยาลัยอีกที่หนึ่ง
แต่ไม่ได้เรียน”
“ทำไมล่ะ”
“ที่บ้านอยากให้เรียนใกล้ๆ” เธอไม่กล้าบอกหรอกว่าไม่มีเงินเรียนต่อ
ที่บ้านค่อนข้างมีฐานะมาก ฐานะยากจนยังไงล่ะ!!!
“พักอยู่ที่ไหนเหรอ มาจากจังหวัดอะไรล่ะ” วายุเอ่ยถาม เธอเอาแต่
ก้มหน้างุดขณะเดินไปพร้อมๆ กับเขา เธอดูแปลกดีจนเขานึกเอ็นดู
แลดูเป็นผู้หญิงขี้อายที่ไม่มีจริต
“อยู่ใกล้ๆ นี่แหละ อันดาพักอยู่ในหอของสถาบันนี่ล่ะจ้ะ”
“เห็นว่าค่าหอถูกดีใช่ไหม”
“ใช่แล้วจ้ะ” ไม่อยากบอกว่านอกจากค่าหอถูกแล้วยังต้องตื่นตั้งแต่ตีห้ามาขัดห้องน้ำ ทำความสะอาดหอและวิ่งในตอนเช้า โดนรุ่นพี่ว้ากจนอยาก
เอาสำลีอุดหู ข้าวปลาอาหารบางวันแทบไม่ได้กิน จนโรคกระเพาะถามหา
“รุ่นพี่ที่สาขาวิชาของอันดาโหดไหม”
“โหดสิ ว้ากเสียสะดุ้งเลย” เธอทำหน้าแหยๆ แค่คิดก็ชวนขนลุก
“รุ่นพี่ที่สาขาวิชาลมก็โหดนะ รุ่นพี่ผู้หญิงเสียงแปดหลอดแน่ะ!” เขาพูดแล้วหัวเราะ ไม่ได้ทำท่าขนลุกเหมือนเธอ อันดาแอบรู้มาว่ารุ่นพี่ชอบวายุมากๆ เพราะเขาอาจจะเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในคณะ น้องใหม่ไฟแรง พี่ๆ เลยไม่ค่อยอะไรมากมาย อาจจะแกล้งแต่เพราะความเอ็นดูเสียมากกว่า
แม้สาขาเกษตรศาสตร์จะไปรับน้องพร้อมๆ กับคณะวิทยาศาสตร์
เพราะสถาบันเล็กมาก แต่พอหมดช่วงรับน้องรวม พวกเด็กที่เรียนเกษตรฯ
ก็แยกไปรับน้องเฉพาะสาขาของตัวเอง
ที่นี่รวมสาขาวิชาเกษตรศาสตร์ วิทยาศาสตร์การอาหารเอาไว้กับ
คณะวิทยาศาสตร์ ชื่อเต็มของคณะจึงเป็น วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร
สาขาคณิตศาสตร์อีกแขนงวิชาหนึ่งที่ต้องมารับน้องที่คณะวิทยาศาสตร์ เธอก็งงๆ กับธรรมเนียมของสถาบันนี้เพราะว่าสาขานี้ไม่ได้วุฒิ วทบ. แต่ได้วุฒิ คบ. ตอนจบปริญญาตรี
เด็กที่มาเรียนสาขาคณิตศาสตร์เลยโดนรับน้องคณะครุศาสตร์ด้วย
เรียกว่าโดนรับน้องหลายด้าน รับกันไม่หวาดไม่ไหว ไม่รู้จะรับอะไร
กันนักกันหนา
“ต้องไปก่อนนะ นัดเพื่อนเอาไว้” วายุบอกคนตรงหน้าเมื่อเดินมาส่งเธอที่หน้าหอพัก
หอพักของเธออยู่หน้าอาคารเรียนของสาขาวิชาที่เขาเรียนอยู่
อยากจะบอกว่าเธอแอบมองเขาที่ริมหน้าต่างห้องนอนทุกวัน แล้วก็เอาไปฝันถึง เห็นหน้าแล้วฟินสุดติ่ง
เธอมองเขาตาลอย เขินอายทุกครั้งที่สบตา รู้สึกแก้มร้อนผ่าวไปหมด เขาจะรู้ไหมว่าเธอลวนลามเขาทางสายตาทุกวัน