บทที่ 4 อสูรร้าย 1.3
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูหน้าห้องแต่งตัวของอแมนดาดังขึ้นหลายครั้ง หากแต่อเล็สซานโดรหาสนใจไม่เพราะสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดตอนนี้คือ หญิงสาวร่างอ่อนระทวย ใบหน้าแดงซ่านด้วยความเสน่หาที่ถูกปลุกเร้า ดวงตาฉ่ำปรือ ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยปล่อยเสียงครางเบาๆ ชวนฟัง ทรวงอกอวบใหญ่คู่สวยที่เขากำลังครอบครองนี้ต่างหาก คือสิ่งที่เขาต้องการ และต้องการมากกว่าจูบด้วย
“เจ้านายครับ เจ้านาย” โรแบร์โตลูกน้องคนสนิทตัดสินใจตะโกนเรียก เมื่อเขาเพียรพยายามเคาะประตูนับสิบครั้ง จึงตัดสินใจเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อแทน
“บ้าเอ๊ย!” อเล็สซานโดรสบถ เมื่อเสียงของลูกน้องคนสนิทร้องเรียกไม่หยุด อสูรร้ายจึงผละออกจากทรวงอกคู่สวยอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะเดินไปยังประตูและกระชากมันสุดแรงด้วยอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนัก
โรแบร์โตเห็นสีหน้าของผู้เป็นเจ้านายแล้วก็แทบอยากจะหมุนตัวหนีไปให้ไกลรัศมีสายตาก็ว่าได้ ใบหน้าของอเล็สซานโดรบึ้งตึงและค่อนข้างแดง ดวงตาคมกล้าแข็งราวกับหิน
“มีอะไร ถ้าไม่มีอะไรสำคัญแกตาย” อเล็สซานโดรพูดเสียงเข้ม
“ได้เวลาเปิดงานแล้วครับ” โรแบร์โตตอบ
อเล็สซานโดรหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น เมื่อรู้ว่าต้องห่างร่างบางที่หอมละมุนลิ้นนี้ไป แต่งานก็ต้องสำคัญกว่าอาหารจานว่างจานนี้อยู่แล้ว
“รอก่อน” มาเฟียเอาแต่ใจพูดก่อนจะปิดประตูใส่หน้าลูกน้องทันที
ทิพย์ธารานั่งชันเข่ากอดตัวเองอยู่บนพื้นห้องหลังจากเขาผละห่างร่างของตนและรีบจัดการกับเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ยังนึกขอบคุณคนที่ขัดจังหวะที่เปรียบเสมือนผู้มีพระคุณมาช่วยชีวิตเธอ ไม่เช่นนั้นเธออาจจะโดนเขาย่ำยีมากกว่านี้ก็เป็นได้
แต่มีเรื่องหนึ่งที่ทิพย์ธาราไม่เข้าใจ เรื่องนั้นก็คือ เหตุใดร่างกายจึงคล้อยตามเขา ทั้งที่เขาเป็นชายแปลกหน้า เธอน่าจะขยะแขยงสัมผัสของเขามิใช่หรือ แต่ไม่เลย ทิพย์ธาราไม่มีความรู้สึกนั้น แถมบางครั้งยังโอนอ่อนผ่อนตามเขาด้วย ความคิดและปากร้องห้าม ทว่าร่างกายไม่สนองตามความคิดเอาเสียเลย
อเล็สซานโดรมองลูกแมวน้อยที่นั่งตัวสั่นบนพื้นเพียงไม่กี่อึดใจ แล้วจึงทรุดตัวนั่งยองๆ ด้วยเข่าเพียงข้างเดียว ใช้ปลายเท้ารับน้ำหนักตัวเอง ส่วนขาอีกข้างตั้งชัน ปลายนิ้วแกร่งเชยคางมนขึ้นมา ดวงตาคมมีเสน่ห์มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่เวลานี้มีน้ำตาเอ่อล้นขอบตา
“จำไว้ต่อไปนี้เธอเป็นของฉัน” เขาพูดเชิงสั่ง น้ำเสียงเข้มน่าขนลุก
“ฉันไม่ใช่ของคุณ” ทิพย์ธาราเถียงกลับ แม้ว่าในใจจะกลัวสายตาที่มองมาอย่างดุดันก็ตาม “แล้วก็ไม่มีวันเป็นด้วย”
“อยากลองดีก็เอา ฉันไม่สนอยู่แล้ว แต่ถ้าเธอยุ่งกับผู้ชายคนไหน ฉันเอามันตายแน่”
