บทที่ 5 อสูรร้าย 1.4
อเล็สซานโดรไม่ผิดหวังที่เลือกอแมนดามาเป็นนางแบบ ให้เธอโดดเด่นด้วยการสวมสร้อยเพชรชุดพิเศษนี้ เพื่อหวังกระตุ้นยอดขายที่ดูแล้วว่า เขาได้กำไรจากการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่นี้ไม่น้อยเลย อเล็สซานโดรลุกขึ้นยืนเมื่อการเดินแบบของเธอจบลง และเดินขึ้นไปบนเวที เสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นไม่ขาด เมื่อนักข่าวและแขกผู้ร่วมงาน ต่างถ่ายภาพอเล็สซานโดรมอบช่อดอกไม้ให้กับอแมนดา พร้อมจุมพิตที่เเก้มนวลทั้งสองข้าง ก่อนจะประคองกอดให้ช่างภาพถ่ายรูปคู่กัน เหมือนจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเขาได้มีอาหารว่างจานใหม่เป็นนางแบบสาวคนนี้ ซึ่งอแมนดาเต็มใจอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่งนี้ เพราะมันคือจำนวนเงินมหาศาลที่เธอจะได้ตอบแทน
เมื่องานเสร็จสิ้นลง อแมนดาเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวที่ทางคณะผู้จัดงานเตรียมไว้ให้ เพราะรู้กิตติศัพท์ของเธอว่าเรื่องมากแค่ไหน ทุกอย่างต้องดีและเครื่องสำอางที่นางแบบสาวใช้ ต้องเป็นของส่วนตัวของเธอเท่านั้น และที่สำคัญหากใครจ้างเธอมาทำงาน ต้องมีห้องส่วนตัวให้ทุกงาน
“ทาร่าเป็นอะไร” อแมนดาเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับอเล็สซานโดร สีหน้าของทิพย์ธาราตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้างามซีดลงถนัดตา น้ำตาเอ่อคลอเบ้าเมื่อเห็นหน้าหล่อเหลาคมเข้มของอเล็สซานโดร
“ปะ เปล่าเสร็จงานแล้วเหรอจะกลับหรือยัง” ทิพย์ธาราเอ่ยถามเสียงเบา ต้องการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่มมาดเข้มมองมาที่เธอ ด้วยแววตาที่หิวกระหาย
“เดี๋ยวฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” อแมนดากำลังเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดที่อยู่ด้านริมของห้อง หากแต่ทิพย์ธาราเดินตามเธอเข้าไปด้วย
“ทาร่า ออกไปคอยข้างนอกก่อนก็ได้ เธอจะตามฉันมาทำไม” อแมนดาถามอย่างหงุดหงิด
“ก็ เผื่ออแมนดามีอะไรให้ช่วยไง อย่างเช่นรูดซิปหรือว่าอะไรประมาณเนี้ย” ทิพย์ธาราแก้ตัว เพราะเธอไม่อาจบอกเหตุผลที่แท้จริงได้ว่า ไม่ต้องการอยุในห้องนี้ตามลำพังกับอเล็สซานโดรต่างหาก
“ไม่ต้องหรอก ชุดแค่นี้ฉันเปลี่ยนเองได้ ยากกว่านี้ฉันยังถอดได้เลย ออกไปคอยข้างนอกไป” ทิพย์ธาราจำต้องออกมานอกห้องเปลี่ยนชุดอย่างไม่เต็มใจ พอก้าวออกมาเท่านั้นเธอแทบอยากจะเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวใหม่ เพราะร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหาร่างเล็กทันที
“กลัวฉันเหรอ” เขาเอ่ยถาม ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหาร่างบาง ทิพย์ธาราถอยร่นจนแผ่นหลังของเธอติดกับผนังห้อง จนไม่สามารถหนีเขาพ้น พร้อมกับก้มหน้างุดหลีกหนีสายตาของเขา ชายหนุ่มเอามือทั้งสองข้างเท้ากำแพง เพื่อกักร่างบางไม่ให้หนีได้