“ฉันบอกแล้วไงว่า ฉันไม่ใช่ของคุณ วันนี้ก็ไม่ใช่ พรุ่งนี้ก็ไม่ใช่ ฉันจะยุ่งกับใครมันก็เรื่องของฉัน” อเล็สซานโดรจ้องมองหญิงสาวที่กล้าเถียงเขาด้วยสายตาดุกร้าว
“ฉันเตือนแล้ว ถ้าอยากลองดีนักก็ตามใจ”
ชายหนุ่มเดินออกไปจากห้องทันทีที่พูดจบ ปล่อยให้ร่างบางนั่งร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้น มองดูตัวเองเหมือนคนไร้ค่าปล่อยให้ชายแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จัก สัมผัสร่างกายสาวอย่างจาบจ้วง โดยที่ตัวเองก็เผลอไผลไปกับสัมผัสนั้นเช่นกัน
ทิพย์ธาราไม่รู้หรอกว่าเขาคือใครและไม่อยากรับรู้ด้วย เฝ้าแต่ภาวนาในใจว่า อย่าได้เจอะเจอเขาอีกเลย เธอกลัว กลัวว่าเหตุการณ์เมื่อครู่จะเกิดขึ้นอีก ถ้าหากเกิดขึ้นอีกครั้ง บางทีเธออาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้ก็เป็นได้
........
อเล็สซานโดรนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหน้าสุดโซนวีไอพีที่จัดเตรียมไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติ สายตาดุจดังเหยี่ยวจับจ้องไปยังร่างของนางแบบนับสิบคน แต่ละคนสวมเครื่องเพชรราคาแพงของเขาเดินโชว์ให้แขกผู้มาร่วมงานได้ชมความงามของเพชรหลากสี ที่มีคุณค่าและราคาที่แตกต่างกันไป หากแต่หัวใจของเขากลับถวิลหาสาวน้อยที่ตัวสั่นคล้ายกับลูกนกเปียกฝน ยามที่เขาลูบไล้สัมผัส ผิวเนื้อที่เนียนนุ่มลื่นดุจแพรไหมชั้นเลิศ ตราตรึงอยู่ในความรู้สึกและปลายจมูกของเขา
“เจ้านายครับ เจ้านาย” โรแบร์โตเรียกเจ้านายหนุ่มอยู่หลายครั้ง หากไม่ได้รับการตอบรับเลยสักครั้งเดียว “เจ้านาย เจ้านาย”
คราวนี้โรแบร์โตไม่เพียงแค่เรียก ยังใช้มือสะกิดท่อนแขนของเจ้านายที่เหม่อลอยราวกับว่าจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“อะไรโรแบร์โต” เจ้านายหนุ่มหันมาถามเสียงขุ่น
“ดอกไม้ครับ อแมนดาจะเดินออกมาเป็นคนสุดท้ายครับ”
โรแบร์โตส่งช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้อเล็สซานโดรที่เวลานี้หน้ายุ่งไม่น้อย ก่อนจะเอื้อมมือมารับช่อดอกไม้มาถือไว้ รอเวลาให้นางแบบคนดังกล่าวเดินแบบเสร็จ เขาจึงมอบช่อดอกไม้ช่อนี้ให้กับเธอตามพิธีการ
ไม่ถึงหนึ่งนาทีร่างของอแมนดาก็เดินออกมาพร้อมกับสวมชุดราตรีสีแดงสด เธอสวมเครื่องเพชรชุดสำคัญของงานครบชุด ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ แหวน ต่างหูและสร้อยข้อมือ สนนราคาคิดเป็นเงินไทยก็ราวห้าร้อยล้านบาท ที่ราคาสูงอาจเป็นเพราะจี้รูปหัวใจที่ทำจากเพชรสีชมพู เพชรที่หายากที่สุดและที่สำคัญมีเพียงสามชุดเท่านั้น และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้มูลค่าของสร้อยเส้นนี้มีราคาแพง
แล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่ออแมนดาออกมาเดินบนแคตวอล์กสายตาทุกคู่มองมาที่ร่างของเธอเป็นตาเดียว ความสวยสง่าด้วยชุดราตรีจากห้องเสื้อดังทำให้เธอดูโดดเด่น และยิ่งเธอสวมเครื่องเพชรชุดนี้ด้วยแล้ว อแมนดายิ่งดูสง่างามจับตา