“ว่าไงฉันถามว่ากลัวฉันเหรอ” ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้ชิดเรียวหน้าบาง ก่อนจะถาม
“กลัวค่ะ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ” ทิพย์ธาราตอบตรงๆ เสียงหัวเราะของอเล็สซานโดรดังอยู่ในลำคอ นิ้วเรียวยาวของเขาเชยคางมนขึ้นมา ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้เธอมากยิ่งขึ้น จนริมฝีปากทั้งสองห่างกันไม่ถึงสองนิ้ว ทิพย์ธาราหลับตาแน่นเมื่อได้สัมผัสกับลมหายใจของเขา หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความกลัวระคนตื่นเต้น กลัวว่าเขาจะทำแบบเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ตื่นเต้นที่ใบหน้าของเขาอยู่ชิดจนได้รับรู้ลมหายใจของกันและกัน
“คงจะไม่ได้ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ฉันอยากทำมากที่สุด” ชายหนุ่มใช้ริมฝีปากแตะที่เรียวปากนุ่มเบาๆ และเพิ่มแรงบดเคล้ายิ่งขึ้น แต่เหมือนสวรรค์ช่วยทิพย์ธาราเมื่อเสียงเปิดประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าถูกเปิดออก ทำให้อเล็สซานโดรจำต้องผละจากร่างของทิพย์ธารา ก่อนที่อแมนดาอาหารว่างรสจัดจ้านของเขาจะเห็น
“ทาร่า เก็บของสิจะได้กลับแล้วนี่เป็นอะไรยืนตัวสั่นเชียว อแมนดาเอ่ยถาม
“ปะ เปล่าไม่เป็นอะไรพอดีเห็นแมลงตัวใหญ่” เป็นอีกครั้งที่เธอแก้ตัว
“แค่แมลงตัวเดียวแกยืนตัวสั่นขนาดนี้เลยเหรอไปเก็บของไปจะได้รีบกลับ” ทิพย์ธารารีบเก็บของใช้ส่วนตัวของนางแบบสาวทันที เพราะเธออยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ทั้งหมดเดินออกมาจากห้องส่วนตัวเพื่อเดินทางกลับบ้าน โดยมีคนของอเล็สซานโดรยืนรออยู่ที่หน้าห้อง อแมนดาทักทายเพื่อนรวมงานที่อยู่ด้านนอก ที่เป็นเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน
“อ้าว ลูกแมวน้อยมาด้วยเหรอ” โทมัสนายแบบชาวอังกฤษที่มาเอาดีทางด้านเดินแบบในอิตาลี เอ่ยทักทิพย์ธารา ที่เดินตามหลังอแมนดามา เพราะทั้งสองสนิทสนมกัน เนื่องจากเจอกันตามงานที่อแมนดารับงานอยู่บ่อยครั้ง โทมัสเป็นคนคุยสนุก สุภาพ อัธยาศัยดีและที่สำคัญเห็นทิพย์ธาราเหมือนน้องสาว เขาเป็นคนเดียวที่เรียกเธอว่าลูกแมวน้อย ซึ่งเป็นชื่อเล่นของเธอ
“ฉันเดินมานี่ นายไม่ทักฉันเลยนะโทมัส ทักแต่ทาร่า” อแมนดาอดค่อนขอดไม่ได้
“จะทักเธอทำไม เมื่อกี้ก็เดินแบบด้วยกัน” โทมัสพูดก่อนจะเดินไปหาทิพย์ธารา โดยมีสายตาที่ไม่พอใจของอเล็สซานโดร มองตามผ่านแว่นตาสีชาเข้มที่เพิ่งสวมใส่ตอนออกมาจากห้อง
“ลูกแมวน้อยกลับด้วยกันหรือเปล่า” โทมัสเอ่ยชวน เพราะอพาร์ตเมนต์ของทิพย์ธารา เป็นทางผ่านของคอนโดที่เขาพักอาศัย ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณสองร้อยเมตรเท่านั้น
“ไปสิ ไป” ทิพย์ธาราตอบแบบไม่ต้องคิด
“งั้นไปกลับบ้าน ว่าแต่ไปหาอะไรกินกันก่อนนะ ผมหิว”